ใต้ตาดำ คล้ำ มีริ้วรอย เป็นร่อง ทำผิวหน้าไม่สดชื่น แก้ปัญหาได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ใต้ตา เป็นอีกตำแหน่งที่มักสร้างปัญหาทำให้องค์รวมใบหน้าของใครหลายคนดูไม่สดชื่น ดูแก่กว่าวัย โดยปัญหาใต้ตาที่พบเจอบ่อย ๆ นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ ทั้งผิวใต้ตาหมองคล้ำเหมือนคนนอนน้อย ปัญหาผิวใต้ตาหย่อนคล้อยจนเห็นเป็นริ้วรอยครึ่งวงกลมอย่างชัดเจน ไปจนกระทั่งการมีถุงใต้ตาที่นูนจนสังเกตได้
ซึ่งหลายคนก็เลือกหาสารพัดวิธีที่จะนำมาแก้ไขปัญหาใต้ตา ทั้งการใช้เครื่องสำอาง การประคบร้อน การฉีดเมโสใต้ตา ไปจนกระทั่งการประโคมครีมบำรุงต่าง ๆ
แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าคุณสามารถแก้ปัญหาผิวใต้ตาในคราวเดียว ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ สารเติมเต็มประสิทธิภาพสูง ที่นอกจากจะเพิ่มมิติเนื้อผิวใต้ตาที่ยุบตัวแล้ว ยังช่วยให้ผิวใต้ตากลับมามีสีผิวสม่ำเสมอรวมถึงเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวที่เสื่อมโทรมกลับมาดูฉ่ำน้ำได้อีกด้วย
ปัญหาใต้ตามีสาเหตุมาจากอะไร?
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าใต้ตาของเราเป็นบริเวณที่มีความบอบบางมาก จึงมีหลากหลายสาตุที่ทั้งควบคุมได้และควบคุมไม่ได้เข้ามาทำให้ใต้ตาเราทรุดโทรมอยู่เสมอ โดยสาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดปัญหาใต้ ได้แก่
1. อายุ
เมื่อเราอายุมากขึ้นอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายจะเสื่อมลงตามการใช้งาน รวมถึงบริเวณใต้ตาที่โดยทั่วไปก็บอบบางอยู่แล้วก็ยิ่งบอบบางมากขึ้นไปอีก
เนื่องจากเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะมีการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวน้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังไม่ตึงกระชับ รวมทั้งเนื้อเยื่อที่เคยรองรับถุงไขมันใต้ตาก็อ่อนแรง จนทำให้เกิดจากยุบตัวและเห็นเป็นร่องหรือมีถุงใต้ตาเป็นก้อนอย่างชัดเจนอีกด้วย
2. โรคภูมิแพ้
อีกหนึ่งปัญหายอดฮิตที่ทำให้ใครหลายคนมีปัญหาใต้ตาทรุดโทรม นั่นก็คือ โรคภูมิแพ้ หรือ อาการแพ้ โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนังหรือภูมิแพ้อากาศ เพราะในขณะที่มีอาการแพ้หลอดเลือดบริเวณใต้ตาขยายตัวขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีผิวใต้ตาหนาและดูคล้ำกว่าปกติ
นอกจากปัญหาใต้ตาหนา คล้ำแล้ว ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ยังมักมีอาการคันรอบดวงตา น้ำตาไหล หรือมีผื่นรอบดวงตา อาการเหล่านี้ก็อาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการขยี้ตาบ่อย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการใต้ตามองคล้ำ จนเกิดเป็นวัฏจักรของปัญหาใต้ตาที่ไม่มีวันสิ้นสุด
3. ลักษณะทางพันธุกรรม
ผู้ที่มีผู้ใกล้ชิดทางสายเลือดมีผิวคล้ำหรือผิวใต้ตาคล้ำจากการผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป หรือมีโครงสร้างกระดูกใต้ตาที่ยุบตัวเป็นร่องอยู่แล้ว ก็มีโอกาสที่จะมีปัญหาใต้ตาคล้ำหรือผิวใต้ตาหย่อนเป็นร่องสูงกว่าคนอื่น ๆ แต่ถึงแม้ปัญหานี้จะสามารถป้องกันได้ยาก แต่ก็พบได้น้อยด้วยเช่นกัน โดยคนที่มีปัญหาใต้ตาจากสาเหตุนี้ มีอยู่เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
4. ผู้ที่ผิวรอบดวงตาบาง
การมีผิวบริเวณรอบดวงตาบาง จะทำให้เห็นเส้นเลือดฝอยด้านในผิวใต้ตาชัด จนบางครั้งก็อาจทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวดูคล้ำกว่าบริเวณอื่น ๆ รวมทั้งการมีผิวบริเวณรอบดวงตาบางยังส่งผลให้ใต้ตาดำคล้ำได้ง่าย เพราะไวต่อแสงแดดจัดกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ ทำให้เซลล์ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น และดำคล้ำขึ้นนั่นเอง
5. พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
นอกจากสาเหตุที่ควบคุมไม่ได้ตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ปัญหาใต้ตายังอาจเกิดจากพฤติกรรมที่เราทำซ้ำ ๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมนี้ ส่งผลต่อใต้ตาของเราด้วย เช่น
การดื่มน้ำน้อย จะทำให้ร่างกายมีสารน้ำหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ จนไม่สามารถไปผลิตคอลลาเจนผิวเพิ่มเติมเพื่อบำรุงผิวให้กระจ่างใสได้
การขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้เส้นเลือดฝอยรอบดวงตาแตกหรือเกิดผิวหนังอักเสบ จนเกิดเป็นรอยคล้ำที่ผิวใต้ตา
การพักผ่อนไม่เพียงพอ มีส่วนทำให้สุขภาพผิวทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวใต้ตาดูซีดหรือคล้ำกว่าบริเวณอื่นๆ นอกจากนี้ยังทำให้มีสารน้ำไปคั่งใต้ตาได้มากกว่าปกติ ทำให้ผิวใต้ตาดูบวมคล้ำอีกด้วย
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eyes Filler) คือ วิธีเสริมความงามให้กับผิวใต้ตา ผ่านการฉีดสารเติมเต็มที่มีชื่อว่า “สารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA)” เพื่อเสริมมิติเนื้อผิวที่เป็นร่องหรือมีริ้วรอยให้กลับมาดูอิ่มเอิบ มีมิติที่สม่ำเสมอกับเนื้อผิวส่วนอื่นมากขึ้น
ไฮยาลูรอนิก แอซิดคืออะไร?
ไฮยาลูรอนิก แอซิด เป็นกรดที่ถูกสกัดจากขึ้นธรรมชาติ เพื่อเลียนแบบสารเติมเต็มที่มีอยู่ในผิวหนังของมนุษย์ มีลักษณะอุ้มน้ำ และเมื่อรวมกับน้ำแล้วจะเปลี่ยนรูปกลายเป็นเจล เพื่อเติมเต็บร่องตื้น ลึกต่างๆ บนใบหน้า
โดยความที่ไฮยาลูรอนิก แอซิดสามารถอุ้มน้ำได้ดีมาก จึงทำให้นอกจากจะช่วงเพิ่มมิติให้บริเวณที่ฉีดแล้ว ฟิลเลอร์ยังช่วยเสริมความชุ่มชื้น ทำให้เนื้อผิวที่แห้งเสื่อมโทรมดูสดใสสุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยอะไร?
ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยแก้ปัญหาบริเวณผิวใต้ตาได้หลายรูปแบบ โดยหลักๆ ได้แก่
- เพิ่มมิติร่องใต้ตาที่ลึกให้กลับมาตื้นหรือเท่ากันกับชั้นผิวโดยรอบ
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้เนื้อผิวใต้ตาที่ดูแห้งให้ดูฉ่ำน้ำ สุขภาพดี
- ลดขนาดถุงใต้ตาให้เล็กหรือเนียนไปกับเนื้อผิวมากขึ้น
- เพิ่มความสว่างของเนื้อผิวใต้ตาที่ดูหมองคล้ำ
- ปรับริ้วรอยให้เนื้อผิวดูเรียบเนียน ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร?
กลุ่มผู้ที่เหมาะต่อการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือกลุ่มผู้ที่มีปัญหาผิวใต้ตาดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีผิวใต้ตาหมองคล้ำ
- ผู้ที่มีถุงใต้ตาหย่อนจนเห็นเป็นก้อนอย่างชัดเจน
- ผู้ที่มีร่องใต้ตาลึก ดูเป็นคนตาโหล
- ผู้ที่มีริ้วรอยหรือรอยเหี่ยวย่นใต้ตาอย่างชัดเจน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้า รวมถึงผิวใต้ตาแห้งโทรม หรือขาดน้ำ
- ผู้ที่อยากแก้ปัญหาผิวใต้ตาและเห็นผลในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับใคร?
โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์เป็นการทำหัตถการที่ไม่มีข้อจำกัดในคนกลุ่มใดก็ตาม ยกเว้นกลุ่มผู้ที่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพบางประการ เช่น
- ผู้ที่มีปัญหาโรคเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ กำลังเป็นผื่นหรือโรคลมพิษ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด
- ผู้ที่มีผิวใต้ตาบางมาก จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจรับบริการ
- ผู้ที่ผิวตาใต้ตาคล้ำจากการนอนพักผ่อนน้อย ความเครียด หรือโรคประจำตัว การฉีดฟิลเลอร์อาจไม่สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างเพียงพอ แต่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกับรักษาโรคประจำตัวให้ดีขึ้นร่วมด้วย
- ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงความงามของผิวใต้ตาแบบระยะยาวเป็นหลักหลายปี เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ยาวนานประมาณไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จากนั้นเมื่อสารฟิลเลอร์สลายตัวไป ก็จะต้องกลับมาฉีดเติมเต็มซ้ำอีกครั้งเพื่อคงผลลัพธ์เอาไว้
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
สารไฮยาลูรอนิก แอซิดซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์นั้นจะคงอยู่ใต้ผิวเราได้ประมาณ 4-12 เดือน หลังจากนั้นสารดังกล่าวก็จะสลายไปจากใต้ผิวเองตามธรรมชาติ
ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวของผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านที่มีต่อการทำหัตถการ รวมถึงเทคโนโลยีในการผลิตฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ รวมถึงปริมาณสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเติมเต็มเนื้อผิว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องฉีดกี่ซีซี?
แพทย์ของ Better Me Clinic จะนิยมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณ 1-2 ซีซี แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับระดับปัญหาผิวใต้ตาในผู้เข้ารับบริการแต่ละท่าน หลังจากตรวจดูสภาพผิวที่มีปัญหาแล้ว แพทย์จึงจะวิเคราะห์ปริมาณฟิลเลอร์ที่จะฉีดใต้ตาให้เป็นรายบุคคลไป
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บหรือไม่?
ผิวใต้ตาเป็นตำแหน่งผิวที่บอบบางกว่าบริเวณอื่น ๆ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจทำให้รู้สึกเจ็บขณะที่แพทย์ใช้เข็มลงสารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่ใต้ผิวได้บ้าง และภายในผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจะมียาชาผสมเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยส่วนหนึ่งอยู่แล้ว
นอกจากนี้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะตำแหน่งใดของผิว แพทย์และเจ้าหน้าที่ของ Better Me Clinic จะมีการทายาชาให้ผู้เข้ารับบริการล่วงหน้าก่อน 30-45 นาที ร่วมกับประคบเย็นลงที่ผิวใต้ตาให้ก่อนแพทย์เริ่มทำหัตถการ จึงมั่นใจได้ใจเลยว่าการฉีดฟิลเลอร์จะทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บน้อยมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยูกับแต่ละบุคคลด้วย
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด และมีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ผู้เข้ารับบริการควรเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเดินทางมารับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดังต่อไปนี้
- แจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติโรคประจำตัว ยาประจำตัว วิตามินเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้อยู่ ณ ปัจจุบันให้แพทย์ทราบก่อน
- งดยาและงดวิตามินเสริมสุขภาพตามรายการที่แพทย์แนะนำประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนมารับบริการ เช่น ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดหรือการไหลเวียนของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา)
- งดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทที่ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวล่วงหน้าประมาณ 3 วันก่อนมารับบริการ
- หากมีนัดหมายทำหัตถการอื่นๆ บริเวณใบหน้า เช่น ยิงเลเซอร์ นวดหน้า สครับหน้า ควรรับบริการก่อนมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาประมาณ 3 วัน หรือเลื่อนนัดออกไปก่อน
- งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3-7 วันก่อนมารับบริการ
- งดการทำกิจกรรมที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ เช่น การแช่น้ำร้อน เข้าห้องซาวน่า ออนเซ็น การออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนัก
การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที แต่ขณะเดียวกันก็ควรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันในบางส่วน เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเห็นได้อย่างชัดเจน และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวอักเสบ ผิวบวมช้ำ หรือทำให้สารฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าที่ควร เช่น
- 7-14 วันแรกหลังรับบริการ ให้งดเกา กด ขยี้ หรือแตะต้องผิวใต้ตา เพื่อลดโอกาสฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนไปยังตำแหน่งอื่นของผิวหน้า
- หากพบอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถใช้น้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้ แต่ให้ประคบอย่างเบามือ อย่าเผลอลงน้ำหนักน้ำแข็งลงที่ผิวใต้ตามากเกินไป หรือสอบถามแพทย์ถึงวิธีการประคบที่เหมาะสม
- งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3-7 วัน หรือทางที่ดีควรงดในระยะยาวเพื่อคงสุขภาพผิวให้ยังคงแข็งแรง
- งดเลเซอร์ผิวหรือทำทรีตเมนต์ผิวที่ทำให้เกิดความร้อนบริเวณผิวหน้าประมาณ 1 เดือนหลังรับบริการ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวัน เพื่อเพิ่มตัวช่วยพยุงสารฟิลเลอร์ใต้ผิวให้ได้นานขึ้น
- หากมีปัจจัยด้านโรคประจำตัวที่ทำให้ผิวใต้ตาคล้ำง่าย ให้หมั่นเดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กอาการและรักษาอาการให้ดีขึ้นโดยเร็ว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าใต้ตาหรือบริเวณใดก็ตามเป็นการทำหัตถการที่ปลอดภัย แต่จะต้องผ่านการดูแลและทำหัตถการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ รวมถึงมีการใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาแล้วเท่านั้น
ซึ่งบริการฉีดฟิลเลอร์ที่ Better Me Clinic ผู้เข้ารับบริการจะได้รับการดูแลและรักษาปัญหาผิวด้วยการฉีดฟิลเลอร์จากแพทย์ผู้ชำนาญการในทุกขั้นตอน มีการใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน และสามารถตรวจสอบได้อย่างเปิดเผย หมดกังวลเรื่องการใช้สารฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดกับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ผิวหนังโดยตรง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี?
ปัจจุบันยี่ห้อผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดยังตำแหน่งใต้ตานั้นมีอยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน เช่น แบรนด์ Restylane แบรนด์ Neuramis แบรนด์ Juvederm ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีการผลิตรุ่นฟิลเลอร์ย่อยที่เหมาะต่อการฉีดรักษาผิวแต่ละตำแหน่งแตกต่างกันไป
แพทย์จาก Better Me Clinic จะเป็นผู้ประเมินสภาพปัญหาผิวและให้คำแนะนำเกี่ยวกับยี่ห้อผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่เหมาะต่อผู้เข้ารับบริการเอง หรือหากผู้เข้ารับบริการมีผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ชื่นชอบในดวงใจอยู่แล้ว ก็สามารถขอคำแนะนำในการฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้น ๆ กับแพทย์โดยตรงได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี?
Better Me Clinic เป็นคลินิกศัลยกรรมความงาม ปรับรูปหน้า และบำรุงผิวที่มุ่งมั่นเป็นผู้ช่วยสร้างผลลัพธ์ของความงามที่น่าพึงพอใจ ปลอดภัย ตรงต่อความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
ไม่ว่าคุณจะเดินทางเข้ามารับบริการในรูปแบบใดที่ Better Me Clinic แพทย์ผู้ชำนาญการจะเป็นผู้ช่วยประเมินและวางแผนการรักษาให้กับผู้เข้ารับบริการล่วงหน้าก่อนในทุกเคส และมีการพูดคุยถึงความต้องการด้านความงามเพื่อให้ได้แนวทางการฟื้นฟูความงามของผิวที่เข้าใจตรงกัน
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์ของ Better Me Clinic จะมีการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคการทำหัตถการแบบเฉพาะ ซึ่งช่วยขจัดปัญหาอาการบวมจากการใช้เข็มฉีดยาได้ ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บระหว่างแพทย์ลงเข็ม และไม่ต้องพักฟื้นผิวหลังทำหัตถการเสร็จสิ้น
หมดห่วงเรื่องอาการเจ็บ ช้ำ บวม ผิวเป็นรอย นอกจากนี้ยังจะได้ผลลัพธ์ของผิวใต้ตาที่ดูมีมิติขึ้น อ่อนกว่าวัย ผิวดูสดใสเปล่งปลั่ง และสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
หยุดปัญหาตาแพนด้า ขอบตาดำ ตาโหล ผิวใต้ตาหย่อนคล้อย หรือถุงใต้ตาใหญ่ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านความงามที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ พร้อมใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์และอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้คุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ที่ Better Me Clinic
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Better Me Clinic ได้ตามช่องทางการติดต่อดังต่อไปนี้
Line: @bettermeclinic รวมทั้งช่องทาง Facebook และ IG : Better Me Clinic by Dr.Chanya
ที่มาของข้อมูล
- Better me Clinic by Dr. Chanya (https://bettermeclinicofficial.com/contact/), 9 กรกฎาคม 2565.
- Cosmetic Skin Clinic, Tear Trough Fillers – Are you a good candidate for under-eye filler (https://www.cosmeticskinclinic.com/blog/tear-trough-fillers-good-candidate-for-under-eye-filler/), 9 July 2023.
- SkinX, การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง? ข้อควรรู้หลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี อยู่นานขึ้น (https://skinx.app/content/filler/after-injection-filler), 9 กรกฎาคม 2565.
- ผศ.นพ.วาสนภ วชิรมน หน่วยผิวหนังและเลเซอร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, “รอบตาคล้ำ” ปัญหากวนใจของใครหลายคน (https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue024/beauty-full), 9 กรกฎาคม 2565.
- โรงพยาบาลนครธน, “ฟิลเลอร์” เติมเต็มใบหน้า เพื่อความสวยทุกมิติ (https://www.nakornthon.com/article/detail/ฟิลเลอร์-เติมเต็มใบหน้าเพื่อความสวยทุกมิติ), 9 กรกฎาคม 2565.