หน้าเหี่ยว มีริ้วรอยเหมือนคนแก่ แก้อย่างไรดี
เมื่อเวลาผ่านไป ผิวของเราจะเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับตามธรรมชาติ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาหน้าเหี่ยวที่ผู้หญิงหลายคนไม่อยากเผชิญ ปัญหานี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราดูแก่กว่าวัยเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ใบหน้าไม่กระชับ ดูหย่อนคล้อย และส่งผลต่อความสวยงาม รวมถึงลดทอนความมั่นใจในตนเองอย่างมาก
แม้ว่าหน้าเหี่ยวจะเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ก็ยังมีวิธีรักษาและป้องกันที่สามารถช่วยชะลอและลดการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ ดังนั้น ในบทความนี้ Better Me Clinic จะพาทุกคนมาเจาะลึกทุกแง่มุมที่ควรรู้เกี่ยวกับหน้าเหี่ยว ตั้งแต่สาเหตุ วิธีรักษาด้วยตัวเอง วิธีรักษาหน้าเหี่ยวแบบเร่งด่วน รวมถึงเคล็ดลับในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหน้าเหี่ยว เพื่อให้ผิวของทุกคนแลดูอ่อนเยาว์และเปล่งประกายได้นานที่สุด
ปัญหาหน้าเหี่ยวคืออะไร?
ปัญหาหน้าเหี่ยวเป็นภาวะที่ผิวหนังบนใบหน้าสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ ทำให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย มีผิวหนังบางและแห้ง อีกทั้งยังสูญเสียความกระชับและความยืดหยุ่น โดยแต่ละปัญหาจะมีลักษณะแยกย่อยแตกต่างกันออกไป ดังนี้
ริ้วรอยร่องลึก
- รอยตีนกา คือ ริ้วรอยที่เกิดบริเวณหางตาเมื่อยิ้มหรือหัวเราะ
- รอยยิ้ม คือ ริ้วรอยที่เกิดบริเวณข้างจมูกเมื่อยิ้ม
- ริ้วรอยหว่างคิ้ว คือ ริ้วรอยที่เกิดบริเวณหน้าผากเมื่อขมวดคิ้ว
- ริ้วรอยแนวขวาง คือ ริ้วรอยที่เกิดบริเวณหน้าผาก
- ร่องน้ำหมาก คือ ร่องริ้วรอยตั้งแต่บริเวณมุมปากลากลงมา
- ร่องแก้ม คือ ริ้วรอยร่องลึกบนผิวหน้าบริเวณข้างแก้มและอยู่เหนือปาก
ความหย่อนคล้อย
- ความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูตอบและมีริ้วรอยร่องลึก
- ความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณคาง ทำให้เกิดเหนียงและใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น
- ความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณคอ ทำให้เกิดริ้วรอยแนวขวางและใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น
ผิวหนังบางและแห้ง
- ผิวหนังบริเวณใบหน้าบางลงและสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายและหน้าดูมีอายุมากขึ้น
สูญเสียความกระชับและความยืดหยุ่น
- ผิวหนังบริเวณใบหน้าสูญเสียความกระชับและความยืดหยุ่น ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ง่าย
หน้าเหี่ยวเกิดจากอะไร?
ปัญหาหน้าเหี่ยวเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกร่างกาย ดังนี้
ปัจจัยภายใน
- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและมีความกระชับ
- กรรมพันธุ์ บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาหน้าเหี่ยวได้มากกว่าผู้อื่น เนื่องจากพันธุกรรมกำหนดโครงสร้างผิวหนังและความสามารถในการผลิตคอลลาเจน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ในช่วงวัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลง ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ
ปัจจัยภายนอก
- แสงแดด รังสียูวีในแสงแดดสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังได้ ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- การสูบบุหรี่ สารเคมีในบุหรี่จะทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- มลภาวะ มลพิษในอากาศไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน ฝุ่น PM 2.5 สารเคมี สามารถสร้างอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิวหนังและทำให้เกิดริ้วรอยรวมถึงความหย่อนคล้อยได้
- ขาดการดูแลผิว การไม่ดูแลผิวอย่างเหมาะสม เช่น ไม่ทามอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมกันแดด อาจทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นได้เช่นกัน
วิธีแก้หน้าเหี่ยวด้วยตนเอง
เมื่ออายุมากขึ้นและต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ผิวหนังของเราจะเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้น ซึ่งนำไปสู่การเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยจนหน้าดูเหี่ยวย่นไม่กระชับ
อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ปัญหาหน้าเหี่ยวด้วยตัวเองหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งจะช่วยชะลอและลดการเกิดริ้วรอยได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอาศัยระยะเวลา ความอดทน และหมั่นดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน จะมีวิธีไหนบ้างนั้นตามมาดูไปพร้อมกันเลย
รักษาหน้าเหี่ยวด้วยการใช้สกินแคร์
- ทามอยส์เจอไรเซอร์ ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก เซราไมด์ และกลีเซอรีน เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำ โดยควรทามอยส์เจอไรเซอร์วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
- ทาเซรั่ม ใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี และเรตินอล เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน โดยควรทาเซรั่มที่มีส่วนผสมเหล่านี้หลังจากทำความสะอาดใบหน้าและก่อนทามอยส์เจอไรเซอร์
- ทาครีมกันแดด รังสียูวีจากดวงอาทิตย์เป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินได้ ดังนั้นการทาครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายได้ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า และควรทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
- มาสก์หน้า เลือกใช้มาสก์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระและสารให้ความชุ่มชื้น เพื่อช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิว โดยควรมาสก์หน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ เนื่องจากเปปไทด์เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ เช่น Matrixyl 3000 และ Argireline
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เรตินอยด์เป็นอนุพันธ์วิตามินเอที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นในการช่วยให้ผิวกระชับและอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์จึงสามารถช่วยลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้
นวดหน้า
การนวดยกกระชับใบหน้าเป็นอีกวิธีที่ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน รักษาความยืดหยุ่นและความอ่อนนุ่มของผิว อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ใบหน้าที่เหี่ยวและมีริ้วรอยกลับมามีความกระชับและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งการนวดยกกระชับใบหน้าสามารถทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ทำความสะอาดใบหน้าและลำคอ โดยใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนเพื่อขจัดสิ่งสกปรก ความมัน และเครื่องสำอาง จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
- หยดน้ำมันนวดหน้าหรือทามอยเจอร์ไรเซอร์ ลงบนปลายนิ้ว 2-3 หยด จากนั้นถูวนเพื่อวอร์มอัพน้ำมันนวดหน้าหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ แล้วนำมาทาลงบนใบหน้า
- นวดหน้าผาก ด้วยการใช้มือทั้งสองข้างรีดขึ้น 15 วินาที
- นวดตา ใช้นิ้วนางนวดบริเวณรอบดวงตาเป็นวงกลมเบา ๆ ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมและรอยคล้ำ
- นวดแก้ม ด้วยการรีดไปจนถึงใบหูข้างละ 15 วินาที แล้วนวดเป็นวงกลม ข้างละ 15 วินาที
- นวดคางและขากรรไกร โดยกำมือหลวม ๆ แล้วนวดวนเป็นวงกลม จากนั้นรีดผิวตั้งแต่คางไปจนถึงบริเวณหู
- นวดคอ โดยการแบมือชิดกับต้นคอ จากนั้นรีดคอให้ขึ้นไปจนถึงใบหน้า โดยทำทั้งหมด 5 ครั้ง
- ยกและปรับสภาพกล้ามเนื้อใบหน้า ให้ใช้ฝ่ามือกดบริเวณที่นวดเบา ๆ แล้วยกผิวขึ้นด้านบน เน้นบริเวณที่มีแนวโน้มที่หย่อนคล้อยอย่างแก้มและคอเป็นหลัก
สำหรับการนวดหน้า ควรนวดอย่างเบามือ เพราะเป้าหมายของการนวดหน้าคือกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยไม่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง
วิธีรักษาปัญหาหน้าเหี่ยวอย่างเร่งด่วน
สำหรับผู้ที่อยากบอกลาปัญหาหน้าเหี่ยวแต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองและต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันก็ยังมีวิธีรักษาปัญหาหน้าเหี่ยวอย่างเร่งด่วนด้วยหัตการมากมายให้เลือกใช้บริการ โดยหัตถการที่ Better Me Clinic อยากแนะนำมีทั้งหมด ดังนี้
โบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์ คือ การฉีดสารโปรตีนที่มีฤทธิ์ในการระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ และเมื่อกล้ามเนื้อไม่ค่อยได้ใช้งานจะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับการฉีดโบท็อกซ์มีขนาดเล็กลงและมีความตึงกระชับมากขึ้น เช่น การฉีดโบท็อกซ์ที่หน้าผากจะช่วยป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหดตัวจนทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมในผู้มีปัญหาหน้าเหี่ยวอย่างล้นหลาม
HIFU
HIFU คือ การใช้เครื่องมือยกกระชับผิวหน้าหรือผิวส่วนอื่น ๆ ด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงแทรกลงไปยังชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน ซึ่งในชั้นนี้จะมีคอลลาเจนเกี่ยวกันเป็นเส้นใยทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว เมื่อได้รับการกระตุ้นจากคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงจะเกิดการหดตัวแล้วสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดการเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบโดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบได้รับอันตราย ส่งผลให้บริเวณที่ทำไฮฟู่ดูกระชับ ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน อ่อนเยาว์ และดูสุขภาพดี
Ulthera
Ulthera คือ การใช้เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงในระดับความถี่สูง โดยพลังงานอัลตราซาวด์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเข้าไปกระตุ้นให้เนื้อเยื่อหดตัวแล้วกลับมาเรียงตัวกันใหม่เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิว เมื่อระยะเวลาผ่านไป คอลลาเจนที่สร้างขึ้นมาใหม่จะช่วยยกกระชับใบหน้าที่เหี่ยวย่นให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น
Thermage
Thermage คือ นวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าด้วยการปล่อยพลังงานวิทยุคลื่นความถี่สูงชนิดขั้วเดียว ที่สามารถปล่อยพลังงานความร้อนกระจายลงใต้ชั้นผิวได้อย่างอ่อนโยน ซึ่งความร้อนที่ปล่อยไปนั้นจะเข้าไปกระตุ้นการผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ผิวบริเวณหน้าผาก แก้ม แนวกราม และลำคอที่เคยเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย และมีริ้วรอย กลับมาตึงกระชับ มีความยืดหยุ่น เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ได้ นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงสภาพผิวโดยรวมให้ขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
Ultraformer
Ultraformer คือ นวัตกรรมอัลตราซาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อยกกระชับและปรับสภาพผิวที่เหี่ยวย่น มีริ้วรอย หย่อนคล้อย และไม่ยืดหยุ่นให้กลับมาเต่งตึงกระชับได้อีกครั้ง โดยจะผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่เรียกว่า Micro & Macro Focused Ultrasound MMFU ให้สามารถปล่อยพลังงานไปยังตำแหน่งความลึกที่ต้องการได้อย่างจำเพาะเจาะจงและลงลึกได้ทุกระดับผิว
การทำ Ultraformer จะยิงคลื่นอัลตราซาวนด์เข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่การยกกระชับและฟื้นฟูผิวที่เหี่ยวย่นให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ มีความปลอดภัย ไม่กระทบต่อผิวหนัง ไม่มีแผลหลังการรักษา และไม่ต้องพักฟื้น
Morpheus 8
Morpheus 8 เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุตัวใหม่ผ่านเข็มเล็ก ๆ จำนวน 24 เข็ม ทำงานโดยการส่งคลื่นวิทยุผ่านลงไปในชั้นผิวได้หลายระดับ ซึ่งจะช่วยให้ชั้นไขมันใต้ผิวหนังหดตัวลง ลดชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และกระตุ้นการเรียงตัวของคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้และไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับการแก้ปัญหาไขมันส่วนเกิน หน้าเหี่ยว สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยแผลเป็น และริ้วรอยร่องลึกได้อย่างเห็นผลโดยไม่ต้องผ่าตัด
วิธีป้องกันการเกิดปัญหาหน้าเหี่ยวย่น
ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
รังสียูวีจากดวงอาทิตย์เป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นวิธีที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินได้ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจะแห้งและเหี่ยวย่นได้ง่ายขึ้น ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกหรือเซราไมด์เป็นประจำเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
Ulthera คือ การใช้เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงในระดับความถี่สูง โดยพลังงานอัลตราซาวด์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเข้าไปกระตุ้นให้เนื้อเยื่อหดตัวแล้วกลับมาเรียงตัวกันใหม่เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิว เมื่อระยะเวลาผ่านไป คอลลาเจนที่สร้างขึ้นมาใหม่จะช่วยยกกระชับใบหน้าที่เหี่ยวย่นให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
บุหรี่มีสารที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งจะนำไปสู่ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับ
ลดความเครียด
ความเครียดสามารถกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินได้ ควรหาวิธีจัดการกับความเครียด เช่น ออกกำลังกาย ทำสมาธิ หรือใช้เวลากับสิ่งที่ตัวเองรัก
นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญและมีผลต่อปัญหาหน้าเหี่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อเรานอนหลับ ร่างกายจะผลิตโกรทฮอร์โมนออกมา ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวทำให้หน้าดูเต่งตึง ในทางกลับกันถ้าหากเราอดนอน นอกจากจะทำให้หน้าดูเหี่ยวแล้ว ยังทำให้หน้าโทรมได้อีกด้วย
แก้ปัญหาหน้าเหี่ยวที่ไหนดี?
สำหรับผู้ที่ต้องการบอกลาปัญหาหน้าเหี่ยวอย่างเร่งด่วน การทำหัตถการเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ เพราะช่วยให้ใบหน้าที่เหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ไม่กระชับ กลับมามีความเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์อย่างเห็นผลโดยไม่ต้องรอนาน
การเลือกสถานที่ในการทำหัตถการเพื่อแก้ปัญหาหน้าเหี่ยวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เนื่องจากจะส่งผลต่อผลลัพธ์ที่เกิดกับหน้าของผู้เข้ารับบริการโดยตรง ควรเลือกใช้บริการแก้ปัญหาหน้าเหี่ยวกับคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน คุณหมอมีประสบการณ์ ใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือคุณภาพสูง รวมถึงมีการให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหน้าเหี่ยว บอกลาใบหน้าที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับ ให้กลับมาอ่อนเยาว์ เพราะคุณหมอของเรามีประสบการณ์มากกว่าหมื่นเคส พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด ใส่ใจรายละเอียดแบบเคสต่อเคส มีการประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ
หากสนใจ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่และแก้ปัญหาได้ตรงจุดอย่างแน่นอน
- Johns Hopkins Medicine, How Facial Rejuvenation Procedures Can Improve Aging Skin (https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/cosmetic-procedures/how-facial-rejuvenation-procedures-can-improve-aging-skin), 13 March 2024
- Health, Anti-Aging Skincare and Other Tips (https://www.health.com/beauty/best-anti-aging-tips), 13 March 2024
- NEVIA, เคล็ด(ไม่)ลับแก้ปัญหาผิวหน้าเหี่ยวย่นให้เห็นผลจริง(https://www.nivea.co.th/advice/how-to-reduce-wrinkles), 13 มีนาคม 2567
- SK-11, บอกลารอยเหี่ยวย่นพร้อมทักทายผิวที่อ่อนวัยมีสุขภาพดี(https://sk-ii.co.th/skincare-101/lines-wrinkles-anti-aging), 13 มีนาคม 2567