ระวังซิลิโคนทะลุ รีบเช็กอาการก่อนเสียโฉม
ปัจจุบันการเสริมจมูกเป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะการมีจมูกสวยโด่งได้รูปเข้ากับใบหน้า สามารถช่วยปรับลุคให้ดูดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่าทำแล้วได้ความมั่นใจมาเต็มๆ แต่มีบางเคสที่หลังจากทำไปแล้วอาจเกิดอาการบวมแดง อักเสบ จากซิลิโคนที่เสริมเข้าไปในจมูก หากปล่อยไว้จะทำให้เกิดอาการซิลิโคนทะลุจนเสียโฉมได้ ซึ่งปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
วันนี้ทางคลินิกจึงอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจกับอาการซิลิโคนจมูกทะลุให้มากขึ้น ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร มีอาการแบบไหน และหากเกิดขึ้นแล้วสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้าง เรียกได้ว่ารวบรวมมาครบจบในที่เดียว ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันเลยค่ะ
เปิดสาเหตุที่ทำให้ซิลิโคนทะลุ
อาการซิลิโคนจมูกทะลุนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ บางครั้งก็เกิดจากพฤติกรรมของผู้เข้ารับศัลยกรรมเอง ความผิดพลาดของศัลยแพทย์ หรือบางครั้งก็เกิดจากตัววัสดุซิลิโคนที่ใช้เสริมเข้าไปในจมูก โดยอาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุดังนี้:
การเลือกซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม การเลือกรูปร่างของซิลิโคนนั้นต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ เพราะศัลยแพทย์ต้องทำการประเมินด้วยว่าผู้เข้ารับการศัลยกรรมมีเนื้อจมูกมากพอที่จะเสริมจมูกในแบบที่ต้องการหรือไม่ บางคนมีเนื้อจมูกบางอยู่แล้ว การเสริมซิลิโคนที่มีขนาดยาว หนา หรือแหลมเกินไป จะทำให้ซิลิโคนไปกดทับเนื้อจมูก ส่งผลให้ผิวหนังขาดเลือดและออกซิเจน บางลงเรื่อยๆ จนทำให้ซิลิโคนทะลุได้ค่ะ
การวางตำแหน่งซิลิโคน แต่ละคนมีรูปร่างของจมูกที่แตกต่างกันออกไป จึงต้องมีการออกแบบทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า การวางซิลิโคนในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม นอกจากจะมีผลเรื่องความสวยงามแล้ว ยังเพิ่มโอกาสทำให้ซิลิโคนเบี้ยว เอียง และเคลื่อนไปกดทับเนื้อจมูกในบริเวณที่ไม่ต้องการ ส่งผลให้ซิลิโคนทะลุได้เช่นเดียวกันค่ะ
ซิลิโคนไม่ได้มาตรฐาน การเลือกเสริมจมูกควรเลือกทำกับคลินิกที่ไว้วางใจ และมีศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ ไม่ควรเลือกเพราะราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะอาจได้ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือซิลิโคนปลอม ซึ่งทำเกิดอาการ อักเสบ ติดเชื้อ เสี่ยงต่อการซิลิโคนทะลุมากๆ นอกจากจะเสียโฉมแล้ว ยังต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อมารักษาอาการอีกด้วย ดังนั้นก่อนทำควรเลือกคลินิกดีๆ นะคะ
เกิดการอักเสบ และติดเชื้อ อาการอักเสบและอาการติดเชื้อเป็นปัญหาที่พบได้กับการผ่าตัดทุกชนิด และเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งการที่ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อต้านซิลิโคน อาการแพ้ หรือการดูแลแผลหลังผ่าตัดที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจเริ่มจากมีอาการปวด บวม แดง ไปจนถึงการมีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลออกจากด้านในจมูก
หากยังปล่อยไว้ อาการอักเสบรุนแรงขึ้น จนทำให้ผิวหนังบริเวณที่อักเสบเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ กระทั่งซิลิโคนกินเนื้อจมูกจนซิลิโคนทะลุ ดังนั้นหากเริ่มมีอาการผิดปกติหลังการศัลยกรรมจมูก ควรรีบปรึกษาคลินิกที่เข้ารับการทำศัลยกรรม เพื่อติดตามอาการหลังการผ่าตัดนะคะ
ซิลิโคนโยกหรือขยับบ่อย หลังทำจมูกแล้ว หลายๆ คนอาจยังติดนิสัยชอบ แคะ แกะ เกา หรือขยี้จมูกแรงๆ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อน จมูกเบี้ยวผิดรูป จนทำให้ซิลิโคนทะลุในรูจมูกได้ หรือบางคนทำมาแล้วไม่ถูกใจ กลับไปแก้จมูกใหม่โดยไม่ทิ้งระยะพักฟื้นที่นานพอ (ซึ่งโดยปกติแล้วควรทิ้งระยะประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หลังการเสริมจมูกครั้งล่าสุด) อาจทำให้เกิดอาการอักเสบ แผลเย็บไม่ติด ซิลิโคนไม่เข้าที่ จนซิลิโคนทะลุในที่สุดค่ะ
เช็กเลย! สัญญาณที่บ่งบอกว่ามีอาการซิลิโคนจมูกทะลุ
สำหรับคนที่เคยผ่านการเสริมจมูก หลายคนอาจกังวลและสงสัยว่าอาการซิลิโคนทะลุเป็นอย่างไร? ต้องบอกก่อนว่าอาการของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันค่ะ ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน และความรุนแรงของอาการอักเสบ ดังนั้นหากมีอาการเหล่านี้หลังจากการทำศัลยกรรมจมูก ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจและรีบเข้าไปปรึกษาศัลยแพทย์ที่เราไว้วางใจนะคะ
- ปลายจมูกบาง สะท้อนแสงกว่าส่วนอื่นๆ
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเคสที่เสริมซิลิโคนที่หนาเกินกว่าเนื้อจมูกที่มี หรือใส่ซิลิโคนเป็นเวลานานจนผิวหนังเริ่มบาง หากสังเกตว่าผิวหนังบริเวณจมูกเริ่มมีความมันวาว สะท้อนแสงมากกว่าส่วนอื่นๆ ควรรีบเข้าปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อเข้ารับการแก้ไขก่อนที่ซิลิโคนจะทะลุนะคะ - จมูกมีร่องหรือรอยบุ๋ม
เคสที่พบได้ในผู้ที่ทำจมูกมาเป็นเวลานานค่ะ โดยอาจเกิดจากการที่เนื้อเยื่อที่หุ้มซิลิโคนเกิดพังผืด หรือมีการรัดตัววัสดุแน่นจนเกินไป จนทำให้เห็นขอบของซิลิโคนชัดเจน เกิดเป็นร่อง ไม่เรียบเนียน นอกจากจะมีผลเรื่องความสวยงามแล้ว หากปล่อยไว้ยังเสี่ยงซิลิโคนจมูกทะลุด้วยนะคะ - สิวหัวช้างขึ้นที่ปลายจมูก
หลังจากการเสริมจมูก หากเกิดสิวหัวช้างขึ้นที่ปลายจมูกและรักษาไม่หาย อย่าชะล่าใจว่าเป็นสิวฮอร์โมนหรือเพราะการรักษาความสะอาดเพียงอย่างเดียว เพราะมันอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจมูกของคุณกำลังอักเสบ หากปล่อยไว้อาการอักเสบอาจลุกลาม ทำให้เนื้อเยื่อจมูกบาง จนซิลิโคนทะลุได้ค่ะ - มีรอยตะปุ่มตะป่ำที่จมูก
ในบางกรณี หลังจากเสริมจมูกไปแล้ว อาจมีหินปูนหรือพังผืดมาเกาะที่ตัวซิลิโคน ทำให้ผิวซิลิโคนไม่เรียบ และกลายเป็นรอยขรุขระในบริเวณที่เสริมจมูก หากมีอาการดังกล่าวพร้อมการเจ็บจมูกร่วมด้วย อาจเป็นอาการเบื้องต้นของอาการซิลิโคนทะลุได้ค่ะ - ลูบปลายจมูกแล้วรู้สึกเสียว
อาการเสียวปลายจมูกอาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติหลังการเสริมจมูก อาการเสียวเกิดขึ้นได้จากการที่ซิลิโคนถูกดันออกมาใกล้ผิวมากเกินไป ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวมีความเซนซิทีฟสูงค่ะ หากสังเกตว่ามีอาการดังกล่าวไม่ควรปล่อยไว้ เพราะมันกำลังบอกว่าเนื้อจมูกของคุณเริ่มบางแล้วค่ะ - รูปทรงจมูกเปลี่ยนไป
อาการที่เกิดขึ้นได้ในผู้ที่ทำจมูกมาเป็นเวลานานแล้ว โดยสาเหตุอาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้ซิลิโคนเคลื่อน หรือจากการเกิดพังผืดรัดแน่น จนซิลิโคนเลื่อนลงมาผิดตำแหน่ง บิดเบี้ยวผิดรูป และกดทับในส่วนเนื้อเยื่อที่ไม่ต้องการ หากมีอาการดังกล่าวควรรีบเข้ารับการรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้ซิลิโคนทะลุออกมานะคะ
เมื่อซิลิโคนจมูกทะลุต้องแก้ไขอย่างไร
แน่นอนว่าอาการซิลิโคนทะลุนั้น เป็นฝันร้ายของทุกคนที่เข้ารับการเสริมจมูก และเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่หากเกิดขึ้นแล้ว ควรเข้าใจถึงวิธีแก้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงการรักษาได้ทันท่วงที และไม่ปล่อยไว้จนอาการรุนแรง เพื่อให้มีจมูกที่สวย สมหวังในแบบที่เราต้องการค่ะ
หากสังเกตเห็นความผิดปกติหลังจากการเสริมจมูก ควรรีบนัดกับคลินิกที่เราเสริมจมูก เพื่อรับคำปรึกษาจากศัลยแพทย์ผู้ดูแลเคส ในเบื้องต้น หากมีอาการปวด บวม แดง สามารถทานยาแก้อักเสบเพื่อบรรเทาอาการได้ และลดการสัมผัส แคะ แกะ เกา บริเวณจมูก ในเคสที่เห็นปลายซิลิโคนโผล่ออกมา ห้ามเอาออกเองเป็นอันขาดนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ ติดเชื้อ ทำให้อาการแย่ลง และเพิ่มความยุ่งยากในการรักษาในอนาคต
เมื่อถึงเวลาเข้าพบแพทย์ แพทย์จะทำการประเมินความรุนแรงของอาการ โดยหากเป็นเคสที่ซิลิโคนยังไม่ทะลุออกมา และเนื้อจมูกไม่บางจนเกินไป อาจสามารถเปลี่ยนซิลิโคนใหม่ได้เลย แต่หากอาการอักเสบมีอาการรุนแรง จนเกิดเนื้อตาย หรือซิลิโคนทะลุออกมาแล้ว ต้องทำการนำซิลิโคนเก่าออก และทิ้งระยะพักฟื้นเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนที่จะสามารถทำการเสริมจมูกใหม่ค่ะ
เลือกเสริมจมูกอย่างไร ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุ
ในปัจจุบัน การเสริมจมูกได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้า และปรับลุคให้ดูดีขึ้นได้จริง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุเช่นกัน ทุกคนที่ตัดสินใจเสริมจมูก ย่อมไม่มีใครต้องการให้เกิดปัญหาดังกล่าว ดังนั้นจึงควรทำตามข้อควรปฏิบัติเหล่านี้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุ
- ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด: ก่อนเข้ารับการเสริมจมูก ควรเข้าใจถึงข้อจำกัด ความเสี่ยง และข้อควรปฏิบัติทั้งก่อนและหลังการศัลยกรรม เพื่อให้มั่นใจว่าได้ทบทวนข้อมูลอย่างรอบด้านแล้ว
- เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ: เข้าปรึกษาการทำจมูกกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้อง และได้รับมาตรฐานทั้งในเรื่องของบุคลากร เครื่องมือ และความสะอาด
- เลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์: ใช้เวลาศึกษาข้อมูลศัลยแพทย์ที่เราไว้ใจ เข้าไปดูเคสรีวิว เพื่อดูว่าผลงานของแพทย์คนนั้นตรงกับแบบที่ต้องการหรือไม่ ดูใบประกาศนียบัตรว่าเป็นแพทย์เฉพาะทางหรือเปล่า เป็นต้น
- ใช้ซิลิโคนที่มีคุณภาพ: อย่าเลือกคลินิกเพียงเพราะการเสนอบริการที่ราคาถูก เพราะยิ่งราคาถูกยิ่งเสี่ยงต่อการเจอซิลิโคนปลอม หรือซิลิโคนที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งระยะยาว มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะทำให้ซิลิโคนทะลุ
- เลือกคลินิกที่มีบริการติดตามอาการ: คลินิกที่ดีควรมีบริการติดตามอาการหลังการผ่าตัด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอาการแทรกซ้อน หรือผลข้างเคียงอันตราย ที่เกิดขึ้นหลังจากการเสริมจมูก หรือหากมีอาการผิดปกติก็สามารถแนะนำให้เข้ามาเช็กอาการได้ทันท่วงที
- ดูแลจมูกอย่างถูกวิธี: หลังจากการทำจมูก โดยเฉพาะในช่วงหลังผ่าตัดใหม่ๆ ควรปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทานยาให้ตรงตามกำหนด และงดพฤติกรรมที่จะกระทบกระเทือนต่อจมูก เพื่อให้มั่นใจว่า ซิลิโคนสามารถเกาะติดกับเนื้อเยื่อได้ดี
สรุปซิลิโคนทะลุ รีบเช็กอาการก่อนเสียโฉม
การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เป็นหนึ่งในศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะจมูกที่สวย โด่ง ได้รูป สามารถช่วยปรับโครงหน้าให้ดูดี มีมิติ จมูกพุ่ง ถ่ายรูปสวย ช่วยเสริมความมั่นใจ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเสริมจมูกนั้นมาพร้อมความเสี่ยงของการเกิดซิลิโคนทะลุ ซึ่งอาจเกิดได้จากการแพ้ซิลิโคน การดูแลที่ไม่ถูกวิธี ความผิดพลาดของศัลยแพทย์และคลินิกที่ทำหัตถกรรม ไปจนถึงการเลือกใช้ซิลิโคนที่ไม่ได้คุณภาพค่ะ
โดยก่อนที่ซิลิโคนจมูกจะทะลุ อาจมีสัญญาณเตือน เช่น ผิวหนังบริเวณจมูกบาง ลูบแล้วมีอาการเสียว รูปของซิลิโคนบิดเบี้ยว ไปจนถึงการเกิดรอยขรุขระ หรือสิวหัวช้างที่ปลายจมูก ซึ่งล้วนเป็นอาการผิดปกติที่หากทิ้งไว้ ก็จะลุกลามและทำให้ซิลิโคนทะลุได้
ดังนั้นหากสังเกตเจออาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อหาแนวทางการรักษาที่ถูกวิธีนะคะ จะเสียเงินเพื่อความสวยทั้งที อย่าลืมเลือกคลินิกดีๆ ที่เราไว้ใจ จะได้มีจมูกสวยๆ ที่เรามั่นใจ และไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลังค่ะ
