จัดการปัญหาขอบตาดำ รอยคล้ำใต้ตา ตัวการใบหน้าโทรมอย่างอยู่หมัด!
ขอบตาดำ ขอบตาแพนด้า หนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูโทรมและดูแก่กว่าวัย แม้ว่าจะเป็นเพียงปัญหาทางด้านความงามที่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อสุขภาพ แต่ก็ทำให้ใครหลายคนสูญเสียความมั่นใจได้
หลายๆ คนมักเข้าใจว่าขอบตาดำมีสาเหตุมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอเท่านั้น จึงพยายามแก้ไขด้วยการเข้านอนให้เร็วขึ้น พักผ่อนให้มากขึ้น แต่ปัญหาขอบตาดำก็ยังไม่หายไปเสียที นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณกำลังแก้ปัญหาผิดจุด!
วันนี้ Better Me Clinic จะพาคุณมาทำความเข้าใจกับปัญหา “ขอบตาดำ” ว่าแท้จริงแล้วสามารถเกิดจากอะไรได้บ้าง? ถ้าอยากรักษาและป้องกันขอบตาดำต้องทำอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ!
ขอบตาดำคืออะไร? เกิดจากอะไร?
ขอบตาดำ คือ รอยดำคล้ำที่ปรากฎอยู่บริเวณรอบดวงตา โดยมากมักมีรูปร่างคล้ายวงรีอยู่บริเวณใต้ตา แต่ในผู้ที่มีอาการมากอาจมีรอยคล้ำลุกลามถึงเปลือกตาด้านบน คิ้ว และขมับได้ รวมถึงในบางรายยังอาจมีอาการบวมแดงของขอบตาร่วมด้วย
อาการขอบตาดำสามารถเกิดได้จาก 5 สาเหตุหลักๆ ดังนี้
1. การพักผ่อนไม่เพียงพอ
หนึ่งในสาเหตุที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดขอบตาดำ นั่นก็คือการพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาบางลง เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก และทำให้เกิดอาการเลือดคั่งบริเวณใต้ตา เราจึงสามารถสังเกตเห็นรอยคล้ำได้อย่างชัดเจน
2. การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
การมีขอบดำสามารถเกิดได้จากการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม โดยพบว่าผู้ที่มีขอบตาดำจากสาเหตุนี้มักมีผิวสีเข้ม โดยลักษณะของรอยคล้ำจะเกิดขึ้นตามรูปของกระบอกตา ตั้งแต่หนังตาล่างโค้งไปจนถึงหนังตาบน
ในบางครอบครัวที่มีผิวขาวแต่มีปัญหาขอบตาดำทั้งครอบครัว อาจเป็นเพราะมีการถ่ายทอดลักษณะการผลิตเม็ดสีบริเวณใต้ตาที่ผิดปกติไปยังรุ่นสู่รุ่น
นอกจากนี้การมีขอบตาดำยังเกิดจากการถ่ายทอดลักษณะเบ้าตาที่ลึกหรือโครงสร้างกระดูกบริเวณใบหน้าที่ยุบตัว ทำให้เมื่อมีแสงตกกระทบบริเวณใต้ตาเกิดเงามืด ขอบตาจึงดูดำมาก โดยขอบตาดำที่มาจากกสาเหตุนี้มักเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นนั่นเอง
3. ภาวะขาดน้ำ
เมื่อร่างกายได้รับปริมาณน้ำไม่เพียงพอตามที่ควรได้รับ จะทำให้เกิดภาวะผิวขาดความชุ่มชื้น เซลล์ผิวฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ทำให้ผิวไม่กระจ่างใส โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่แต่เดิมเป็นบริเวณที่มีผิวหนังบางอยู่แล้ว การที่ผิวหมองคล้ำขึ้นจึงสามารถสังเกตเห็นได้จากบริเวณนี้อย่างชัดเจน
4. แสงแดด
บนผิวของเราจะมีเม็ดสีที่เรียกว่า “เมลานิน” ที่นอกจากจะเป็นตัวกำหนดสีผิวของเราแล้ว เมลานินยังมีหน้าที่สำคัญในการปกป้องผิวของเราจากรังสีอัลตราไวโอเลตที่อยู่ในแสงแดดอีกด้วย
เมื่อเราโดนแสงแดดจ้าร่างกายจะผลิตเมลานินออกมาปกป้องผิวมากขึ้น ทำให้ผิวบริเวณใบหน้าและรอบดวงตาดูหมองคล้ำ นอกจากนี้ แสงแดดยังทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมถึงปัญหาสิวเมื่ออายุเพิ่มขึ้นอีกด้วย
5. ความเครียด
ความเครียดที่สะสมเป็นเวลานาน นอกจากจะส่งผลต่อสภาพจิตใจแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพภายนอกด้วย เนื่องจากความเครียดทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ปกติ ร่างกายจึงพยายามส่งเลือดไปยังบริเวณที่สำคัญก่อน ทำให้บริเวณใต้ตามีเลือดมาหล่อเลี้ยงน้อยลงและเกิดเป็นปัญหาขอบตาดำ
นอกจากนี้ในผู้ที่มีความเครีดยสูง ยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเส้นเลือดฝอยบริเวณดวงตาแตก ทำให้เกิดเลือดคั่งบริเวณใต้ตาและเกิดเป็นรอยคล้ำได้
6. การขาดสารอาหาร
การเกิดขอบตาดำ อาจมีผลมาจากการขาดวตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี 12 วิตามินอี วิตามินดี และวิตามินเค ซึ่งวิตามินเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างความแข็งแรงให้เส้นเลือดฝอย หากร่างกายขาดวิตามินเหล่านี้ไปก็จะทำให้เส้นฝอยแตกได้ง่ายจนนำไปสู่การเกิดขอบตาดำ
รวมทั้งการเกิดขอบตาดำและความหมองคล้ำ ยังเป็นอาการทั่วไปของการเกิดภาวะขาดธาตุเหล็ก ซึ่งมักพบในผู้ที่มีระดับวิตามินบี 12 ตำ่อีกด้วย
7. พฤติกรรมการใช้ชีวิต
การจ้องหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่สามารถทำให้เกิดขอบตาดำได้ เนื่องจากเมื่อดวงตาอ่อนล้าจากการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน หลอดเลือดบริเวณรอบดวงตาจะขยายตัวขึ้น ทำให้เราเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา
นอกจากนี้การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ก็มีผลต่อการทำให้เกิดขอบตาดำเช่นกัน เนื่องจากเมื่อเราสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้หลอดเลือดบริเวณดวงตาขยายขึ้นไม่ต่างจากตอนที่มีอาการตาล้า แต่อาจมีอาการตาแห้งและระคายเคืองตาร่วมด้วย เราจึงมักขยี้ตาอยู่บ่อยๆ ซึ่งการขยี้ตาก็จะยิ่งทำทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาคล้ำขึ้นเนื่องจากเกิดการอักเสบ บวมตึง และเส้นลายฝอยบริเวณรอยดวงตาโดนทำลาย
8. การใช้ยาบางชนิด
จากสาเหตุหลายข้อที่กล่าวมาก่อนหน้า จะเห็นได้ว่าหลอดเลือดมีความสำคัญอย่างมากต่อการเกิดรอยคล้ำใต้ตา ซึ่งยาที่ส่งผลต่อการเกิดขอบตาดำคล้ำนั่นก็คือ ยาขยายหลอดที่ใช้ในผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูงนั่นเอง
ยาชนิดนี้จะเข้ามาขยายหลอดเลือดเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งทำให้เส้นเลือดบริเวณใต้ดวงตามีการขยายขึ้นจนเราสามารถมองเห็นรอยคล้ำตาใต้ตาได้ชัดขึ้น
9. ความเจ็บป่วยต่างๆ
อาการขอบตาดำคล้ำที่เกิดขึ้นจากสาเหตุนี้มักเกิดขึ้นภายหลังจากการเกิดการอักเสบ โดยจะมีอาการคันตาและเกิดผื่นขึ้นบริเวณรอบดวงตา รวมถึงผิวหนังเกิดการหนาตัวขึ้น เห็นร่องผิวหนังได้อย่างชัดเจน มักพบในผู้ป่วยที่มีโรคภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้ผิวหนัง และหอบหืด หรือในผู้ที่มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เป็นต้น
นอกจากนี้ในผู้ที่มีอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลก็มีโอกาสทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นภาวะที่มีความสัมธ์ต่อพฤติกรรมการนอน ซึ่งในผู้ที่มีขอบตำคล้ำจากสาเหตุนี้มักจะมีผิวขาวซีดร่วมด้วย
วิธีสังเกตว่าเรามีปัญหาขอบตาดำจากสาเหตุใด
เนื่องจากสาเหตุของการเกิดขอบตาดำมีอยู่มากมายจนเราอาจสับสนได้ว่าแท้จริงแล้วขอบตาดำของเรานั้นเกิดจากสาเหตุอะไร Better Me Clinic ได้หยิบทริคง่ายๆ ในการสังเกตรอยคล้ำใต้ตามาฝากกัน!
ซึ่งวิธีสังเกตว่าเรามีขอบตาดำจากสาเหตุใดสามารถสังเกตได้จากสีของรอยคล้ำ ดังนี้
- รอยคล้ำสีน้ำเงิน : เกิดจากการไหลเวียนโลหิตไม่ดี
- รอยคล้ำสีน้ำตาล : เกิดจากการเผชิญกับแสงแดด การอักเสบบริเวณดวงตา
- รอยคล้ำจนเกือบมีสีดำ : เกิดจากเงาที่มาจากปัญหาผิวหนังที่หย่อนคล้อย เบ้าตาลึก
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากทราบสาเหตุของการเกิดขอบตาดำคล้ำอย่างแน่ชัด ก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อประเมินผิว หากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้อยู่ สามารถเข้ามาปรึกษาได้เลยที่ Better Me Clinic เราให้คำปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ขอบตาดำแก้ไขยังไงได้บ้าง?
วิธีการแก้ปัญหาขอบตาดำเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการหมั่นสังเกตว่าอาการขอบตาดำของเรามักเกิดขึ้นร่วมกับอาการหรือพฤติกรรมใด
เมื่อทราบสาเหตุแล้ว ก็จะสามารถแก้ไขอาการขอบตาดำได้อย่างตรงจุดและเป็นการแก้ไขที่ยั่งยืน นอกจากนี้เรายังสามารถแก้ไขอาการขอบตาดำได้ด้วยตนเองด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
1. ปรับพฤติกรรมการนอน
ในผู้ที่พักผ่อนน้อย หรือนอนดึกเป็นประจำ อาจลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลให้เรานอนหลับยากขึ้น เช่น ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งหาวิธีที่จะทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น เช่น ทำให้ห้องมีกลิ่นหอม และนอนเป็นเวลา
นอกจากนี้อาจมีการจัดหมอนรองนอนให้สูงขึ้น เนื่องจากการที่เรานอนราบขนานกับเตียงมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเลือดคั่งอยู่บริเวณใต้ตาได้ การนอนหมอนสูงจึงจะช่วยลดการสะสมปริมาณของเหลวบริเวณใต้ตาและช่วยให้ใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น
2. หมั่นบำรุงรอบดวงตาอยู่เสมอ
เนื่องจากบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางมาก เราจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรอบดวงตาโดยเฉพาะ เช่น อายครีมและมาส์กตา
ซึ่งอายครีมและมาส์กตา มักมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิค เรตินอล เปปไทด์ ไนยาซินาไมด์ และวิตามินซี มีส่วนช่วยในการลดรอยคล้ำ ปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยได้
การทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้าไป จะช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอกันมากขึ้น แต่วิธีนี้จะต้องอาศัยความมีวินัยและต้องใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ถึงจะสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
3. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ตา
การเพิ่มการไหลเวียนของเลือดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- การนวดตา ทำได้โดยการหลับตาแล้วใช้นิ้วนางกดเบาๆ บริเวณใต้ตาจากซ้ายไปขวา ก่อนจะกดขึ้นไปบริเวณเบ้าตาด้านบนโดยเริ่มจากหัวตาแล้วค่อยๆ ไหลออกไปจนถึงหางตา ทำแบบนี้ซ้ำประมาณ 10 รอบ
- การประคบอุ่น ทำได้โดยการนำผ้าชุบน้ำอุ่นบิดให้หมาดๆ แล้วนำมาวางไว้ที่เปลือกตาประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากไม่อยากใช้เป็นผ้า สามารถเลือกใช้เป็นถุงช้าอุ่นๆ แทนได้
4. ถนอมหลอดเลือดรอบดวงตา
การถนอมหลอดเลือดรอบดวงตาทำได้โดยการประคบเย็น สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ช้อนที่แช่ตู้เย็นมาประคบดวงตา การใช้ผ้าเย็น หรือใช้แตงกวาแช่เย็นหั่นเป็นแว่นมาประคบบริเวณดวงตา การให้ความเย็นกับผิวบริเวณรอบดวงตาจะช่วยให้ดวงตาผ่อนคลายมากขึ้น และช่วยให้ขอบตาดำที่เกิดจากหลอดเลือดขยายตัวกระจ่างใสขึ้น
5. ดูแลสุขภาพมากขึ้น
จากสาเหตุของการเกิดขอบตาดำ จะเห็นได้ว่ามีหลายสาเหตุที่นอกจากจะทำให้เกิดขอบตาดำแล้วยังทำให้เสียสุขภาพอีกด้วย การดูแลสุขภาพมากขึ้นจึงเป็นการแก้ปัญหาที่ให้ผลลัพธ์แบบสองเท่า! โดยสิ่งที่ควรปฏิบัติมีดังนี้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ แนะนำให้ผู้หญิงควรดื่มน้ำวันละประมาณ 2.7 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 11.5 แก้ว) ผู้ชายควรดื่มน้ำวันละประมาณ 3.7 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 15.5 แก้ว) เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- หลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อลดการสร้างเมลานินซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาขอบตาดำ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มสุรา เพื่อลดการขยายตัวของหลอดเลือด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินอี วิตามินดี และวิตามินเค ก็จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหลอดเลือดบริเวณใต้ตาได้ นอกจากนี้หากรับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ก็จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รอยขอบตาดำดูจางลงด้วย
- จัดการกับความเครียด โดยการหาเวลาพักผ่อน ออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ เป็นต้น
6. รักษาโดยการใช้ยา
วิธีนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาขอบตาดำทุกคน แต่ใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้เท่านั้น ทำได้โดยการใช้ยาต้านฮิสตามีนเข้ามารักษาอาการแพ้ ทำให้อาการคันบริเวณดวงตาลดลง รวมทั้งอาการบวม ผื่น และขอบตาดำลดลงอีกด้วย
วิธีรักษาขอบตาดำด้วยเทคนิคทางการแพทย์
วิธีการรักษาขอบตาดำที่กล่าวมาข้างต้น เป็นวิธีที่ต้องใช้วินัยและเวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนานถึงจะเห็นผล ในผู้ที่มีความกังวลเรื่องขอบตาดำมากและต้องการเห็นผลลัพธ์หลังทำอย่างรวดเร็ว แพทย์อาจแนะนำให้รักษาขอบตาด้วยเทคนิคทางการแพทย์ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
1. การฉีดเมโส
การฉีดเมโส (Mesotherapy) คือ การฉีดสารสกัดจากวิตามิน หรือสารสำคัญต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับผิวเข้าไปที่ผิวชั้นกลาง เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยซ่อมแซมผิวจากภายใน และช่วยให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีความชุ่มชื้นอิ่มน้ำกลับมาดูสุขภาพดีอีกครั้ง
หากคุณกำลังประสบกับปัญหานี้ Better Me Clinic ขอแนะนำ Meso Raccoon Eye เมโสไฮยาลูรอนิก ที่สกัดมาจากพืชกว่า 20 ชนิด เพียงฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องกัน 3-5 ครั้ง ก็จะช่วยลดความหมองคล้ำและลดริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างชัดเจน
2. การเลเซอร์
การทำเลเซอร์เพื่อรักษาอาการขอบตาดำ เป็นการยิงแสงเลเซอร์เข้าไปที่บริเวณที่มีปัญหา โดยจะแยกออกเป็นการแก้สองปัญหาหลักๆ คือ ลดการขยายตัวของหลอดเลือด และลดเม็ดสีที่ผิดปกติ
หากต้องการทราบว่าตนเองเหมาะกับการทำเลเซอร์แบบใด สามารถเข้ามาที่ Better Me Clinic เพื่อปรึกษาแพทย์และประเมินได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
โดยเลเซอร์ที่นิยมนำมาใช้ในการรักษาขอบตาดำ มีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ Picosecond Laser และ Q-Switch Laser
แต่การรักษาด้วยวิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากใช้เวลาพักฟื้นนาน ต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลา 3-6 เดือน และการเลเซอร์บริเวณใต้ตาก็มีความเสี่ยงสูงเพราะอยู่ใกล้ดวงตาด้วย หากสนใจที่จะรักษาด้วยวิธีนี้จริงๆ จะต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
3. การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารไฮยาลูรอนิกเข้าที่บริเวณใต้ตา เพื่อเสริมมิติให้กับโครงหน้าที่ยุบตัว แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย และช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตากระจ่างใสขึ้นภายในคราวเดียว
ข้อดีของการแก้ปัญหาขอบตาดำด้วยวิธีนี้ คือ สามารถแก้ไขปัญหาขอบตาดำได้อย่างครอบคลุม ไม่เว้นแม้กระทั่งการมีขอบตาดำจากกรรมพันธุ์และขอบตาดำจากอาการภูมิแพ้
ส่วนมากแพทย์ของ Better Me Clinic จะนิยมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณ 1-2 ซีซี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาผิวใต้ตาของผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านด้วย หลังจากตรวจดูสภาพผิวที่มีปัญหาแล้ว แพทย์จึงจะวิเคราะห์ปริมาณฟิลเลอร์ให้เป็นรายบุคคล
แก้ปัญหาขอบตาดำที่ไหนดี?
จะเห็นได้ว่าปัญหาขอบตาดำเป็นปัญหาที่สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุและยากต่อการทราบสาเหตุที่แท้จริง ถึงแม้ว่าต้องการจะรักษาด้วยตนเอง แต่การเข้ามาพบแพทย์เพื่อประเมินผิวก่อนก็ช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและแก้ไขได้ตรงจุดมากกว่า
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ในการรักษาขอบตาดำ ใต้ตาหมองคล้ำ ให้ Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นหนึ่งในทางเลือก เพราะเรามีบริการแก้ไขปัญหาขอบตาดำให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเมโส เลเซอร์ผิว ไปจนกระทั่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทุกบริการให้บริการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น
หากยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกรักษาขอบตาดำ ใต้ตาหมองคล้ำด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคส หากสนใจ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าคุณจะมีผิวสวยๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน!
- Oculoplastic, 7 REASONS DARK CIRCLES FORM UNDER THE EYES (https://www.oculoplastic.info/blog/7-reasons-dark-circles-form-under-the-eyes/), 14 Dec 2023.
- Better Me Clinic, ปัญหาใต้ตาคล้ำแก้ได้ด้วยการฉีดเมโสลดใต้ตาคล้ำ (https://bettermeclinicofficial.com/aesthetic/skin-brightening/meso-raccoon-eye/), 14 ธันวาคม 2566.
- Better Me Clinic, เมโสหน้าใส คืออะไร? ฉีดแล้วผิวดูสวยกระจ่างใสจริงหรือไม่? (https://bettermeclinicofficial.com/aesthetic/skin-brightening/face-brightening/), 14 ธันวาคม 2566.
- Better Me Clinic, ใต้ตาดำ คล้ำ มีริ้วรอย เป็นร่อง ทำผิวหน้าไม่สดชื่น แก้ปัญหาได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (https://bettermeclinicofficial.com/aesthetic/under-eyes-filler/), 14 ธันวาคม 2566.
- Pobpad, ขอบตาดำ เกิดจากอะไร แก้ยังไงดี ? (https://www.pobpad.com/ขอบตาดำ-เกิดจากอะไร-แก้ย), 14 ธันวาคม 2566.
- L’oreal Paris, อายครีม สกินแคร์บำรุงผิวรอบดวงตา ตัวช่วยของชาวแพนด้าที่ไม่ควรมองข้าม (https://www.loreal-paris.co.th/what-is-eye-cream), 14 ธันวาคม 2566.
- ผศ.นพ.วาสนภ วชิรมน, “รอบตาคล้ำ” ปัญหากวนใจของใครหลายคน (https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue024/beauty-full), 14 ธันวาคม 2566.