ทำจมูกมาแล้วไม่ถูกใจ ต้องรอนานแค่ไหนถึงแก้ได้อีกที?

การเสริมจมูกเป็นการศัลยกรรมรูปแบบหนึ่งที่ทำเพื่อแก้ไขหรือปรับรูปทรงของจมูกให้มีความสวยงาม ดูดีมากขึ้น ซึ่งในหลายๆ ครั้งการทำจมูก อาจทำออกมาแล้วยังไม่ได้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจสำหรับบางคน จึงต้องมีการแก้ไข โดยการแก้จมูกนั้นมักมีขั้นตอนและวิธีการที่ซับซ้อนยิ่งกว่าการเสริมจมูกในตอนแรก คือต้องมีการแก้ไขและรักษาปัญหาเดิมก่อน จึงจะแก้ไขให้เป็นทรงที่ต้องการได้ทีหลัง

ส่องสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนต้อง “แก้จมูก”

หลายครั้งที่การเสริมจมูกไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจหรือบางครั้งอาจเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา จนทำให้มีการแก้จมูกเพื่อแก้ไขรูปทรงให้เข้ารูปและดูดีตามที่แต่ละคนต้องการ ซึ่งแต่ละคนมีสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจแก้จมูกแตกต่างกันออกไป ดังนี้ค่ะ

จมูกเบี้ยว เอียง

ปัญหาจมูกเบี้ยวหรือเอียงเป็นสาเหตุหนึ่งที่พบได้บ่อยและทำให้หลายๆ คนตัดสินใจแก้จมูก เป็นปัญหาที่สามารถมองเห็นได้ค่อนข้างชัด โดยจมูกเบี้ยว เอียง อาจเกิดจากสองสาเหตุด้วยกัน คือ

- เกิดจากความคดเอียงของฐานจมูกเดิมที่ไม่ได้มีการปรับแต่งแก้ไข ก่อนที่จะมีการเสริมจมูก โดยจะต้องแก้โครงของจมูกโดยการตะไบหรือตอกฐานจมูกให้ออกมาเป็นรูปทรงตรงและไม่เอียง
- เกิดจากการใช้ซิลิโคนที่มีขนาดและรูปทรงไม่พอดีกับฐานจมูก หรือมีการวางตำแหน่งซิลิโคนที่ไม่ถูกต้อง เหมาะสม ทำให้ซิลิโคนไม่แนบสนิทกับฐานจมูก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จมูกเบี้ยวเอียงนั่นเอง วิธีการแก้ไขคือจะต้องทำการเหลาตกแต่งซิลิโคนให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมและพอดีกับฐานจมูกมากที่สุด

จมูกอักเสบ ติดเชื้อ

ปัญหาจมูกเกิดการอักเสบติดเชื้อ จะทำให้มีอาการปวด บวม แดงบริเวณปลายจมูกหรือบริเวณที่ทำการผ่าตัด บางครั้งอาจมีน้ำเหลือง หนอง หรือเลือดไหลออกมาจากแผล หากติดเชื้อขั้นรุนแรง อาจจะทำให้เนื้อจมูกเน่าจนผิวหนังเป็นสีดำได้ ซึ่งการอักเสบติดเชื้ออาจเกิดจากการที่บริเวณแผลถูกกระทบกระเทือนหรือมีการสัมผัสบ่อยๆ และอาจเกิดจากการเสริมจมูกโดยการฉีดซิลิโคนเหลวหรือใช้ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน ถ้าเกิดใครที่เสริมจมูกมาแล้วมีอาการอักเสบหรือติดเชื้อที่จมูก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันทีค่ะ

สันจมูกบาง

ปัญหาสันจมูกบางก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งของคนที่เสริมจมูก มาจากการใส่ซิลิโคนแล้วทำให้ผิวหนังบริเวณสันจมูกตึงเกินไป จนผิวหนังมีความบางและใสนั่นเอง โดยสาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

- การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่หรือความหนามากเกินกว่าที่ผิวหนังบริเวณสันจมูกจะยืดหยุ่นได้ไหว
- การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนในตำแหน่งของชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้ผิวหนังบางจนใสเห็นซิลิโคน ซึ่งโดยปกติจะต้องเสริมซิลิโคนบริเวณเนื้อเยื่อใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก
- การที่ผู้เสริมจมูกแต่เดิมเป็นผู้ที่มีเนื้อเยื่อผิวหนังบริเวณสันจมูกที่บางกว่าปกติอยู่แล้ว
- เกิดการอักเสบติดเชื้อหรือเกิดการอักเสบจากสิวบริเวณสันจมูก ทำให้ผิวหนังเนื้อเยื่อบริเวณนั้นบางลง
- ก่อนการเสริมจมูกเคยมีการฉีดซิลิโคนหรือฟิลเลอร์หรือสารเหลวอื่นๆ ที่จมูกแล้วมีการขูดออก ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณจมูกบางลง

เสริมจมูกแล้วซิลิโคนไม่เข้ารูป

ปัญหาหลังการเสริมจมูกแล้วพบว่าซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกนั้นไม่เข้ารูปหรืออาจเกิดอาการที่เรียกว่าซิลิโคนลอย คือสามารถใช้มือบิดจมูกให้ขยับหรือเคลื่อนได้ ซึ่งจะส่งผลให้ซิลิโคนที่ถูกทำให้เคลื่อนนั้นเกิดการเบี้ยว ผิดรูปทรงไปได้ หรืออาจส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นๆ เช่น ซิลิโคนเลื่อนและไหลลงมา ทำให้ปลายจมูกบางจนอาจถึงขั้นปลายจมูกทะลุได้ เกิดการติดเชื้ออักเสบบริเวณจมูก

โดยปัญหานี้มักเกิดจากการใช้ซิลิโคนที่มีขนาดไม่พอดีกับฐานจมูกหรือไม่ได้มีการปรับโครงสร้างฐานจมูกก่อนรวมถึงการวางตำแหน่งซิลิโคนไม่เหมาะสม ไม่ได้วางไว้ใต้เนื้อเยื่อชั้นเยื่อหุ้มกระดูก เช่นเดียวกับปัญหาจมูกเบี้ยวหรือเอียงนั่นเองค่ะ นอกจากนี้อาจเกิดจากการกระทบกระเทือนหรือการจับบิดบริเวณจมูกบ่อยๆ ก็ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนไม่เข้าที่ได้

จมูกรั้ง หรือเชิดขึ้น

ปัญหาจมูกรั้งหรือเชิดขึ้นหลังการเสริมจมูก เกิดจากสาเหตุสองรูปแบบคือ

- เกิดจากตัวซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูก มีการใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปและไม่ได้มีการเหลาตกแต่งซิลิโคนให้ได้ทรงที่เข้ากันกับจมูก หรือใช้ซิลิโคนที่ไม่มีขาทำให้ได้จมูกที่มีรูปทรงไม่เป็นธรรมชาติ ปลายจมูกสั้นและเชิดขึ้นกว่าปกติ
- การที่ผู้ทำการเสริมจมูกมีรูปทรงจมูกที่สั้นหรือมีเนื้อบริเวณจมูกน้อย ทำให้เสริมซิลิโคนได้น้อย ยิ่งทำให้จมูกดูสั้นลง พร้อมทั้งอาจเกิดพังผืดบริเวณจมูกที่มาดึงรั้งเนื้อเยื่อ ทำให้ปลายจมูกถูกรั้งเข้ามาและส่งผลให้จมูกยิ่งดูสั้นลงหรือปลายจมูกเชิดขึ้น

ทรงจมูกไม่สวยถูกใจ ต้องรอกี่เดือนจึงแก้จมูกได้

หลังการเสริมจมูกแล้ว หากทรงจมูกที่ทำมายังไม่ถูกใจหรือได้ทรงจมูกที่ไม่สวยอย่างที่คิด แล้วต้องการที่จะแก้จมูกแต่ยังไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนหรือต้องรอกี่เดือนถึงจะแก้จมูกได้นั้น โดยในกรณีปกติทั่วไปจะต้องรอประมาณ 3 เดือน เพื่อให้แผลผ่าตัดหายดี ให้เนื้อเยื่อและเส้นเลือดบริเวณจมูกได้รับการสมานตัวเชื่อมกันก่อน จึงจะทำการแก้ไขจมูกได้ รวมถึงควรรอให้อาการบวมยุบลง จนจมูกเข้าที่เป็นทรงที่แท้จริงก่อน ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้เวลาถึง 1 ปีกว่าอาการบวมจะหายไปจนหมด แต่ในกรณีที่เป็นการแก้จมูกเพื่อการแก้ไขปัญหาบางอย่าง ควรรีบทำ ซึ่งขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากการเสริมจมูก เช่น กรณีที่ซิลิโคนทะลุ ควรรีบพบแพทย์เพื่อแก้ไขทันที กรณีมีการอักเสบติดเชื้อที่จมูกจะต้องทำการถอดซิลิโคนออกก่อนและพักฟื้นรอให้แผลสมานตัวประมาณ 3-6 เดือน ก่อนจะทำการแก้จมูกใหม่

สิ่งที่ต้องรู้เมื่อต้องแก้จมูก

สำหรับผู้ที่ต้องการจะแก้จมูก ก่อนที่จะตัดสินใจทำนั้น มีสิ่งที่ควรรู้และศึกษาเพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ได้แก่

- การแก้จมูกนั้นมีความซับซ้อนและยุ่งยากกว่าการเสริมจมูกในครั้งแรก เพราะต้องมีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน เช่น การถอดซิลิโคนเดิม การเลาะเนื้อเยื่อที่เป็นพังผืดออก ฯลฯ ดังนั้นจึงทำให้การแก้จมูกมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการเสริมจมูก
- ควรหาข้อมูลเพื่อเลือกทำการแก้จมูกกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแก้ไขจมูกและคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ
- ควรมีการปรึกษากับแพทย์ผู้ประสบการณ์ให้ดี เพื่อให้มีการวางแผนการรักษาอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนที่จะทำการแก้ไข ทั้งเรื่องระยะเวลาในการรอแผลสมานตัวก่อนแก้ไข เพื่อพิจารณาว่าทรงจมูกที่เห็นเข้าที่แล้วหรือยัง รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา หรือว่าต้องการแก้ให้จมูกเป็นทรงแบบไหน กรณีที่ยังไม่ถูกใจทรงจมูก
- วางแผนการพักฟื้นหลังจากทำการแก้ไขจมูกให้เรียบร้อย โดยจะต้องพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน รวมถึงอาการบวมที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

เปิดขั้นตอนการแก้จมูก

ในการแก้ไขจมูกจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา เพื่อให้แพทย์ประเมินการแก้ไขปัญหา รวมถึงพิจารณารูปแบบและทรงจมูกที่ต้องการแก้ไข
2. เตรียมตัวก่อนการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อม รับฟังข้อมูลที่จำเป็นจากแพทย์ รวมถึงต้องมีการตรวจร่างกาย วัดความดันโลหิต รับประทานยา และผ่อนคลายก่อนเข้าผ่าตัด
3. มีการฉีดยาชาร่วมกับการให้ยานอนหลับ ใช้เวลาในการผ่าตัดแก้ไขจมูกประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องแก้ไขและความยากง่ายของเทคนิควิธีการที่ใช้ในการแก้ไข
4. หลังผ่าตัดเสร็จจะมีอาการง่วงและเบลอ จึงควรมีผู้มาดูแลและรับกลับหลังการผ่าตัด
5. ทำแผลและฉีดยาปฏิชีวนะตามแพทย์นัดในวันถัดไป เพื่อป้องกันการอักเสบและติดเชื้อ หรือหากไม่สะดวกสามารถขอเอกสาร เพื่อไปทำแผลและรับยาไปฉีดที่คลินิกหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านได้

เผยการดูแลตัวเองก่อน-หลัง แก้จมูก

ก่อนแก้ไขจมูกจำเป็นต้องมีการดูแลตัวเองก่อนและหลังจากแก้จมูกเรียบร้อยแล้วก็จำเป็นต้องมีการดูแลตัวเองที่ดี เพื่อที่จะได้ช่วยให้การฟื้นฟูแผลเป็นไปได้ด้วยดี

การดูแลตัวเองก่อนแก้จมูก

- งดทานวิตามิน อาหารเสริม ก่อนการผ่าตัด 1 สัปดาห์
- งดทานยาในกลุ่มแอสไพริน (Aspirin) ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยาอื่นๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดและความดันเลือด ก่อนผ่าตัด 1 สัปดาห์
- งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอกอลฮอล์และงดสูบบุหรี่ ก่อนการผ่าตัด 1 สัปดาห์
- ก่อนการผ่าตัด งดแต่งหน้า รวมถึงการทาครีมหรือโลชั่นบริเวณใบหน้า

การดูแลตัวเองหลังแก้จมูก

- ในช่วง 1-4 วันแรก ควรมีการประคบเย็นอย่างต่อเนื่องเพื่อลดอาการบวม โดยการใช้แผ่นเจลหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณแก้มและหัวตา โดยไม่ต้องประคบบริเวณจมูก
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ห้ามนอนคว่ำ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนราบ และควรนอนโดยยกศีรษะให้สูงประมาณ 30 องศา
- ทำแผลและทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือและเบตาดีนอย่างสม่ำเสมอ
- ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำและงดแต่งหน้า
- งดทานอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารแสลง อาหารดิบ อาหารทะเล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อยประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน
- งดสูบบุหรี่ประมาณ 1 เดือน
- ประมาณ 1 เดือนแรก ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือการเล่นกีฬาที่อาจทำให้เกิดการกระทบกระเทือนแรงๆ
- ทานยาและปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนำของแพทย์

คำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการแก้จมูก

ต่อไปจะมาตอบคำถามที่หลายๆ คนสงสัยเกี่ยวกับการแก้จมูกที่พบได้บ่อยๆ

การแก้จมูกเจ็บไหม ?

ไม่เจ็บเลย เนื่องจากคุณหมอจะมีการฉีดยาชา บล็อกเส้นประสาทด้วย Distraction technique with GCT ก่อน จึงทำให้ไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บ คนไข้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีอาการเจ็บปวดระหว่างทำ การันตีได้จากไลฟ์สดของคลินิกได้เลยค่ะ

เสริมจมูกมา 3 เดือนแก้จมูกได้ไหม ?

สามารถแก้ไขได้ค่ะ เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่จมูกเริ่มหายดี เนื้อเยื่อเริ่มไม่บอบช้ำแล้ว

ควรเลือกแก้จมูกที่ไหนดี ?

ควรเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐานระดับสากล ตรวจสอบรายชื่อแพทย์กับแพทยสภา และเลือกสถานพยาบาลที่มีการรีวิวการแก้ไขจมูกที่น่าเชื่อถือ

ในการเสริมจมูกนั้นเมื่อทำออกมาแล้วได้ผลลัพธ์ที่ไม่พอใจ หลายคนก็อยากแก้จมูกให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ ซึ่งการแก้จมูกนั้นมีขั้นตอนที่ซับซ้อน และยุ่งยากกว่าการเสริมจมูกในตอนแรก

โดยส่วนใหญ่สาเหตุที่ทำให้แต่ละคนต้องการแก้จมูกก็จะมีปัญหาเรื่องจมูกเบี้ยว เอียง ซิลิโคนไม่เข้ารูป ปัญหาจมูกรั้งหรือเชิดขึ้น สันจมูกตึงบาง รวมถึงปัญหาอย่างการอักเสบติดเชื้อที่ควรรีบทำการแก้ไข

ที่สำคัญคือก่อนจะแก้จมูกก็ควรมีการเตรียมตัวและหาข้อมูลให้พร้อมทั้งวิธีการดูแลก่อนและหลังทำ รวมถึงเลือกทำกับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานกับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการแก้ไขจมูก เพื่อความปลอดภัยและแก้ไขให้ได้จมูกทรงสวยตามที่ต้องการ อย่างที่ Better Me Clinic by Dr.Chanya ก็มีบริการในการแก้ไขจมูก ที่ดูแลตั้งแต่การให้คำปรึกษาไปจนถึงการแก้ไขที่ทำออกมาแล้ว จะได้จมูกที่รูปทรงสวย เหมาะสมกับทรงจมูกเดิม เพื่อให้คุณได้รับความพึงพอใจ ไม่ต้องมีการแก้ไขจมูกอีก

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง