fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

วิตามินผิวพรรณ ตัวช่วยกู้ผิวสวย เจาะลึกทุกประโยชน์ที่คุณควรรู้!

วิตามินผิวพรรณ ตัวช่วยกู้ผิวสวย เจาะลึกทุกประโยชน์ที่คุณควรรู้!
วิตามินผิวพรรณ ตัวช่วยกู้ผิวสวย เจาะลึกทุกประโยชน์ที่คุณควรรู้!

การดูแลผิวพรรณให้สุขภาพดีและเปล่งปลั่งอยู่เสมอเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ วิตามินบำรุงผิวจึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิวจากปัญหาต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ความหมองคล้ำ หรือปัญหาผิวแห้ง

ในบทความนี้ Better Me Clinic จึงจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิตามินบำรุงผิวพรรณให้มากขึ้น รวมถึงแนะนำวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวและวิธีการเลือกรับประทานวิตามินบำรุงผิวให้เหมาะสมกับคุณ

วิตามินบำรุงผิวพรรณสำคัญอย่างไร?

วิตามินที่ช่วยบำรุงผิวพรรณมีหลากหลายชนิด ซึ่งในแต่ละชนิดมักจะมีคุณสมบัติเฉพาะในการเสริมสร้างสุขภาพผิวและป้องกันปัญหาผิวพรรณที่แตกต่างกันไป ดังนี้

1. วิตามิน A

วิตามินเอ นับเป็นวิตามินที่มีบทบาทสำคัญในการบำรุงผิว โดยเฉพาะวิตามินเอที่อยู่ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) ที่มักถูกนำมาใส่เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในรูปแบบของ Active Ingredient เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มการสร้างคอลลาเจน และช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของเซลล์ผิว

ส่วนวิตามินเอที่อยู่ในรูปของเตรตินอยด์ (Tretinoin) หรือเรตินอลฟอร์มยา เป็นอนุพันธ์วิตามินเอที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิตามินที่อยู่ในฟอร์มที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที แต่เตรตินอยด์นั้นจัดอยู่ในประเภทของกลุ่มยา ทำให้ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น และไม่สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้

นอกจากเตรตินอยด์แล้ว วิตามินเอยังมีฟอร์มอื่น ๆ ให้เลือกใช้อีกมากมาย เช่น เรตินอล ที่เป็นวิตามินเอบริสุทธิ์ พบมากในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้เรตินอยด์ อย่างไรก็ตาม การใช้วิตามินเอในการบำรุงผิวอาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงแดด แพทย์จึงแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ในเวลากลางคืนเท่านั้น ร่วมกับการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) และการใช้ครีมกันแดดในตอนเช้า

2. วิตามิน C

วิตามินซี เป็นสารอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในด้านการบำรุงผิวพรรณ เนื่องจากวิตามินซีมีคุณสมบัติเด่นที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวดูกระชับและอ่อนเยาว์ 

นอกจากนี้ วิตามินซียังมีบทบาทสำคัญในการลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ รวมถึงช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสมากขึ้นด้วย วิตามินซีเลยถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากรังสียูวี ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและแก่ก่อนวัยได้เป็นอย่างดี

สำหรับแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ได้แก่ ผลไม้ตระกูลส้ม, มะนาว, กีวี, สตรอว์เบอร์รี และผักใบเขียว ซึ่งสามารถรับประทานเพื่อเสริมสร้างสุขภาพผิวที่ดีได้ในทุกวัน

3. วิตามิน E

วิตามินอี เป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน แต่ร่างกายกลับไม่สามารถผลิตขึ้นมาเองได้ ทำให้ต้องอาศัยการรับประทานอาหารหรือวิธีอื่น ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินอีอย่างเพียงพอ

วิตามินอีมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระเหมือนกับวิตามินซี โดยคุณสมบัติหลักของวิตามินอีและวิตามินซีจะไม่แตกต่างกันมาก ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันผิวจากมลภาวะภายนอก ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยก่อนวัย หรือลดจุดด่างดำ

แต่คุณสมบัติที่โดดเด่นของวิตามินอีคือการช่วยรักษาความชุ่มชื้นและลดอาการแห้งของผิว โดยวิตามินอีจะทำงานร่วมกับไขมันธรรมชาติในผิวของเรา เพื่อสร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน และดูสุขภาพดี รวมทั้งยังมีส่วนช่วยในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้นอีกด้วย

4. วิตามิน D

หลายคนมักเข้าใจว่าวิตามินดีมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดูกเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ววิตามินดีมีบทบาทสำคัญในการบำรุงผิวพรรณด้วย โดยวิตามินดีนั้นมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิวและรักษาสมดุลของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนและดูสุขภาพดีขึ้น

นอกจากนี้ วิตามินดียังมีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ผื่นคัน ผื่นแพ้อากาศ หรือโรคผิวหนังอักเสบ เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

ปัจจัยที่ทำลายคอลลาเจน

ปัจจัยที่ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลงมีทั้งปัจจัยภายในที่เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ และปัจจัยภายนอกที่เกิดจากพฤติกรรมหรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้

  • อายุ (Aging) เมื่ออายุมากขึ้นเซลล์ต่าง ๆ จะค่อย ๆ เสื่อมสภาพลง ซึ่งรวมถึงกระบวนการผลิตคอลลาเจนด้วย โดยการผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ปีละ 1% โดยเริ่มขึ้นเมื่อเราอายุ 20 ปีขึ้นไป
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ช่วยควบคุมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย รวมถึงกระบวนการสร้างคอลลาเจนและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เมื่อใดก็ตามที่ฮอร์โมนชนิดนี้ทำงานผิดปกติ ก็จะทำให้กระบวนการผลิตคอลลาเจนผิดปกติไปด้วย
  • รังสียูวีจากแสงแดด ในแสงแดดจะมีรังสียูวี (Ultraviolet Radiation) ที่สามารถทะลุเข้าสู่ผิวหนังได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ โดยรังสียูวีจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างสารอนุมูลอิสระ รวมถึงทำลายอีลาสตินและคอลลาเจน ทำให้ผิวเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว
  • การสูบบุหรี่ สารเคมีในบุหรี่ เช่น นิโคติน (Nicotine) และน้ำมันทาร์ จะเข้าไปขัดขวางระบบการไหลเวียนโลหิตและกระตุ้นการสร้างสารอนุมูลอิสระ ทำให้จำนวนอีลาสตินและคอลลาเจนลดลง
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากในขณะที่เรานอนหลับร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน (Melatonin) ออกมาเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หากไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอก็จะทำให้ผิวไม่ได้รับการฟื้นฟู คอลลาเจนที่ควรจะผลิตออกมาใหม่ก็ถูกหยุดชะงักไปด้วย
  • การดื่มสุรา จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะคายน้ำ (Dehydration) และลดการดูดซึมสารอาหารที่สำคัญสำหรับการสร้างคอลลาเจน
  • พฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะการรับประทานอาหารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเป็นประจำ เนื่องจากการย่อยอาหารประเภทนี้จะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชัน (Glycation) ซึ่งเป็นกระบวนการเปลี่ยนแป้งให้เป็นโมเลกุลน้ำตาล ส่งผลให้กระบวนการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติถูกรบกวน ซึ่งรวมถึงการสร้างคอลลาเจนลดลงด้วย
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

วิตามินบำรุงผิวพรรณมีกี่รูปแบบ?

วิตามินบำรุงผิวพรรณสามารถรับเข้าสู่ร่างกายได้หลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบจะมีลักษณะการทำงานรวมถึงข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป โดยปัจจุบันมีวิตามินบำรุงผิวพรรณอยู่ 3 รูปแบบ ดังนี้

1. วิตามินบำรุงผิวพรรณแบบรับประทาน

หากกำลังมองหาวิธีบำรุงผิวพรรณด้วยวิตามิน การปรับเปลี่ยนเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีเริ่มต้นที่เหมาะสม เพราะนอกจากจะเป็นผลดีต่อผิวพรรณแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย โดยอาหารที่มีวิตามินสูง มีดังนี้

  • อาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น ผักขม, บรอกโคลี, คะน้า, แครอท, ฟักทอง, มันหวาน หรือมะละกอ การรับประทานอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ผิวได้รับการฟื้นฟู อีกทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาและป้องกันการอักเสบของเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ ภายในร่างกายด้วย
  • อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม, เลมอน, กีวี, ฝรั่ง หรือผักใบเขียว อาหารเหล่านี้นอกจากจะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัดและลดอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจได้เป็นอย่างดี
  • อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น อัลมอนด์, วอลนัท, เมล็ดทานตะวัน, น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวไปพร้อม ๆ กับปกป้องเซลล์ผิวจากสารอนุมูลอิสระ รวมถึงช่วยบำรุงเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงและเงางามมากขึ้น
  • อาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาซาร์ดีน, เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม มีส่วนช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในชั้นผิวหนัง รวมถึงช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็ง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้า

นอกจากนี้ หากกังวลว่าการรับประทานอาหารเหล่านี้เพียงอย่างเดียวจะได้รับวิตามินไม่เพียงพอ ปัจจุบันก็มีวิตามินบำรุงผิวพรรณในรูปแบบอาหารเสริมให้เลือกอีกหลากหลายชนิด เช่น

  • สารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) เป็นสารสกัดจากเมล็ดองุ่นที่อุดมไปด้วยโปรแอนโธไซยานิดิน (Proanthocyanidins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์ในการปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำ เสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวเต่งตึง ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ลดการอักเสบ และช่วยบำรุงสายตาได้
  • แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่พบในสาหร่ายสีแดงและสัตว์ทะเล เช่น ปลาแซลมอนและกุ้ง โดยแอสตาแซนธินมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอย ปกป้องผิวจากรังสี UV ลดอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ ฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกาย รวมถึงช่วยสนับสนุนการทำงานของหัวใจ หลอดเลือด และสมอง

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจรับประทานวิตามินอาหารเสริมควรศึกษาเกี่ยวกับส่วนประกอบให้ละเอียดและควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน รวมถึงควรรับประทานควบคู่ไปกับการดูแลผิวอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

2. วิตามินบำรุงผิวพรรณแบบใช้ภายนอก

วิตามินบำรุงผิวพรรณแบบใช้ภายนอกหรือครีมบำรุงผิว เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูและดูแลสุขภาพผิวโดยตรง 

ส่วนมากมักจะมาในรูปแบบเซรั่ม ครีม หรือโลชั่น ซึ่งเน้นการบำรุงเฉพาะจุด เช่น การเพิ่มความชุ่มชื้น, ลดเลือนริ้วรอย, ลดจุดด่างดำ และช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น 

โดยวิตามินที่นิยมนำมาใช้ครีมบำรุงผิว ได้แก่ วิตามินซี ที่ช่วยลดจุดด่างดำและเสริมความกระจ่างใส วิตามินอี ที่ให้ความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว และวิตามินเอ (เรตินอล) ที่ช่วยลดริ้วรอยและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวเฉพาะตัวเลยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

3. ดริปวิตามินผิว

การดริปวิตามินผิว เป็นการเติมวิตามินและสารอาหารเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดโดยตรง (Intravenous Vitamin Therapy) ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างรวดเร็วและเต็มประสิทธิภาพ

การดริปวิตามินผิวมักประกอบไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี ที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส, กลูตาไธโอน ที่ช่วยลดจุดด่างดำ และวิตามินบีรวม ที่ช่วยฟื้นฟูความสดใสของผิว โดยที่ Better Me Clinic จะมีการดริปวิตามินที่ตอบโจทย์กับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณมากถึง 3 แบบ ดังนี้

  • Sexy White Drip ประกอบไปด้วยวิตามินซีเข้มข้นและแร่ธาตุที่จำเป็นต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยปรับให้ผิวขาวกระจ่างใสมากขึ้น ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ ช่วยทำให้สีผิวสม่ำเสมอ รวมถึงช่วยทำให้ผิวดูกระชับขึ้น
  • Super Aura Drip ประกอบด้วยไปด้วยวิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และกรดอะมิโนเข้มข้น ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้นเมื่อรับบริการอย่างต่อเนื่อง
  • Extreme Aura Drip ประกอบด้วยไปด้วยวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 กรดอะมิโน และกลูตาไธโอนเข้มข้น โดยกลูตาไธโอนจะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น รวมถึงช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายจากกรดอะมิโนเข้มข้น

สรุปเกี่ยวกับวิตามินบำรุงผิวพรรณ

วิตามินบำรุงผิวพรรณ เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยกู้ผิวให้กลับมาแข็งแรง สุขภาพดี และดูกระจ่างใสขึ้นได้ โดยวิตามินแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น วิตามินซี ช่วยให้ผิวขาวใส, วิตามินอี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น หรือวิตามินดี ที่ช่วยลดการอักเสบ

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินที่เหมาะสมกับสภาพผิวจะช่วยแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุด นอกจากนี้ การดริปวิตามินผิวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยดูแลผิวพรรณและสุขภาพโดยรวมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ถ้ายังไม่มั่นใจว่าควรดูแลผิวด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตถการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคสได้เลย ติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าคุณจะมีผิวสวย ๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน!

  • McKay, D. Vitamins & Dietary Supplements. (2014, February 1). Dear Doctor. https://www.deardoctor.com/articles/vitamins-and-dietary-supplements/
  • ฉีดวิตามินผิว ดีแค่ไหน? บำรุงสุขภาพอย่างไร อ่านได้ที่นี้  (2567, กันยายน 25). HDmall. https://hdmall.co.th/blog/c/iv-drip/
  • รู้จัก 3 วิตามินยอดฮิตเอ ซี และอี (2567, พฤศจิกายน 25). HDmall. https://hdmall.co.th/blog/health/vitamins-a-c-e-benefits-and-harm/
  • วิตามินอี วิตามินที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับผิวหมองคล้ำ คล้ำเสีย. Eucerin. https://www.eucerin.co.th/about-skin/basic-skin-knowledge/vitamin-e
  • ทำความรู้จักวิตามินเอ Active ingredient ที่มาแรงในวงการสกินแคร์. Mesoestetic. https://mesoestetic-th.com/what-are-the-different-types-of-vitamin-a-in-skincare/

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ