หน้าหมอง ไร้ราศี ทำยังไงให้ได้ผิวที่ดีกลับคืนมา?
ผิวหน้าหมองคล้ำ ไร้ราศี นับเป็นหนึ่งปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนกลัดกลุ้มใจไม่น้อย เพราะหลายครั้งมักเกิดขึ้นโดยที่เราก็ไม่สามารถทราบถึงสาเหตุอย่างแน่ชัด มิหนำซ้ำหากดูแลผิวอย่างไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การมีใบหน้าที่แก่ก่อนวัยได้อีกด้วย
หลายคนมักเข้าใจว่าปัญหาผิวหมองคล้ำเกิดจากการเผชิญกับแสงแดดจ้าเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วหน้าหมองคล้ำสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตและมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม
วันนี้ Better Me Clinic จึงจะพาทุกคนมารู้จักกับปัญหา “ผิวหน้าหมองคล้ำ” อย่างเจาะลึก ไม่ว่าจะเป็น หน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร? หากมีปัญหาหน้าหมองคล้ำควรเลือกใช้สกินแคร์แบบไหน? ไปจนถึงวิธีการรักษาและวิธีป้องกันไม่ให้เกิดผิวหมองคล้ำขึ้นอีก หากทำตามบทความนี้คุณจะกลับมามีใบหน้าที่สดใสแน่นอน!
หน้าหมองคล้ำคืออะไร?
หน้าหมองคล้ำ คือ ปัญหาผิวรูปแบบหนึ่ง เมื่อเป็นแล้วใบหน้าจะขาดความกระจ่างใส สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ดูโทรมและแก่กว่าวัย
โดยทั่วไปแล้วปัญหาผิวหมองคล้ำมักเกิดร่วมกับการมีผิวที่แห้ง ขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื้น หากปล่อยไว้อาจนำไปสู่การเกิดปัญหาสิวและริ้วรอยได้
หน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร?
ผิวหน้าหมองคล้ำสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายนอกอย่างสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ และปัจจัยภายในอย่างพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงความผิดปกติบางอย่างภายในร่างกาย โดยสามารถแบ่งสาเหตุของการเกิดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำออกเป็นเหตุผลหลักๆ ได้ดังนี้
1. หน้าหมองคล้ำจากแสงแดด
ถึงแม้การรับแสงแดดในตอนเช้าจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีที่มีผลดีต่อกระดูกและการควบคุมระดับแคลเซียมในร่างกาย แต่การรับแสงแดดที่จ้าเป็นเวลานานเกินไปก็สามารถทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้
เนื่องจากในร่างกายของคนเราจะมีเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นตัวกำหนดสีผิว หากใครที่มีเมลานินมากจะทำให้มีผิวสีเข้ม ส่วนใครมีเมลานินน้อยก็จะทำให้ผิวขาว
นอกจากนี้ เมลานินยังมีหน้าที่ในการปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสียูวีที่อยู่ในแสงแดดด้วย ทำให้เมื่อเราสัมผัสกับแสงแดดจ้า ร่างกายจะผลิตเมลานินออกมาในปริมาณที่มากขึ้น จนดูมีสีผิวที่หมองคล้ำ และถ้าหากปล่อยไว้นานๆ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ ได้อีกด้วย
2. สภาพอากาศ
สภาพอากาศที่เย็นมากเกินไปสามารถทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำได้ เนื่องจากอากาศหนาวจะทำให้ความชื้นในอากาศลดลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้อากาศเกิดการสมดุล ความชื้นที่อยู่ภายใต้ผิวหนังของเราจึงถูกนำมาใช้ ทำให้ผิวหน้าเกิดการแห้งตึง หมองคล้ำ ในบางรายที่มีอาการหน้าแห้งมากๆ อาจมีอาการหน้าลอกเป็นขุย หรือผิวอักเสบร่วมด้วยได้
ถึงแม้ประเทศไทยจะเป็นเมืองร้อนแต่อากาศหนาวที่ว่า ไม่ใช่แค่เพียงอากาศหนาวที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการอยู่ในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศเป็นเวลานานด้วย เพราะฉะนั้นชาวออฟฟิศถึงจะไม่โดนแดดก็อย่าชะล่าใจเรื่องผิวหมองคล้ำกันล่ะ
3. การทำงานผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน
การทำงานผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน คือ การที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากหรือน้อยกว่าปกติ ซึ่งหากเม็ดสีถูกผลิตออกมามากเกินไปก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำนั่นเอง
ส่วนสาเหตุของที่ทำให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกตินั้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่มักเป็นผลกระทบมาจากการทำงานผิดปกติของระบบอื่นๆ ในร่างกาย เช่น ภาวะต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ภาวะขาดวิตามิน รวมถึงอาจเป็นผลจากการใช้ยาบางชนิดด้วย
4. ขาดการดูแลผิวอย่างถูกต้อง
โดยปกติเซลล์ผิวที่ตายแล้วจะทำการผลัดเซลล์ผิวด้วยตัวเองในทุกๆ 28 วัน หากกระบวนการนี้ทำงานช้าลงก็จะทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และถ้ามีการสะสมของเหงื่อหรือสิ่งสกปรกตกค้างด้วย ก็จะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ หยาบกร้าน การสครับผิวจึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้เราสามารถขจัดสิ่งตกค้างที่อยู่บนใบหน้าออกไปได้
5. อายุและช่วงวัย
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็เสื่อมสภาพลงไปตามวัยและการใช้งาน ผิวเองก็เช่นกัน ในช่วงอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป การผลัดเซลล์ผิวที่เคยทำงานตามปกติจะค่อยๆ ทำงานได้ช้าลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ รวมทั้งคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ผิวของเราเต่งตึงก็จะผลิตได้ลดลงด้วย นำไปสู่การเกิดปัญหา ฝ้า กระ และริ้วรอยตามมานั่นเอง
6. พฤติกรรมการใช้ชีวิต
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในสาเหตุของการเกิดผิวหมองคล้ำเกิดมาจากรูปแบบการใช้ชีวิตของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การนอนดึก การดื่มน้ำ หรือการรับประทานผักผลไม้น้อย
การสูบบุหรี่ ไม่เพียงแต่จะทำลายปอดของเราเท่านั้น แต่สารนิโคตินในบุหรี่ สารคาร์บอนมอนอกไซด์ และน้ำมันทาร์ในควันบุหรี่ ยังมีส่วนในการทำลายผิวหนังของเราอีกด้วย
เนื่องจากสารเหล่านี้จะเข้าไปทำให้ระบบการเดินทางของเลือดดำเนินได้ไม่สะดวก ผิวขาดออกซิเจน และลดประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการปกป้องผิวจากแสงแดด ทำให้ผู้ที่สูบบุหรี่มีผิวที่หมองคล้ำนั่นเอง
การนอนดึกเองก็สามารถทำให้ผิวหมองคล้ำได้เช่นกัน เนื่องจากในช่วงเที่ยงคืนถึงตีสองเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน (Melotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีหน้าที่ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
หากใครที่พลาดการพักผ่อนในช่วงเวลานี้เป็นประจำ ก็จะทำให้ผิวของเราไม่ได้รับการบำรุง และทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส รวมถึงมีใต้ตาที่หมองคล้ำ
นอกจากนี้ การดื่มน้ำและการรับทานผักผลไม้ในจำนวนที่น้อยเกินไปอาจมีผลต่อผิวมากกว่าที่คุณคิด เนื่องจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวเกิดการขาดน้ำจนมีใบหน้าที่โทรมและดูหมองคล้ำ
ในขณะที่การรับประทานผักผลไม้น้อย ก็จะทำให้ร่างกายไม่ได้รับวิตามินอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะผลไม้ที่มีวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและทำให้ผิวกระจ่างใส
สกินแคร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าหมอง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับผิวหน้าหมองคล้ำอยู่ การเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ อาจทำให้ใบหน้าของคุณกระจ่างใสขึ้นได้
- วิตามินซี (Vitamin C) เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอนุภาคเป็นกรด ทำให้มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว รวมถึงช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน ทำให้ดูผิวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย ไม่เท่านั้นวิตามินซียังมีประโยชน์ต่อผิวในอีกหลายด้าน ทั้งมีส่วนช่วยในการสร้างความชุ่มชื้น ควบคุมความมัน และกระชับรูขุมขนได้
- วิตามินบี 3 หรือ ไนยาซินนาไมด์ (Niacinamide) วิตามินบี 3 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์ในการป้องกันผิวจากมลภาวะและแสงแดดได้ดี สามารถช่วยฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดจุดด่างดำต่างๆ ที่สำคัญยังเป็นตัวที่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) และ กรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA)
- วิตามินอี (Vitamin E) วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการซ่อมแซมผิว ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส ชุ่มชื้น ที่สำคัญสามารถลดเลือนริ้วรอยและช่วยชะลอไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัยได้
- กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) หรือ AHA หรือ กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) เป็นกรดอ่อนๆ จากผลไม้ มีคุณสมบัติสำคัญในการเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าบนใบหน้า ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ควบคุมความมัน รวมทั้งช่วยลดการอุดตันซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาสิวได้
- กรดเบต้าไฮดรอกซี (Beta Hydroxy Acid) หรือ BHA หรือ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) มีฤทธิ์ในการขจัดน้ำมันและเซลล์โปรตีนบนผิวหนัง ทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกสุดที่ตายแล้วสามารถผลัดออกไปได้โดยง่ายและช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่การใช้ BHA ที่เข้มข้นมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบร้อนเมื่อโดนแดด รวมทั้งเกิดอาการหน้าแห้งเป็นขุยได้
- ไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นได้เอง แต่จะลดลงทุกๆ ปีเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น สารชนิดนี้มีหน้าที่สำคัญในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใสมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย
แต่ทั้งนี้การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่หลากหลายอาจเป็นสาเหตุของผิวหน้าหมองคล้ำได้ เช่น การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ BHA ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดทั้งคู่ อาจทำให้ผิวหน้าบางลงจนไวต่อแสงแดดและเกิดผิวหมองคล้ำได้
นอกจากนี้ การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA ไม่ควรใช้คู่กับผลิตภัณ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เพราะจะทำให้ประสิทธิ์ภาพของผลิตภัณฑ์น้อยลง
วิธีรักษาปัญหาผิวหมองคล้ำ
การใช้สกินแคร์อาจเป็นการช่วยปรับผิวหน้าให้กระจ่างใสอย่างช้าๆ โดยการปรับสมดุล และฟื้นฟูภายในชั้นผิว แต่ถ้าหากอยากมีผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นอย่างรวดเร็ว แนะนำให้ทำหัตถการต่างๆ ดังนี้
1. เลเซอร์หน้าใส
การเลเซอร์หน้าใส คือ การยิงพลังงานเลเซอร์ลงไปบนผิว เพื่อให้พลังงานเลเซอร์เข้าไปทำให้เม็ดสีเมลานินแตกตัวออก ก่อนที่เม็ดเลือดขาวจะเข้ามากำจัดของเสียและขับสารเหล่านั้นออกจากร่างกายตามกระบวน จนทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสขึ้น
นอกจากนี้การเลเซอร์ผิวหน้า ยังช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวที่เสียไป ทำให้รูขุมขนแลดูกระชับและมีสีผิวที่สม่ำเสมอกัน
โดยเลเซอร์ที่นิยมใช้มีอยู่หลากหลายนวัตกรรม ซึ่งเลเซอร์แต่ละชนิดจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของพลังงาน สามารถเลือกใช้ได้ตามสภาพผิว เช่น Q-switch Laser เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำโดยเฉพาะ เน้นการเข้าไปสลายเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ในขณะที่ E-Matrix Laser จะเน้นการรักษาหลุมสิว แต่ยังทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ เป็นต้น
การเลือกใช้ชนิดของเลเซอร์จะแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน หากไม่มั่นใจว่าตนเองควรใช้เลเซอร์ชนิดไหน สามารถปรึกษาแพทย์ที่ Better Me Clinic ได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
2. การทำทรีตเมนต์ผิวหน้า
การทำทรีตเมนต์ผิวหน้า คือ การเติมสารอาหารให้กับผิวหน้าโดยตรงผ่านเทคนิคต่างๆ ซึ่งในการทำทรีตเมนต์หน้าแต่ละครั้งมักประกอบไปด้วยหลายขั้นตอน รวมทั้งสามารถเลือกดูแลปัญหาผิวด้านเดียว หรือหลายด้านไปพร้อมๆ กันได้
หากคุณกำลังประสบปัญหาหน้าหมองคล้ำ Better Me Clinic ขอแนะนำ Golden Treatment ทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมของทองคำ มีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส รูขุมขนแน่นกระชับ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ขณะทำจะช่วยให้ผิวได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และทำให้ผิวผ่อนคลายอีกด้วย
3. การฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy)
การฉีดเมโสหน้าใส คือ การใช้เข็มฉีดวิตามินหรือสารสกัดต่างๆ ที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผิว ฉีดลงไปในผิวชั้นกลางเพื่อเร่งให้เกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและซ่อมแซมผิวจากมลภาวะ รวมถึงช่วยให้ผิวแข็งแรง มีผิวสัมผัสที่เรียบเนียนขึ้นด้วย
โดยตัวยาเมโสที่นิยมฉีดในช่วงนี้ ได้แก่
- เมโสชาแนล (Meso Chanel) เป็นสารสกัดในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิดที่ผสมผสานกับสารสกัดบำรุงผิวต่างๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มาในรูปแบบสารน้ำ ช่วยบำรุงให้ ผิวแข็งแรงและกระจ่างใสมากขึ้น
- มาเด้คอลลาเจน (Made Collagen) เป็นการฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ เอนไซม์ และคอลลาเจน เข้าไปเพื่อขับของเสียที่ตกค้างอยู่ใต้ผิวออกมา ช่วยปรับสมดุลให้ผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้น ได้ผลดีมากในผู้ที่มีปัญหาสิวผดร่วมด้วย
- รีจูรัน (Rejuran) เป็นการฉีดวิตามินและสารสกัดต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิว โดยสารสกัดเด่น คือ สารพอลินิวคลีโอไทด์ ซึ่งสกัดมาจากดีเอ็นเอของปลาแซลมอน มีความคล้ายคลึงกับดีเอ็นเอของมนุษย์มาก ช่วยให้ผิวกลับมากระจ่างใสและอิ่มฟูขึ้นอีกครั้ง
- เอ็กโซโซม (Exosome) เป็นกระบวนการฉีดเมโสรูปแบบหนึ่งที่พัฒนาจากการฉีดสเต็มเซลล์ ช่วยบำรุงให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสและฉ่ำวาว ชะลอการเสื่อมของสภาพผิว รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ด้วย
- Sculptra เป็นการสารฉีดสาร Poly L Lactic Acid (PLLA) เพื่อเข้าไปกระตุ้นการเพิ่มเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้หลังฉีดผิวดูอิ่มฟู ยกกระชับ และผิวดูกระจ่างใสขึ้น
4. การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท ไฮยารูลอนิกเข้าไปเติมเต็มบริเวณผิวที่เกิดเป็นร่องลึก ซึ่งสารไฮยารูลอนิกมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี ทำให้บริเวณที่ฉีดเข้าไปนอกจากจะเติมเต็มร่องลึกได้แล้ว ยังทำให้ผิวบริเวณนั้นดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี และกระจ่างใสขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีการผลิตฟิลเลอร์ Belotero Revive ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่อิ่มน้ำโดยเฉพาะด้วย
หากวิธีที่กล่าวมายังไม่น่าสนใจ Better Me Clinic ขอแนะนำ การผลัดเซลล์ผิว (Peeling) หรือกระบวนการเร่งให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วโดยใช้สารเคมี มีให้เลือกหลายสูตร เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวทุกรูปแบบ หรือจะเป็นการดริปวิตามิน (Vitamin IV Drip) เพื่อเพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ ให้กับร่างกาย ช่วยให้สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ
วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำนั้นคล้ายกับการดูแลผิวทั่วไป คือ การรักษาความสะอาดของใบหน้าอยู่เสมอ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจทำให้เสียสุขภาพ เช่น การเลิกนอนดึก งดสูบบุหรี่ รวมถึงการดื่มน้ำและรับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น
แต่สิ่งที่ผู้มีปัญหาผิวหมองคล้ำต้องให้ควาสำคัญ คือ การป้องกันตนเองจากแสงแดดและมลภาวะ ซึ่งสามารถทำได้โดยการหมั่นทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 PA+++ อยู่เสมอ และควรสครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออก รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ด้วย
นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำยังควรที่จะใช้สกินแคร์ที่มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและบำรุงผิว ผลัดเซลล์ผิว รวมถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวเป็นประจำ หากปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้ได้ ก็เตรียมตัวมีผิวหน้ากระจ่างใสกันได้เลย!
รักษาปัญหาผิวหมองคล้ำที่ไหนดี?
จะเห็นได้ว่าปัญหาผิวมองคล้ำเป็นปัญหาที่รักษาได้ไม่ยาก แต่ต้องอาศัยเวลาร่วมกับวินัยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
แต่หากคุณกำลังมองหาสถานที่ในการรักษาปัญหาผิวหมองคล้ำ ให้ Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นหนึ่งในทางเลือก เพราะเรามีบริการแก้ไขผิวหมองคล้ำให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์หน้าใส การฉีดเมโส การผลัดเซลล์ผิว การทำทรีตเมนต์พร้อมฉายแสง LED การฉีดฟิลเลอร์ หรือแม้กระทั่งการดริปวิตามิน ทุกบริการเราให้บริการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น
หากยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกรักษาผิวหน้าหมองคล้ำด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคส หากสนใจ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าคุณจะมีผิวสวยๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน!
Aquaplus, เมลานิน: คืออะไร เกี่ยวข้องกับการดูแลผิวพรรณอย่างไร (https://aquaplus.co.th/melanin/), 8 ธันวาคม 2566.
HDmall, เลเซอร์หน้าใส รวมครบทุกข้อมูลเลเซอร์หน้าใสด้วย Dual Yellow Laser (https://hdmall.co.th/c/hdinsight-dual-yellow-laser-at-gangnam-clinic), 8 ธันวาคม 2566.
Mesoestetic, กู้หน้าหมองคล้ำดำเสีย ให้กลับมากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ (https://mesoestetic-th.com/กู้หน้าหมองคล้ำดำเสีย-ใ/), 8 ธันวาคม 2566.
Pobpad, ปัญหาหน้าหมองคล้ำ สาเหตุหลักและการรักษาให้ถูกจุด (https://www.pobpad.com/หน้าหมองคล้ำ-สาเหตุหลัก), 8 ธันวาคม 2566.
SkinX, หน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทำยังไงดี? ปัญหากวนใจที่แก้ไม่ยาก! (https://skinx.app/content/skin/dull-skin), 8 ธันวาคม 2566.
ทรูปลูกปัญญาดอทคอม, ทำไมตากแดดถึงดำ (https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/67221/-scibio-sci-), 8 ธันวาคม 2566.