fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

"หน้าบาง" ทาอะไรก็แสบ ปัญหาผิวที่ไม่ควรละเลย รีบดูแลก่อนสาย!

"หน้าบาง" ทาอะไรก็แสบ ปัญหาผิวที่ไม่ควรละเลย รีบดูแลก่อนสาย!
"หน้าบาง" ทาอะไรก็แสบ ปัญหาผิวที่ไม่ควรละเลย รีบดูแลก่อนสาย!

หน้าบาง ทาอะไรก็แสบ มิหนำซ้ำผิวยังใสจนเห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน ใครมีปัญหาแบบนี้อยู่อย่าพลาดบทความนี้เด็ดขาด เพราะตอนนี้ชั้นผิวของคุณอาจกำลังถูกทำลาย!

มาทำความรู้จักกับปัญหา “ผิวหน้าบาง” ปัญหาผิวที่เป็นแล้วไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย แต่ยังอาจเป็นตัวการสำคัญของปัญหาผิวอื่นๆ ทั้งผิวแห้งลอกเป็นขุย มีริ้วรอยก่อนวัย รวมถึงปัญหาฝ้า กระ ถ้าพร้อมแล้วก็มาร่วมทำความรู้จักปัญหาผิวนี้ พร้อมหาแนวทางการรักษาและป้องกันไปกับ Better Me Clinic เลย!

หน้าบางคืออะไร?

โดยทั่วไปผิวของเราจะมีความหนาบางแตกต่างกันไปตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผิวบริเวณหน้าแก้ม เปลือกตา ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซึ่งผิวหนังทั่วร่างกายจะประกอบไปด้วยชั้นผิว 3 ชั้น ได้แก่ 

  • ชั้นใต้หนัง (Hypodermis) ชั้นล่างสุดของผิวหนัง เป็นชั้นที่ประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวกันและไขมัน ซึ่งแต่ละบริเวณอาจมีจำนวนมากน้อยแตกต่างกันออกไป
  • ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิวที่ถัดออกมาอีกขั้น เป็นบริเวณที่เส้นประสาท หลอดเลือด ต่อมไขมัน และต่อมเหงื่ออาศัยอยู่
  • ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นผิวที่อยู่ด้านนอกสุดของผิวหนัง ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย

ดังนั้นหน้าบางจึงหมายถึงการที่ชั้นผิวเหล่านี้ฝ่อตัวและบางลงหรือเกิดการสลายตัวของไขมันในชั้นใต้หนัง ทำให้ผู้ที่ผิวหน้าบางจึงมีความไวต่อแสงหรือสารเคมีต่างๆ จนผิวเกิดความระคายเคืองได้ง่าย ผิวมักจะแห้งตึง ขาดความชุ่มชื้น และสามารถสังเกตเห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน

แต่การมีผิวหน้าบางก็ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพแต่อย่างใด เพียงแต่หากปล่อยปัญหาไว้โดยไม่ทำการรักษาก็อาจจะนำไปสู่การเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้ เช่น ฝ้ากระบนใบหน้า ผื่นผิวหนังอักเสบ รวมถึงเมื่อร่างกายได้รับการกระทบกระเทือนก็อาจจะเกิดรอยฟกช้ำได้ง่ายและต้องใช้เวลานานกว่าแผลจะหายอีกด้วย

หน้าบางมีลักษณะอย่างไร?

หน้าบาง ส่วนมากมักเกิดจากการมีชั้นผิวที่บางกว่าคนปกติทั่วไป ทำให้ผู้ที่มีผิวลักษณะนี้จึงมีผิวที่ดูโปร่งใสจนสังเกตเห็นเส้นเลือดได้ชัด และในผู้ที่มีผิวบางมากๆ ก็อาจถึงขั้นมองเห็นกระดูกหรือเส้นเอ็นใต้ผิวหนังได้เลย 

นอกจากนี้การมีผิวหน้าบางในบางกรณีอาจเกิดจากการสลายตัวของไขมันชั้นใต้หนัง ทำให้ผู้ที่มีปัญหาหน้าบางจึงมีผิวหน้าที่ดูสูบลงและไม่อวบอิ่มเหมือนเดิม

โดยบริเวณที่มักมีผิวบางเป็นพิเศษ ได้แก่ รอบดวงตา แก้ม คาง และหน้าผาก โดยผิวที่เปลือกตาจะมีความหนาเพียงแค่ 0.5 มิลลิเมตรเท่านั้น

สาเหตุที่ทำให้หน้าบาง

สาเหตุที่ทำให้หน้าบางสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย แบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยหลักๆ ได้ดังนี้

1. ปัจจัยภายใน

ผิวหน้าบางอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายในที่ยากต่อการควบคุม โดยสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุเหล่านี้

  • พันธุกรรม ในบางรายอาจมีผิวหน้าบางจากการได้รับยีนที่ทำให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินออกมาได้น้อย รวมถึงอาจได้รับยีนที่ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมา ซึ่งเป็นตัวการในการทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว
  • อายุ ผิวของเราจะเริ่มบางลงเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 40 ปี เนื่องจากคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวเริ่มสลายตัวลง ในขณะที่กลไกการสร้างเซลล์ผิวใหม่ก็ชะลอตัวลงด้วย ทำให้ผิวที่เคยเต่งตึง ชุ่มชื้น เริ่มหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และอ่อนแอลงไปโดยปริยาย
  • ฮอร์โมน ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญต่อความแข็งแรงของชั้นผิว เมื่ออายุมากขึ้น ระดับฮอร์โมนชนิดนี้จะลดลง โดยจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและผิวพรรณได้มากที่สุดเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
  • โรคประจำตัว อาการของโรคประจำตัวบางโรคอาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการผิวหนังแห้ง ผิวบางลง รวมถึงเกิดภาวะไวต่อสิ่งกระตุ้นได้ เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis) โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Contact Dermatitis) และโรคลูปัส (Lupas)

2. ปัจจัยภายนอก

พฤติกรรมหรือสิ่งแวดล้อมบางอย่างอาจทำให้ความแข็งแรงของผิวลดลงจนเกิดการระคายเคืองได้ง่ายมากขึ้น โดยปัจจัยภายนอกที่ทำให้หน้าบางได้ มีดังนี้

  • แสงแดด นับเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้หน้าบางลง เนื่องจากในแสงแดดจะมีรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีอนุภาคทะลุทะลวง สามารถทะลุผ่านผิวลงไปได้ลึกถึงชั้นหนังแท้เพื่อทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์ผิว ทำให้ผิวหนังชั้นต่างๆ เริ่มฝ่อตัวและค่อยๆ บางลง
  • การดูแลผิวอย่างผิดวิธี ถึงแม้การลอกชั้นผิวจะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออก แต่หากลอกชั้นผิวบ่อยๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็อาจทำให้ผิวถูกทำลายเกินความจำเป็น
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่วนมากจะเป็นผลิตภัณฑ์เร่งผิวขาวที่ให้ผลลัพธ์ดีและมีราคาถูก อาจมีสารเคมีบางชนิดที่เป็นอันตรายต่อผิว เช่น สารฟอกขาว สารปรอท ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) และกรดไตรคลออะซีติค (Trichloroacetic) ซึ่งสารเหล่านี้สามารถทำให้ผิวบางลงได้
  • การสูบบุหรี่ ในบุหรี่จะมีสารนิโคติน สารคาร์บอนมอนอกไซด์ รวมถึงน้ำมันทาร์ในควันบุหรี่ ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ออกมาทดแทนเซลล์ผิวที่สูญเสียไปตามกาลเวลา รวมทั้งยังเป็นการเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย
  • การดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากจะกระตุ้นสร้างอนุมูลอิสระในร่างกายเหมือนกับการสูบบุหรี่แล้ว ยังทำให้ร่างกายขับน้ำออกมามากจนทำให้ผิวขาดน้ำและขาดความชุ่มชื้น ซึ่งถ้าหากมีภาวะนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ จะทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่ยืดหยุ่น และผิวบางลงได้
  • ยาบางชนิด ยาสเตียรอยด์ชนิดทาที่มีสรรพคุณในการลดการอักเสบของผิว อาจส่งผลข้างเคียงให้ผิวบางลงได้หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น ยารักษาโรคผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema)

หน้าบางส่งผลกระทบอะไรบ้าง?

ถึงแม้หน้าบางจะไม่ส่งผลกระทบต่อด้านสุขภาพ แต่ปัญหานี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา ดังนี้

1. ผิวแห้งกร้าน

การมีผิวบางอาจเป็นหนึ่งสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าเกราะป้องกันผิวของเรากำลังอ่อนแอ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพที่จะป้องกันผิวจากมลภาวะ แสงแดด และความชื้นลดลงไปด้วย ผิวจึงเสียสมดุลในการรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ผิวคายน้ำที่เคยกักเก็บไว้ออกมา รวมถึงต่อมไขมันก็จะเริ่มทำงานผิดปกติ ทำให้ผิวที่แห้งอยู่แล้วรุนแรงมากขึ้นไปอีก

2. ริ้วรอยก่อนวัย

ถึงแม้ว่าริ้วรอยจะถูกนับเป็นสัญญาณความชราตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ในผู้ที่มีผิวบางอาจเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย เนื่องจากแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้าไปทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์ผิวลึกถึงชั้นหนังแท้ ซึ่งในผู้ที่มีผิวหน้าบางจะไวต่อแสงแดด ทำให้แสงแดดเข้าไปทำลายผิวได้ง่ายมากขึ้นถึงสองเท่า

3. ฝ้า กระ

ฝ้า กระ เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากภาวะเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ซึ่งมีหน้าที่ผลิตเมลานินทำงานหนักเกินไป ทำให้บริเวณที่ได้รับการกระตุ้นมีสีเข้มกว่าบริเวณอื่นๆ โดยปัญหานี้มักจะเกิดในบริเวณที่ผิวหนังได้รับแสงแดดมากเกินไป เช่น หน้าแก้ม หน้าผาก จมูก ริมฝีปากบน และคาง

ผู้ที่มีผิวบางจึงเสี่ยงต่อการมีฝ้า กระเป็นพิเศษ เนื่องจากผิวไวต่อแสงแดด โดยเฉพาะบริเวณหน้าแก้ม คาง และหน้าผาก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผิวบางอยู่แล้วตามธรรมชาติ

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

วิธีรักษาหน้าบาง

แม้ว่าปัญหาหน้าบางจะเป็นปัญหาที่มาลดทอนความมั่นใจลงอย่างมาก แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง! เพราะปัญหานี้สามารถรักษาได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การรักษาด้วยตัวเองที่อาจต้องอาศัยวินัยและระยะเวลา ไปจนถึงการรักษาแบบเร่งด่วนที่คลินิกเสริมความงาม ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้

1. การรักษาผิวหน้าบางด้วยตัวเอง

หน้าบางเป็นภาวะที่ทำให้ทราบว่าผิวของเรากำลังอ่อนแอลงอย่างมาก การรักษาผิวที่มีปัญหานี้จึงเน้นไปที่การฟื้นฟูให้ผิวกลับมาสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง 

โดยสามารถทำได้ด้วยการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนช่วยในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื่องจากการที่ผิวมีความชุ่มชื้นมาก จะเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงพร้อมเผชิญต่อมลภาวะ

การใช้ครีมบำรุงฟื้นฟูผิวหน้าบาง อาจเริ่มจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลักอย่างไฮยาลูรอนิกและเซราไมด์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มซัลเฟต เพราะสารเหล่านี้จะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นและบางลงได้

รวมถึงอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) และเรตินอยด์ (Retinoid) เนื่องจากสารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูและหนาตัวขึ้น ช่วยให้ริ้วรอยที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีหน้าบางดูจางลง แต่ทั้งนี้ก็ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเนื่องจากสารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว อาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงมากขึ้น

นอกจากนี้แล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารก็สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวจนเส้นเลือดบนผิวดูจางลงได้เช่นกัน ควรเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง (Antioxidant) อย่าง มะเขือเทศ และฝรั่ง เนื่องจากผักผลไม้ชนิดนี้จะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว หากทานร่วมกับผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ก็จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้นอีกขั้น

2. การรักษาผิวหน้าบางด้วยเทคนิคทางการแพทย์

การรักษาผิวหน้าบางด้วยเทคนิคทางการแพทย์ จะเน้นไปที่การกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงและกลับมามีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นได้หากเข้ารับบริการตามคำแนะนำ ซึ่งส่วนมากผู้ที่มีปัญหาหน้าบาง แพทย์มักจะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีเหล่านี้

  • การเลเซอร์หน้าใส การรักษาผิวบางด้วยเลเซอร์หน้าใสเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพ โดยการใช้พลังงานจากแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเข้าไปยังเซลล์เป้าหมาย จะทำให้ผิวในบริเวณที่มีการยิงเลเซอร์ถูกกระตุ้นสร้างผิวใหม่ที่หนาและแข็งแรงขึ้น โดยไม่ก่ออันตรายใดๆ ต่อผิว

  • การใช้เครื่องมือกลุ่มยกกระชับ ไม่ว่าจะเป็น HIFU หรือ Ulthera ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อผิวชั้น SMAS ทำให้ผิวชั้นนี้หดตัวและเกิดการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนรวมถึงเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ผิวจึงหนาตัวขึ้น รวมถึงหลังทำยังได้ผิวหน้าที่เต่งตึง ลดความหย่อนคล้อย และริ้วรอยบนใบหน้าอีกด้วย

  • การฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีการแก้ปัญหาหน้าบางที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าบางจากการสลายของชั้นไขมัน เพราะฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังทำให้ผิวบริเวณนั้นดูอิ่มฟู ใบหน้าดูอวบอิ่มขึ้นด้วย

  • การทำทรีตเมนต์ เป็นการเติมสารอาหารให้กับผิวหน้าโดยตรงผ่านเทคนิคต่างๆ โดยผู้ที่มีปัญหาหน้าบาง Better Me Clinic ขอแนะนำ Golden Treatment ทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมของทองคำบริสุทธิ์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไปพร้อมๆ กับบำรุงผิวให้กระจ่างใส

วิธีป้องกันไม่ให้ผิวหน้าบาง

จะเห็นได้ว่าการรักษาและป้องกันปัญหาผิวหน้าบางนั้นทำได้ไม่ยาก แต่ต้องเลือกวิธีให้เหมาะสมกับปัญหาผิวปัจจุบัน หากคุณกำลังสนใจหาที่ปรึกษาหรือต้องการดูแลปัญหาหน้าบางให้ Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นหนึ่งในทางเลือก 

เพราะเรามีบริการดูแลผิวหน้าบางให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์หน้าใส การฉีดฟิลเลอร์ การทำทรีตเมนต์บำรุงผิว และหัตถการยกกระชับ ซึ่งทุกบริการเราให้บริการโดยแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น

หากยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกดูแลปัญหาผิวหน้าบางด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตถการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคสได้เลย สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

ดูแลผิวหน้าบางที่ไหนดี?

จะเห็นได้ว่าการรักษาและป้องกันปัญหาผิวหน้าบางนั้นทำได้ไม่ยาก แต่ต้องเลือกวิธีให้เหมาะสมกับปัญหาผิวปัจจุบัน หากคุณกำลังสนใจหาที่ปรึกษาหรือต้องการดูแลปัญหาหน้าบางให้ Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นหนึ่งในทางเลือก 

เพราะเรามีบริการดูแลผิวหน้าบางให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์หน้าใส การฉีดฟิลเลอร์ การทำทรีตเมนต์บำรุงผิว และหัตถการยกกระชับ ซึ่งทุกบริการเราให้บริการโดยแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น

หากยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกดูแลปัญหาผิวหน้าบางด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตถการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคสได้เลย สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

  • Bioderma, ผิวบาง เห็นเส้นเลือด มีสาเหตุและวิธีแก้อย่างไร (https://www.bioderma.co.th/your-skin/skin-and-sun/thin-skin), 13 มีนาคม 2567.
  • Vinmec, Why is facial skin thin and weak over time? (https://www.vinmec.com/en/news/health-news/beauty/why-is-facial-skin-thin-and-weak-over-time/), 13 March 2024.
  • Westdermatology, The Skinny on Thinning Skin (https://www.vinmec.com/en/news/health-news/beauty/why-is-facial-skin-thin-and-weak-over-time/), 13 March 2024.
  • กองบรรณาธิการ HD, รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปัญหา “ผิวบาง” (https://hd.co.th/include-the-topic-of-thin), 13 มีนาคม 2567.
  • โรงพยาบาลนครธน, จริงหรือไม่? เลเซอร์หน้าบ่อยทำให้ผิวบางอ่อนแอ(https://www.nakornthon.com/article/getpagepdf/403), 13 มีนาคม 2567.

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ