ไขข้อสงสัย? หลังเสริมจมูก 14 วัน กินอะไรได้บ้าง และเมนูไหนที่ควรงด
สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะเสริมจมูกเพิ่มความสวย และเสริมสร้างความมั่นใจ บทความนี้ได้รวบรวมเอาข้อมูลในส่วนของอาหารว่าหลังเสริมจมูก 14 วันกินอะไรได้บ้าง และอาหารที่ควรเลี่ยงมีอะไรบ้าง พร้อมทั้งวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก โดยจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันได้เลย
หลังเสริมจมูก 14 วัน กินอะไรได้บ้าง
หากต้องการผลลัพธ์ที่สวยดั่งใจ ช่วยเสริมผลการรักษาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง หลังเสริมจมูกควรเลือกกินอาหารที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูให้แผลหายเร็วขึ้น โดยหลังเสริมจมูก 14 วันกินอะไรได้บ้าง นั้น มีดังนี้
1. ดื่มน้ำให้เยอะๆ
การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน จะทำให้ร่างกายเกิดความชุ่มชื้น ทำให้เซลล์ผิวหนังเคลื่อนที่จากขอบแผลมาปกคลุมบาดแผลได้ดี น้ำยังเป็นส่วนประกอบหลักของเลือดซึ่งมีบทบาทในการลำเลียงสารอาหาร และออกซิเจนไปซ่อมแซมบาดแผล รวมถึงเนื้อเยื่อที่เสียหาย การดื่มน้ำมากๆ หลังผ่าตัดจึงส่งผลทำให้แผลสมานตัวกันได้เร็วมากขึ้น
2. วิตามินซี
วิตามินซีถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสรรพคุณหลากหลาย ซึ่งผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีได้แก่ ฝรั่ง ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอรี ผักใบเขียว เมื่อร่างกายเกิดบาดแผล และอักเสบจะเกิดอนุมูลอิสระเกิดขึ้น วิตามินซีจะออกฤทธิ์ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนั้นยังช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง เพิ่มความแข็งแรงให้ผนังเซลล์ และหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น อีกทั้งยังลดอาการอักเสบ ซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย จึงช่วยให้บาดแผลสมานตัวและหายเร็วขึ้น
3. ธาตุเหล็ก และสังกะสี
หลังเสริมจมูกควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กและสังกะสีอย่าง เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ เมล็ดฟักทอง ข้าวกล้อง ผักโขม เป็นต้น หรืออาจรับประทานอาหารเสริมก็ได้ เพราะเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีนและคอลลาเจน มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ จึงช่วยสมานบาดแผล ทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น โดยควรเสริมธาตุเหล็กและสังกะสีอย่างน้อย 15 มิลลิกรัมต่อวัน
4. ใบบัวบก
ใบบัวบกมีสารออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อของผิวหนัง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย ทำให้เซลล์แข็งแรง อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งจะลดการอักเสบ และบวมช้ำได้ดี เพราะใบบัวบกมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น โดยจะทำเป็นเครื่องดื่มน้ำใบบัวบก หรือกินเป็นแคปซูลก็ได้
5. ไขมันดี
ไขมันดีช่วยในการสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อเป็นพลังงานเพื่อนำมาใช้ในการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ จึงช่วยให้แผลสมานตัวได้ดียิ่งขึ้น อาหารที่มีไขมันดี เช่น ถั่วเปลือกแข็ง น้ำมันรำข้าว ปลา อะโวคาโด น้ำมันมะกอก เป็นต้น
อาหารต้องห้าม หลังเสริมจมูกห้ามกิน!
อาหารต้องห้ามที่ควรหลีกเลี่ยง และไม่ควรรับประทานหลังเสริมจมูกมีดังนี้
1. ของหมักของดอง
อาหารหมักดองที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีเชื้อโรคต่างๆ เช่น เชื้อแบคทีเรียปะปนมาด้วย เมื่อรับประทานเข้าไปจึงมีความเสี่ยงที่แผลผ่าตัดจะเกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย หลังเสริมจมูกจึงควรงดเว้นการบริโภคอาหารหมักดองเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ และทำให้แผลหายไวมากยิ่งขึ้น
2. แอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ส่งกระทบต่อร่างกายหลายด้าน โดยจะทำให้เลือดสูบฉีดมากกว่าปกติ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น การแข็งตัวของเลือดลดลง และกระบวนการซ่อมแซมของร่างกายลดลง สูญเสียแร่ธาตุสังกะสี แผลจึงหายช้า และยังเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อได้มากขึ้นด้วย นอกจากนั้นการบริโภคแอลกอฮอล์จนเกิดความมึนเมา อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลให้เกิดการกระแทกบริเวณจมูกได้
3. อาหารรสเผ็ด
สำหรับผู้ที่ผ่าตัดเสริมจมูก ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดไปก่อน เพราะความเผ็ดร้อนอาจทำให้มีการหลั่งเหงื่อออกมามากบริเวณใบหน้า และมีน้ำมูกไหล ซึ่งส่งผลทำให้แผลแห้งช้า รวมทั้งน้ำมูกอาจมีเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ปะปนมาด้วย จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
4. อาหารโซเดียมเยอะ
การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูงมาก เป็นข้อห้ามหลังเสริมจมูก เพราะอาจส่งผลให้ให้เลือดข้นหนืดมากกว่าปกติ ร่างกายจึงดึงน้ำจากเซลล์ออกมาในกระแสเลือด ทำให้ความดันโลหิตสูง และการส่งผ่านสารอาหารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการซ่อมแซมไปยังบริเวณแผลผ่าตัดไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม
5. อาหารทะเล
นอกจากอาหารทะเลจะมีโซเดียมสูง ซึ่งทำให้หายบวมช้าแล้ว ยังเป็นอาหารที่ส่งผลต่อการแพ้ได้ง่าย เมื่อเกิดการแพ้อาหาร อาจจะมีตุ่ม ผื่นคัน แดง บวมทั่วร่างกาย รวมทั้งอาจเกิดขึ้นบริเวณแผลผ่าตัด และบริเวณข้างเคียง ซึ่งส่งผลต่อการสมานแผลอีกด้วย
ดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก ทำได้ยังไงบ้าง
วิธีดูแลหลังเสริมจมูกนั้น แบ่งออกเป็นช่วงเวลา ดังนี้
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก 24 ชั่วโมง
หลังเสริมจมูก 24 ชั่วโมง ยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ์ เริ่มมีอาการปวดมากบริเวณรอบจมูก ใบหน้าจะเริ่มบวม โดยจะบวมที่สุดในช่วง 2-3 วันแรก สามารถพบรอยช้ำสีม่วงบริเวณใต้ตาและจมูกได้ แผลอาจมีเลือดซึมออกมาบ้าง อาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย ควรดูแลตัวเองดังนี้
- กินยาแก้ปวดและอักเสบตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาอาการ
- ห้ามบีบ แกะ แคะจมูก เกาจมูก สั่งน้ำมูก อย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้จมูกเบี้ยวเอียง และอักเสบได้
- อย่าให้แผลโดนน้ำโดยเด็ดขาด ควรล้างหน้าโดยใช้สำลีชุบน้ำสะอาด คลีนซิ่ง หรือน้ำเกลือเซ็ดเบาๆบริเวณใบหน้าก่อนและเช็ดให้แห้ง เพราะหากแผลโดนน้ำจะทำให้แผลเปื่อย แห้งช้า ติดเชื้อ และหายช้าได้
- หมั่นทำความสะอาดแผลด้วยการใช้สำลีพันก้านชุบน้ำเกลือ เช็ดเบาๆ ให้สะอาด พยายามให้เลือดติดไหมเย็บให้น้อยที่สุด
- ประคบเย็นเบาๆ บริเวณหน้าแก้ม และหน้าผากเพื่อลดความบวมช้ำ แต่ไม่ควรประคบตรงๆ บริเวณจมูก
- นอนศีรษะสูง โดยใช้หมอนซ้อนกันสองชั้น ป้องกันซิลิโคนเบี้ยว เอียง ลดอาการบวม และเกิดเลือดคั่ง
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก 7 วัน
หลังเสริมจมูก 7 วัน จะสามารถแกะเฝือกอ่อนที่ดามจมูกออกได้แล้ว ทำโดยใช้น้ำอุ่นค่อยๆ เช็ดส่วนที่เป็นเทป เพื่อให้แกะออกได้ง่าย ลอกเทปออกอย่างเบามือ อาการบวมจะเริ่มลดลง แผลเริ่มแห้ง อาการปวดลดลง ควรดูแลตัวเองต่อเนื่อง ดังนี้
- งดเว้นการบีบนวด ขัดถู สั่งน้ำมูก ระมัดระวังการกระแทกบริเวณจมูก และไม่ควรก้มหน้านานๆ
- งดเว้นการทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ นวดหน้า เสริมความงาม บริเวณใบหน้า รวมทั้งงดแต่งหน้า
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เช่น วิ่ง คาร์ดิโอ หรือทำกิจกรรมหนัก รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์
- หากมีอาการบวมสามารถใช้เจลเย็น ผ้าเย็น ประคบบริเวณข้างแก้ม หน้าผาก หว่างคิ้ว ใต้ตา อย่างเบามือได้ แต่ต้องระวังไม่ให้แผลเปียก
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก 14 วัน
หลังเสริมจมูก 14 วัน จะสามารถตัดไหมเย็บได้แล้ว อาการบวมลดลงมาก รอยช้ำเริ่มเปลี่ยนจากสีม่วง เป็นสีเขียวอมเหลือง ควรดูแลตัวเองดังนี้
- ไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตัดไหมตามนัดหมาย
- ทำความสะอาดบริเวณแผลเย็บที่ตัดไหมแล้ว ด้วยสำลีพันก้านชุบน้ำเกลืออย่างสม่ำเสมอ
- ระวังอย่าให้เกิดน้ำมูกไหล หากเป็นหวัด ให้รีบกินยาแก้แพ้เพื่อลดน้ำมูก ป้องกันแผลติดเชื้อ
- สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ยังควรงดของแสลง ของหมักดอง อาหารปรุงไม่สุก และอาหารทะเลก่อน
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก 30 วัน
หลังเสริมจมูก 30 วัน จมูกจะเริ่มยุบบวม และแทบจะไม่เห็นรอยเขียวช้ำ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย สามารถใช้ชีวิตประจำวัน และแต่งหน้าได้ตามปกติ ไม่มีอาการเจ็บปวดแล้ว โดยยังควรดูแลตัวเองต่อเนื่อง ดังนี้
- 3-6 เดือนแรก ควรงดเว้นการสวมแว่นตา
- หากยังคงมีอาการบวมอยู่ สามารถประคบเย็นเบาๆ เพื่อช่วยให้ยุบบวมเร็วขึ้น
- งดออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 1 เดือน และควรงดกิจกรรมทางน้ำเช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำ ไปก่อนในช่วง 3 เดือนแรก
- สามารถรับประทานอาหาร และอาหารเสริมได้ตามปกติ ยกเว้นอาหารหมักดอง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรงดเว้นไปก่อน 45 วัน
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก 3 เดือนขึ้นไป
หลังจาก 3 เดือนขึ้นไป จะเริ่มเห็นทรงจมูกชัดเจนมากขึ้น จมูกเริ่มรัดแกนสวย ไม่พบอาการบวมและรอยช้ำ โดยการดูแลตัวเองทำได้โดย
- ระมัดระวังการกระแทกอย่างรุนแรงบริเวณจมูก
- หมั่นสังเกตอาการ หากเกิดความผิดปกติ ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก 1 ปีขึ้นไป
หลังเสริมจมูก 1 ปีขึ้นไป จมูกจะเข้าที่ เห็นเป็นทรงโด่งสวยอย่างชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ยังควรระมัดระวังการโดนกระแทกอย่างรุนแรงอยู่
ข้อห้ามที่ควรรู้! หลังเสริมจมูกควรเลี่ยง
หลังเสริมจมูกบางครั้งอาจมีข้อควรระวังหรือหลีกเลี่ยงบางอย่างได้ มาดูข้อห้ามหลังเสริมจมูกได้ ดังนี้
- ห้ามสั่งน้ำมูกด้วยความรุนแรง เพราะอาจทำให้แผลหายช้า เกิดการอักเสบ และติดเชื้อ
- งดเว้นการสัมผัส เช่น ขยี้ เกา แกะแผล บีบจับซิลิโคน เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อเกิดการบาดเจ็บ และซิลิโคนอาจเคลื่อน ทำให้จมูกเสียทรงได้
- งดเว้นการนอนคว่ำ นอนตะแคง เพราะอาจทำให้ซิลิโคนจมูกเบี้ยว เสียรูปทรง และอักเสบ
- งดเว้นการเสริมความงาม และทำหัตถการบริเวณใบหน้า เช่น บีบสิว เลเซอร์ ทำทรีตเมนต์ เพราะอาจทำให้แผลอักเสบได้
- ห้ามให้แผลโดนน้ำและของเหลวต่างๆ จนกว่าจะตัดไหม เพราะทำให้แผลแห้งช้า เกิดการอักเสบและอาจติดเชื้อได้
ทำความสะอาดแผลหลังเสริมจมูกอย่างถูกวิธี ทำยังไง
การทำความสะอาดแผลผ่าตัดหลังเสริมจมูก มีขั้นตอนดังนี้
- ใช้สำลีพันก้านชุบเบตาดีน เช็ดไปที่แผล 1 รอบ และห้ามเช็ดวน
- ใช้สำลีพันก้านชุบด้วยน้ำเกลือ ค่อยๆ เช็ดคราบเลือด และคราบเบตาดีนให้สะอาดที่สุด พยายามไม่ให้เหลือคราบเลือดเกาะบริเวณแผล
- ทายาขี้ผึ้งที่แพทย์ให้ อย่าทาหนามากเกินไปจนแฉะเพราะทำให้แผลหายช้า
- ไม่ต้องปิดแผลด้วยปลาสเตอร์ หรือผ้าก้อซ เพราะทำให้แผลอับชื้นและแห้งช้า
- สำหรับแผลด้านในรูจมูก สามารถใช้สำลีพันก้านชุบน้ำเกลือ สอดเข้าไปในรูจมูก เพื่อเช็ดทำความสะอาดแผลและคราบเลือด
เสริมจมูกกับ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร
- คุณหมอมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมมายาวนาน 8 ปี มากกว่า 10,000 เคส
- คุณหมอเป็นอาจารย์สอนหลักสูตรการอบรมด้านเวชศาสตร์ความงามจากองค์กร ABAM จากอเมริกา คนเดียวในไทย
- เทคนิคใหม่แบบ Better Me คลินิกเน้นการออกแบบที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้าของคนไข้ด้วยเทคนิคเฉพาะจากประเทศเกาหลี
- เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย คุณหมอทุกท่านให้ความสำคัญกับคนไข้ทุกเคส
- คลินิกเลือกใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- Better Me Club มีการบริการด้วยหัวใจหลังศัลยกรรม หรือทำหัตถการ ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
- เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและสวยที่สุดในราคาที่จับต้องได้
รีวิวการเสริมจมูก
สรุป
หลังเสริมจมูก การดูแลตัวเองด้วยวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสม จะช่วยให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แผลผ่าตัดหายเร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการพักฟื้น ลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง และอาการแทรกซ้อนต่างๆ ที่สำคัญคือได้ผลลัพธ์เป็นจมูกที่โด่งสวยได้รูปตามต้องการ โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เลือกรับประทานอาหาร ผักผลไม้ ที่ช่วยในการสมานแผล โดยหลังเสริมจมูก 14 วันกินอะไรได้บ้างนั้น ได้แก่ ซุปฟักทอง น้ำใบบัวบก วิตามินซี อาหารไขมันดี เป็นต้น งดเว้นการกินของแสลง ของหมักดอง อาหารรสจัด ดื่มน้ำมากๆ รวมทั้งเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้จมูกกระทบกระเทือน
อย่างไรก็ตามส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้ได้จมูกที่สวยดั่งใจ คือการเลือกทำกับแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ทางด้านการเสริมจมูก คลินิกสะอาดและมีมาตรฐาน หากต้องการเสริมจมูก ลองดูที่ Better Me Clinic เพราะที่นี่ทำศัลยกรรมจมูกโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่มีประสบการณ์การทำจมูกมานานกว่า 8 ปี สามารถวิเคราะห์และออกแบบรูปทรงจมูกที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละคนได้อย่างสวยงามลงตัว ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเฉพาะจากประเทศเกาหลีและใส่ใจในทุกเคส จึงมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์เป็นทรงจมูกที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติ บวมช้ำน้อย เจ็บน้อย และลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีดูแลหลังเสริมจมูก (FAQ)
มาดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีดูแลหลังเสริมจมูก พร้อมทั้งตอบข้อข้องใจ ดังนี้