“ผ่าตัดยกคิ้ว” วิธีช่วยแก้ปัญหาคิ้วตกและปรับรูปคิ้วให้สวยงาม
“คิ้วตก” “หัวคิ้วตก” หรือ “หางคิ้วตก” เป็นหนึ่งในปัญหากวนใจของใครหลายคน เพราะคิ้วเปรียบเหมือนกับมงกุฎของใบหน้า หากเรามีคิ้วที่ได้รูป อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็จะทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น มีมิติ และสวยงาม แต่ถ้าหางคิ้วตกลงมาต่ำกว่าปกติ ก็จะทำให้ใบหน้าดูเป็นคนที่เคร่งเครียดและไม่เป็นมิตรตลอดเวลา รวมทั้งยังทำให้ดูแก่กว่าวัย และเสียบุคลิกภาพอีกด้วย
สำหรับใครที่มีปัญหาคิ้วตก แล้วกำลังมองหาวิธีรักษาอยู่ ในบทความนี้ Better Me Clinic by Dr. Chanya จะพาไปทำความรู้จักกับการทำศัลยกรรมยกคิ้ว (Brow Lift) วิธีแก้ปัญหาคิ้วตกอย่างเห็นผล คืออะไร เหมาะกับใคร อ่านได้ที่นี่เลย
การยกคิ้วคืออะไร?
การยกคิ้ว (Brow Lift) เป็นหนึ่งในศัลยกรรมความงามที่นำมาใช้แก้ปัญหาคิ้วตก คิ้วไม่เท่ากัน หนังตาตก หรือหางตาตกที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดผิวหนังบริเวณคิ้วให้ยกกระชับขึ้น ช่วยให้ปลายคิ้วดูยกสูงขึ้นตามไปด้วย
การผ่าตัดยกคิ้วนั้น จะนิยมทำร่วมกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift) หรือ การทำศัลยกรรมตาสองชั้น (Double Eyelid Surgery) เพราะจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ ทำให้ผลลัพธ์ของการทำศัลยกรรมความงามออกมาดีที่สุด
คิ้วตกคืออะไร?
คิ้วตก หมายถึง คนที่มีตำแหน่งคิ้วอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีคิ้วตกหรือเปล่า สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ โดยดูว่าคิ้วของตนเองอยู่ห่างจากกระดูกเบ้าตามากเกินไปหรือเปล่า เพราะตำแหน่งคิ้วที่เหมาะสมและได้รูปที่สวยงาม ควรอยู่ที่ขอบกระดูกเบ้าตาและห่างจากเปลือกตาบนประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร หากอยู่ห่างกว่านั้น หรือหางคิ้วอยู่ต่ำกว่าหัวคิ้ว ก็แสดงว่าเป็นลักษณะของคิ้วตกนั่นเอง
คิ้วตกมีสาเหตุมาจากอะไร?
สาเหตุที่ทำให้คิ้วตกมีดังนี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คิ้วตกเลย โดยเมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้ผิวไม่กระชับแข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน และทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อยลงมา รวมถึงทำให้คิ้วตกด้วย
- พันธุกรรม ในบางคนก็อาจมีโครงสร้างใบหน้าที่ทำให้คิ้วตกตั้งแต่เกิดก็ได้เช่นกัน
- ความเครียด การที่เราทำงานที่เคร่งเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาหดเกร็งบ่อยและนานเกินไปจนทำให้ดึงคิ้วให้ต่ำลงมาได้
- เส้นประสาททำงานผิดปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่ใช้เปลือกตาทำงานได้ไม่ดี และเกิดปัญหาเปลือกตาตก และคิ้วตกตามมาได้
- หนังตาเยอะ หรือหนาเกินไป เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย ตาปรือ และคิ้วตกได้เช่นกัน
การยกคิ้วเหมาะกับใคร?
การผ่าตัดยกคิ้วจะเหมาะกับคนที่มีปัญหาคิ้วตก หรือหางคิ้วตกมากๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดโบทูลินัมท็อกซินเอ (Botulinum Toxin A) หรือยกกระชับผิวด้วยเทอร์มาจ (Thermage) หรืออัลเทอร่า (Ulthera) เช่น
- คิ้วตกจากการที่อายุเพิ่มมากขึ้น
- คิ้วตกจากการที่หนังตาตก หรือหนังตาหย่อน
- คิ้วตกหลังจากที่ทำศัลยกรรมตาสองชั้น หรือผ่าตัดหนังตาส่วนเกินออกไปแล้วระยะหนึ่ง
- คิ้วตก หางคิ้วตกจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
เนื่องจากการผ่าตัดยกคิ้วจะสามารถแก้ไขปัญหาคิ้วตกเหล่านี้ได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
การยกคิ้วมีกี่วิธี?
การผ่าตัดยกคิ้ว จะแบ่งเป็น 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่ การผ่าตัดยกคิ้วแบบปกติ และการผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้อง โดยมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
1. การผ่าตัดยกคิ้วแบบปกติ
เป็นการผ่าตัดยกคิ้วด้วยการใช้มีดผ่าตัดทั่วไป โดยแพทย์จะทำการตัดผิวหนังส่วนเกินที่อยู่เหนือคิ้วออก แล้วเย็บดึงผิวหนังขึ้น เพื่อช่วยให้คิ้วกลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งแพทย์แต่ละคนก็จะมีเทคนิคในการยกคิ้วที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
- ยกคิ้วเทคนิค Direct Brow Lift แพทย์จะทำการกรีดแผลบริเวณขอบคิ้วด้านล่าง หรือด้านบน แล้วเย็บชั้นผิวหนังช่วยบนให้ตึงเพื่อยกขึ้นมา จัดเป็นวิธียกคิ้วที่ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ก็อาจมองเห็นแผลเป็นจากการผ่าตัดได้ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องสักคิ้วทับรอยแผลเป็น
- ยกคิ้วเทคนิค Pretrichial Brow Lift เป็นเทคนิคยกคิ้วในอดีต โดยแพทย์จะกรีดตลอดแนวยาวเหนือหน้าผากขึ้นไป แล้วทำการดึงคิ้วยกขึ้นให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นวิธีที่ไม่ค่อยนิยม เพราะแผลผ่าตัดใหญ่ ใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน
- ยกคิ้วเทคนิค Temporal Lift แพทย์จะกรีดบริเวณขมับเพื่อปรับคิ้วด้านข้างให้สูงขึ้น เทคนิคนี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาหางคิ้วตก หางตาตก และดึงรอยย่นบนผิวหนังให้ลดน้อยลงในคราวเดียวกัน ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
2. การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้อง (Endoscopic Brow Lift)
การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้องเป็นวิธีผ่าตัดยกคิ้วแบบใหม่ โดยใช้กล้อง Endoscopic ที่มีขนาดเล็กเข้ามาช่วยในการผ่าตัด ทำให้แพทย์ไม่ต้องกรีดแผลยาวมาก แค่กำหนดจุดลงแผล 3-5 จุด เพื่อสอดกล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไป แล้วทำการผ่าตัดผ่านทางจอมอนิเตอร์แทน
การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้องนั้น จะใช้วัสดุทางการแพทย์ที่มีชื่อว่า “Endotine Transbleph” แทนการใช้ไหมละลายทั่วไปในการดึงคิ้วขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยึดเกาะด้านในได้ดี ทำให้ปรับรูปทรงคิ้วได้ตามที่ต้องการ
อีกทั้งยังมีข้อดีตรงที่แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กและถูกซ่อนไว้ตามแนวไรผม ทำให้มองเห็นได้ยาก เจ็บน้อย ไม่ค่อยมีอาการบวมช้ำและชา และใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน
ข้อดีของการยกคิ้ว
การผ่าตัดยกคิ้วมีข้อดีดังนี้
- ช่วยปรับรูปทรงคิ้วให้อยู่ตำแหน่งที่สวยงาม ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
- ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน หลังทำแล้วสามารถอยู่ได้นานหลายปี
- ช่วยให้คิ้วทั้งสองข้างดูเท่ากัน ส่งผลให้ชั้นตาทั้งสองข้างดูเท่ากันมากขึ้นตามไปด้วย
- อาจช่วยแก้ไขปัญหาหนังตาตก หนังตาหย่อนคล้อยได้
- มีความปลอดภัยสูง ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ไหมที่ใช้ในการดึงคิ้วสามารถสลายได้เองภายใน 6-12 เดือน
ก่อนยกคิ้วต้องเตรียมตัวอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดยกคิ้วเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ และทำให้ผลการรักษาออกมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้ารับการรักษามากที่สุด โดยแพทย์จะแนะนำให้เตรียมตัวดังนี้
- ผู้เข้ารับการผ่าตัดยกคิ้วจะต้องเข้าไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ ประเมินร่างกาย รวมถึงวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมก่อน
- หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริมอยู่ จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดการใช้ยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้าอย่างน้อย 7 วันก่อนการผ่าตัด เพื่อลดการเสียเลือดระหว่างผ่าตัด เช่น ยาแอสไพริน ยาวาร์ฟาริน หรือยาในกลุ่มระงับอาการปวด
- งดการใช้ยาสมุนไพร อาหารเสริม หรือวิตามินบางประเภท ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา โอเมก้า 3 น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส หรือโคเอนไซม์คิวเทน เป็นต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
- งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 3-6 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพราะนิโคตินในบุหรี่จะส่งผลกระทบต่อการหายของบาดแผล
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด
- ในวันที่เข้ารับการผ่าตัด ไม่ต้องแต่งหน้า ไม่ต้องใส่คอนแทคเลนส์ งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด ไม่ทาเล็บมือ เล็บเท้า รวมถึงการต่อเล็บทุกชนิด
- ไม่แนะนำให้ขับรถมาเอง ควรพาเพื่อน หรือญาติเดินทางมาด้วย
ขั้นตอนการผ่าตัดยกคิ้วเป็นอย่างไร?
การผ่าตัดยกคิ้วเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น โดยจะมีขั้นตอนการผ่าตัดดังนี้
- แพทย์จะทำการประเมินและวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการก่อน
- หลังจากนั้นจะทำการฉีดยาชาเฉพาะจุด แล้วทำการผ่าตัดยกคิ้ว ซึ่งในระหว่างที่ผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด
- หลังจากที่แพทย์ผ่าตัดยกคิ้วเสร็จแล้วก็จะทำการเย็บปิดแผลให้เรียบร้อย และให้นั่งพักสังเกตอาการ 1-2 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอาการผิดปกติ ก็สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ทันที
หลังยกคิ้วต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังจากที่ผ่าตัดยกคิ้วเสร็จแล้ว จะต้องดูแลแผลผ่าตัดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลผ่าตัดฟื้นตัวได้ดีขึ้น และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยแพทย์อาจแนะนำให้ดูแลตัวเองดังนี้
- หลีกเลี่ยงไม่แผลผ่าตัดโดนน้ำจนกว่าจะมีการตัดไหม หลังจากนั้นสามารถล้างหน้าได้ตามปกติ
- ควรนอนหมอนสูงในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมและเขียวช้ำ
- หากต้องการสระผม แนะนำให้ไปสระผมที่ร้านทำผม เพื่อป้องกันไม่แผลโดนน้ำ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง อาหารทะเล
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- รับประทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
- ในช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวมได้
- ทำความสะอาดแผลตามที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก แช่อ่างอาบน้ำ ซาวน่า หรือว่ายน้ำ จนกว่าแผลผ่าตัดจะหายดี หรือตามที่แพทย์สั่ง
- หากมีอาการผิดปกติรุนแรง เช่น ปวดแผลมาก หรือเลือดไหลไม่หยุด ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินอาการทันที
- เข้ารับการตรวจติดตามผลการรักษาตามที่แพทย์นัดหมาย
ผลข้างเคียงจากการยกคิ้ว
การผ่าตัดยกคิ้วอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงดังนี้
- ความเสี่ยงทั่วไปที่พบได้จากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ แพ้ยาชา แพ้ยาสลบ อาการชา บวมช้ำ เลือดออก หรือเลือดคลั่ง
- อาจรู้สึกเจ็บและปวดแผลบริเวณที่ผ่าตัด สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด
- อาจเกิดรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติแผลเป็นคีลอยด์
- เส้นประสาทในตำแหน่งใกล้เคียงเสียหาย ทำให้เป็นอัมพาตชั่วคราวที่บริเวณคิ้ว หรือมีอาการชาชั่วคราวที่บริเวณหนังศีรษะ
หลังยกคิ้วผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม?
การผ่าตัดยกคิ้วสามารถอยู่ได้นานประมาณ 5-20 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การดูแลสุขภาพร่างกายและผิวพรรณของแต่ละบุคคล การใช้ชีวิตประจำวัน และอายุที่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากการผ่าตัดยกคิ้วแล้ว มีวิธียกคิ้วอะไรอีกบ้าง?
นอกจากการผ่าตัดยกคิ้วแล้ว ยังมีอีกหลายหัตถการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาคิ้วตกได้ ซึ่งคุณสามารถเข้ามาให้แพทย์ที่ Better Me Clinic ช่วยประเมินได้ว่า ปัญหาคิ้วตกที่เป็นอยู่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีใด จำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่ เช่น
- อัลเทอร่า (Ulthera) หรือไฮฟู่ (HIFU) เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ ช่วยให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาแข็งแรงและยกกระชับขึ้น สามารถช่วยยกคิ้วให้สูงขึ้นได้
- เทอร์มาจ (Thermage) เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวด้วยคลื่นวิทยุ RF ช่วยให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเต่งตึง ริ้วรอยแลดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน และยกคิ้วขึ้นได้
- ฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณหน้า สามารถช่วยรักษารอยย่นที่หน้าผาก รวมถึงปัญหาคิ้วตก หางตก ที่เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาหดเกร็งได้
การร้อยไหม (Face Lift) เป็นการยกกระชับผิวด้วยไหมละลาย ช่วยยกแนวคิ้วให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม อีกทั้งเงี่ยงที่อยู่ตามแนวเส้นไหมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินได้ ทำให้ผิวกระชับมากขึ้น
ยกคิ้วที่ไหนดี?
การผ่าตัดยกคิ้วเป็นหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาคิ้วตก หางคิ้วตก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลทันที และผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีปัญหาคิ้วตก หางคิ้วตก แล้วไม่รู้ว่าจะไปผ่าตัดยกคิ้วที่ไหนดี ให้ Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ คุณหมอของเราพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด มีการประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนทำ เพื่อที่จะได้เลือกเทคนิคและวิธีรักษาคิ้วตกที่เหมาะสมกับแต่ละคน มั่นใจได้เลยว่าทุกเคสจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด หากสนใจ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าจะช่วยแก้ปัญหาผิวให้กับคุณอย่างแน่นอน!
ที่มาของข้อมูล
- American Board of Cosmetic Surgery, Brow Lift Guide, (https://www.americanboardcosmeticsurgery.org/procedure-learning-center/face/brow-lift-guide/), 31 July 2023.
- Mayo Clinic, Brow Lift, (https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/brow-lift/about/pac-20393257), 31 July 2023.
- Dr.gorn Aesthetique, ปัญหาคิ้วตก (https://drgornaesthetique.co.th/edu-surgery/concern-of-brow-ptosis-correction/), 31 กรกฎาคม 2566.