fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

ซิลิโคนลอย อันตรายไหม? หาคำตอบพร้อมเช็คอาการ Better Me Clinic

ซิลิโคนลอย อันตรายไหม? หาคำตอบพร้อมเช็คอาการ Better Me Clinic
ซิลิโคนลอย อันตรายไหม? หาคำตอบพร้อมเช็คอาการ Better Me Clinic

ทรงจมูกสวยเข้ากับรูปหน้าหรือการมีทรงสวยตามเทรนด์ที่สมัยนิยมถือเป็นเหตุผลอันดับแรก ๆ ที่ทำให้ใครหลายคนตัดสินใจเสริมจมูกเพื่อเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า แต่เมื่อทำมาแล้วอาจเกิดข้อผิดพลาดหรือไม่ได้อย่างที่คาดหวัง ทรงไม่สวยถูกใจจึงต้องได้รับการปรับแก้ แต่หนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามหลังจากศัลยกรรมเสริมจมูกที่พบได้บ่อยและสามารถเกิดขึ้นได้คือการที่ซิลิโคนลอยไม่รัดแกนจมูก

ซิลิโคนลอยขยับได้เล็กน้อย ขยับได้รอบทิศทาง หรือแม้แต่ซิลิโคนลอยตรงหัวตาไม่รัดแกนจมูก เมื่อเกิดขึ้นแล้วส่งผลทำให้เกิดความกังวล ไม่มั่นใจ ทรงจมูกไม่ได้รูปตามที่ต้องการ หรือรุนแรงถึงขั้นเสี่ยงจมูกทะลุได้ 

เทคนิคการทำจมูก วัสดุที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน หรือแม้แต่ความไม่เข้าใจโครงสร้างจมูกของแพทย์ผู้ทำศัลยกรรมเสริมจมูกอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลทำให้ซิลิโคนลอยเกิดขึ้นหลังทำได้ บางคนอาจจะยังสงสัย หรือไม่มั่นใจว่าลักษณะจมูกแบบนี้ที่เราเป็นอยู่เข้าข่ายซิลิโคนลอยหรือไม่ บทความนี้ Better Me Clinic ได้รวบรวมทุกเรื่องที่คนทำจมูกควรรู้เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนลอย ซิลิโคนลอยตรงตา สาเหตุของซิลิโคนไม่รัดแกนจมูกเกิดจากอะไรรวมถึงวิธีการแก้ไขและป้องกันเพื่อเปลี่ยนจมูกพังให้กลับมาสวยปังได้อีกครั้ง

ซิลิโคนลอยเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ซิลิโคนลอยเกิดจากอะไร? อันตรายไหม? หลากหลายคำถามเมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนลอย อันดับแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ซิลิโคนลอยเกิดขึ้นจากการวางซิลิโคนในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ซิลิโคนที่ใส่ไม่แนบกับเนื้อจมูก ทำให้ผิวซิลิโคนไม่สามารถยึดกับเนื้อจมูกได้ หรือในบางรายมีเยื่อหุ้มจมูกที่บาง ฐานจมูกมีความกว้างจนเกินไปก็สามารทำให้ซิลิโคนเกิดการโยกได้ทุกส่วนตั้งแต่ส่วนปลาย กลางแกนจมูก หรือซิลิโคนลอยโยกตรงหัวตา

สาเหตุที่พบบ่อยของการเกิดซิลิโคนลอย

  • ซิลิโคนไม่แนบกับฐานจมูก การที่ซิลิโคนโยกไม่แนบกับฐานจมูกสามารถเกิดขึ้นได้จากการมีช่องว่างของซิลิโคน ทำให้มีบางส่วนลอยหรือนูนเกิดขึ้น
  • วางซิลิโคนไม่ถูกวิธีผิดตำแหน่ง การวางตำแหน่งซิลิโคนอยู่ในชั้นไขมันหรือกล้ามเนื้อจมูกไม่ได้วางอยู่ใต้เนื้อเยื่อหุ้มกระดูก หรือเกิดจากการใส่ซิลิโคนที่ผิดวิธี
  • เนื้อเยื่อจมูกเกิดการติดเชื้อ หลังทำศัลยกรรมเสริมจมูกมีการติดเชื้อบริเวณซิลิโคน ทำให้อักเสบจนเกิดหนองมีอาการบวมเกิดขึ้นส่งผลซิลิโคนลอยเกิดขึ้นได้แม้จะทำการรักษาอาการบวมจนหายแล้วก็ตาม
  • มีเลือดคลั่งหลังการผ่าตัด การคลั่งของเลือดหลังการผ่าตัดสามารถแนบไปกับฐานของจมูกและทำให้ซิลิโคนลอยเกิดขึ้นได้
  • การขยับโยกสันจมูกไปมาบ่อยครั้ง การขับไปมา ๆ หรือถูที่เดิมซ้ำ ๆ บ่อยครั้งทำให้ซิลิโคนโยกและขยับตามเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงของซิลิโคนลอย
  • การตะไบฮัมพ์ที่มากเกินไป การทำลายเนื้อเยื่อกระดูกที่มากจนเกินไปจากการตะไบฮัมพ์จมูกรุนแรง อาจส่งผลให้ซิลิโคนไม่มีที่ยึดเกาะให้แนบสนิทส่งผลให้เกิดซิลิโคนลอย
  • ซิลิโคนที่ใส่มีขนาดไม่เหมาะสม ซิลโคนลอยอาจเกิดจากการเหลาครอบแกนจมูกที่ไม่เหมาะสม ทำให้เคลื่อนที่และขยับไปมาได้

ซิลิโคนลอย ซิลิโคนลอยตรงหัวตา มีโอกาสเกิดขึ้นได้หลังจากการทำจมูก ดังนั้นการเลือกรับบริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้รับมาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อการได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมก่อนการตัดสินใจเสริมจมูกช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดซิลิโคนลอยที่เกิดขึ้นในอนาคตได้

สังเกตอย่างไรว่าเรากำลังซิลิโคนลอย?

อาการซิลิโคนลอยที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน คือ การที่เราสามารถขยับ โยกซิลิโคนไปมาได้ ซิลิโคนมีลักษณะเอียงและมองเห็นเป็นแท่งอย่างชัดเจน ส่งผลต่อภาพรวมของใบหน้า รวมถึงความมั่นใจของตัวเองด้วย

เราสามารถทดสอบแกนซิลิโคนลอยได้โดยง่ายเพียงแค่นำนิ้วชี้วางไว้ตรงกลางแกนจมูก ดันขยับซ้ายขวาเบา ๆ ถ้าซิลิโคนลอยจะเคลื่อนขยับตามแรงดันนิ้ว หรือมีการขยับของซิลิโคนลอยตรงหัวตารู้สึกว่ามีการเสียวสันจมูกเล็กน้อย

ในบางรายอาจมีอาการซิลิโคนลอยร่วมกับอาการอักเสบ เช่น บวม แดง มีลักษณะตึงที่สันจมูก และมีอาการปวดร่วมด้วย หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบมาพบแพทย์โดยทันที

หลังเสริมจมูกนานเท่าไหร่ถึงจะเริ่มสังเกตได้ว่าซิลิโคนลอย?

ระยะเวลาหลังเสริมจมูกนานเท่าไหร่ถึงจะรู้ว่าซิลิโคนลอย โดยรวมซิลิโคนลอยจะสามารถเห็นได้ชัดหลังจากเสริมจมูกไปแล้ว 3-6 เดือน เนื่องจากร่างกายจะสร้างพังผืดเพื่อหุ้มยึดรัดแกนซิลิโคน ในช่วงแรกหลังจากเสริมจมูกจึงไม่ควรนำมือไปจับ หรือ โยกซิลิโคน เพราะจมูกยังรัดแกนไม่เข้าที่ส่งผลต่อรูปทรงจมูกได้

ซิลิโคนลอยอันตรายหรือไม่?

แม้ซิลิโคนลอยจะดูเหมือนไม่อันตรายแต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างมาก เพราะเสี่ยงต่อการอักเสบของจมูก เพราะเมื่อเวลาผ่านไปอาจส่งผลทำให้จมูกเอียง มีรูปทรงเปลี่ยนไป ยิ่งถ้าหากจมูกเคลื่อนไปเคลื่อนมาบ่อยครั้งจมูกก็จะยิ่งเสี่ยงที่จะจมูกทะลุได้

โดยเราจะสามารถแยกผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อมีปัญหาของซิลิโคนลอยเกิดขึ้นได้ ดังนี้ 

  • ซิลิโคนลอยส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ ด้วยรูปทรงภายนอกที่สามารถมองเห็นได้คือการขยับเคลื่อนไปมา มีลักษณะเป็นแท่งไม่สวยงาม เนื่องจากซิลิโคนลอยไม่รัดแกนทำให้กระทบต่อความมั่นใจ เกิดความกังวลไม่สบายใจจากรูปทรงจมูกที่เปลี่ยนไปทำให้เป็นปัญหากระทบต่อจิตใจ
  • ซิลิโคนลอยส่งผลต่อรูปทรงจมูก เมื่อเกิดการขยับบ่อยอาจทำให้จมูกเบี้ยว จมูกเอียงจนเสียรูปทรง ซิลิโคนลอยตรงหัวตาเสี่ยงต่อการอักเสบและอาการบวดต่าง ๆ ตามมา

3 สัญญาณเตือน ซิลิโคนลอยเสี่ยงจมูกทะลุ

ซิลิโคนลอยเมื่อปลายไว้นานอาจเสี่ยงต่อการทำให้จมูกทะลุได้โดยมี 3 ลักษณะที่ควรระวัง ดังต่อไปนี้

  • ปลายจมูกบางใสสี ผิวบางลง เห็นเป็นรูปทรงแท่งซิลิโคน หรือมีสีขาวเกิดขึ้น ไม่ควรปล่อยไว้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที
  • มีการอักเสบบริเวณปลายจมูก สังเกตได้จากการมีตุ่มหรือสิว เป็นรอยแดง สามารถเกิดขึ้นได้จากกรกดทับซิลิโคนจนทำให้เกิดการระคายเคืองถือเป็นสัญญาเตือนเสี่ยงต่อจมูกทะลุได้อาจมีอาการอักเสบเกิดขึ้นร่วมด้วย
  • สีที่ปลายจมูกเปลี่ยนไป สัญญาณเตือนที่มองข้ามไม่ได้เลยคือสีที่เปลี่ยนไปของปลายจมูก ควรสังเกตลักษณะของสีจมูกที่เกิดขึ้น เช่น สีคล้ำขึ้นที่ปลายจมูก ปลายจมูกเป็นสีแดง เป็นต้น

แก้ไขได้อย่างไร? เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนลอย

ปัญหาซิลิโคนลอยเป็นปัญหาที่ควรรีบแก้ไข แต่การแก้ไขต้องขึ้นอยู่กับสภาวะและความเหมาะสมของปัญหาที่เกิดขึ้นโดยต้องผ่านการพิจารณาของแพทย์

1. การผ่าตัดนำซิลิโคนลอยออก

การที่ซิลิโคนลอยมีปัญหาหรือไม่พอใจกับผลลัพธ์ ควรผ่าตัดนำซิลิโคนออกเพื่อป้องกันซิลิโคนเคลื่อน และนำซิลิโคนใหม่เข้าไปโดยวางไว้ในส่วนของใต้เนื้อเยื่อหุ้มจมูก

2. การทำศัลยกรรมปรับแก้ไข

ถ้าซิลิโคนลอยมีปัญหาทางการรูปทรงหรือตำแหน่ง ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้ทำการศัลยกรรมแก้ไขรูปทรงโดยการตะไบฮัมพ์ออกบางส่วนหรือการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนให้ง่ายขึ้นโดยการดามหลังคาแกนจมูก

3. เสริมจมูกด้วยกระดูกหลังหูหรือเนื้อเยื่อเทียม

การศัลยกรรมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมที่ช่วยลดโอกาสของปลายจมูกบางใส รวมถึงโอกาสเสี่ยงที่ปลายซิลิโคนจะทะลุได้

ทั้งนี้เราควรพบแพทย์ที่มีความชำนาญในการปรับแก้ไขซิลิโคนลอยเพื่อปรึกษาและทำความเข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและให้ได้รูปทรงจมูกที่ต้องการ

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง

วิธีเลือกซิลิโคนให้เหมาะสม

เมื่อตัดสินใจเสริมจมูกนอกจากสถานที่รับบริการที่ได้มาตรฐานแล้ว เราต้องคำนึงถึงชนิดของซิลิโคนที่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกและรูปทรงที่เราต้องการ ลดความเสี่ยงการเกิดซิลิโคนลอย ซิลิโคนลอยตรงหัวตา ให้ได้ทรงที่ออกมา สวย ตรงใจ และปลอยภัย โดยเกรดของซิลิโคนและแหล่งผลิตซิลิโคนถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมจมูก

1. เกรดของซิลิโคน

  • เกรดของซิลิโคนสำหรับการปลูกฝังในร่างกาย ซิลิโคนเกรดสำหรับปลูกฝังในร่างกายจะมีความบริสุทธิ์สูงและถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับการนำเข้าร่างกายและสามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต โดยซิลิโคนเกรดสำหรับปลูกฝังในร่างกายจะมีการรับรองมาตรฐานเฉพาะทางการแพทย์เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของวัสดุ 

    ทั้งนี้ซิลิโคนมีความยืดหยุ่นที่ใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อธรรมชาติ เมื่อนำเข้าร่างกาย มันสามารถกับรองรับการเคลื่อนไหวได้อย่างดี ช่วยลดความเสี่ยงซิลิโคนลอยได้

  • เกรดของซิลิโคนที่สำหรับใช้ในทางการแพทย์ ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์เป็นวัสดุที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานทางการแพทย์และศัลยกรรม มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการนำเข้าร่างกายสามารถใช้งานในระยะยาวได้ ในด้านความปลอดภัย ซิลิโคนทางการแพทย์ก็มีความปลอดภัยและความยืดหยุ่นสูงเหมือนกับซิลิโคนเกรดสำหรับปลูกฝังในร่างกาย แต่มีความบริสุทธิ์น้อยกว่า การเลือกใช้จึงควรได้คำแนะนำจากแพทย์ผู้ชำนาญการ

2. แหล่งผลิตซิลิโคน

  • ซิลิโคนอเมริกา (USA Silicone) ซิลิโคนนี้เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษที่มีคุณภาพสูง มีเนื้อเรียบ ละเอียด สีขาว มีลักษณะนิ่มปานกลาง การใช้งานซิลิโคนเกรดนี้เป็นที่นิยมอย่างมากเพราะคุณภาพที่ดีและมีความปลอดภัยสูง
  • ซิลิโคนเกาหลี (Korea Silicone) ซิลิโคนที่ผลิตในเกาหลีเป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยมีคุณสมบัติพิเศษที่ปรับตัวได้กับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ส่วนโคนจมูกและปลายจมูกจะมีความนิ่มและยืดหยุ่นมาก มีสีเหลืองและสีน้ำตาลแดง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับรูปทรงจมูก
  • ซิลิโคนญี่ปุ่น (Japan Silicone) ซิลิโคนที่ผลิตในญี่ปุ่นเป็นซิลิโคนมาตรฐานทั่วไปที่มีความแข็งปานกลาง มีสีเหลือง เป็นทางเลือกที่มีคุณภาพดีแต่ราคาไม่แพงมากเมื่อเปรียบเทียบกับซิลิโคนอเมริกาหรือซิลิโคนเกาหลี 

วิธีป้องกันไม่ให้ซิลิโคนลอย

หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วเราจะป้องกันอย่างไร? เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดซิลิโคนลอยหลังทำ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ทำกำลังตัดสินใจอยู่ หรือคนที่ทำแล้วต้องการแก้ไข Better Me Clinic มีเคล็ดลับวิธีการป้องกันปัญหาการเสริมจมูกแล้วซิลิโคนลอย ซิลิโคนลอยตรงหัวตาได้ดังนี้

  • เลือกเสริมจมูกโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และชำนาญในการทำศัลยกรรมเสริมจมูกถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแพทย์ที่มีความชำนาญจะเข้าใจโครงสร้างจมูกเป็นอย่างดี รวมถึงสามารถแนะนำวิธีการป้องกันและจัดการกับปัญหาซิลิโคนลอยหลังทำได้
  • สอบถามและสร้างความเข้าใจก่อนตัดสินใจ ก่อนที่จะตัดสินใจเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เราควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการเสริมจมูก
  • เลือกรูปแบบซิลิโคนที่เหมาะสม การเลือกประเภทและแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐานเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อหลังทำ รวมทั้งรูปทรงของซิลิโคนก็ควรเหมาะสมกับฐานจมูกเดิมด้วย
  • การดูแลหลังเสริมจมูก การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลหลังเสริมจมูก หลีกเลี่ยงการสัมผัส ขยับหรือโยกบริเวณจมูก ไม่ควรนำมือถูกที่จมูกบ่อย ๆ เพราะอาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อนได้รวมถึงการออกแรงมากจนเกินไปทำให้เสี่ยงต่ออการกระทบกระเทือนต่อจมูกและรูปทรง

ซิลิโคนลอยขยับได้นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้จมูกทะลุแล้วยังส่งผลต่อความมั่นใจและความสวยงามของจมูก เนื่องจากจมูกถือเป็นจุดศูนย์กลางของใบหน้า รูปทรงที่เอียงผิดรูปเป็นสิ่งที่ควรได้รับการแก้ไขโดยเร็วไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสภาพจิตใจ รวมถึงโครงสร้างจมูกที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคต

Better Me Clinic ดูแลการทำศัลยกรรมเสริมจมูกโดยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญ ประเมินและออกแบบการผ่าตัดรวมถึงการปรับแก้จมูกแบบเคสต่อเคสโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เข้าใจถึงโครงสร้างจมูกและใบหน้าเพื่อให้ผู้รับบริการได้ทรงจมูกที่สวย ตรงใจ โดยคำนึงถึงความปลอยภัยเป็นหลักพร้อมรับประกันและดูแลตลอด 1 ปีเต็ม

สอบถามเพิ่มเติมโทร 020598118 หรือ 0886032641 หรือ Line: @bettermeclinic 

Facebook และ IG : Better Me Clinic by Dr.Chanya

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง

ที่มาของข้อมูล

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ