fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

เสริมคางแผลนอก หรือ แผลในดี? วิธีไหนเหมาะกับเรา

เสริมคางแผลนอก หรือ แผลใน ดี? วิธีไหนเหมาะกับเรา
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการแก้ไขแก้มหย่อนคล้อย

การเสริมคางทั้งแผลนอกและแผลใน ก็เป็นวิธีที่จะทำให้คางเรียวสวย ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งทั้งสองวิธีก็มีวิธีการทำศัลยกรรม และมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป บทความนี้จึงจะมาแนะนำให้รู้กันว่าวิธีไหนจะเหมาะกับใครบ้าง

ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมคาง

ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมคาง

การเสริมคางเป็นหัตถการที่เหมาะกับการช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับคางหลายแบบ ตัวอย่างก็เช่น

คางสั้น

ปัญหาประเภทนี้จะเกิดเมื่อเทียบกับสัดส่วนโดยรวมของหน้าแล้ว ความยาวของคางมีความสั้น การเสริมคางเพื่อแก้ปัญหาประเภทนี้ แนะนำว่าให้เพิ่มวอลลุ่มและเพิ่มความยาวของคาง ด้วยการใส่ซิลิโคนขนาดค่อนข้างหนาตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้ความยาวของคางที่ต้องการ

คางตัด

ปัญหาประเภทนี้จะเกิดเมื่อส่วนโค้งของคางเป็นเส้นตรง รูปคางไม่โค้งมน ทำให้ลักษณะใบหน้าดูไม่อ่อนหวาน ดูเหมือนผู้ชาย การเสริมคางจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยการเสริมมิติคางให้มน หรือ วี ขึ้น ให้ได้ทรงที่หวานละมุนมากขึ้น

คางบุ๋ม

ปัญหาคางบุ๋มจะเกิดเมื่อคางมีจุดที่ยุบหรือบุ๋มลงไปเป็นรูป w ซึ่งคางลักษณะนี้ เกิดจากรูปทรงของฐานกระดูกคาง ทำให้การแก้ปัญหาคางประเภทนี้จะมีความยากกว่าคางแบบอื่นๆ เพราะพื้นผิวกระดูกที่ไม่เรียบ ทำให้การใส่ซิลิโคนให้อยู่ใต้เยื่อหุ้มกระดูกและไม่เคลื่อนเอียง กลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นไปอีก

คางถอย

ปัญหาคางถอย คือ ภาวะที่กระดูกขากรรไกรส่วนล่างเมื่อเทียบอัตราส่วนกับกระดูกหน้าและขากรรไกรบนแล้วมีขนาดเล็ก ทำให้คางมีลักษณะที่ถอยไปจากหน้า ซึ่งการเสริมคาง จะช่วยแก้ปัญหานี้ ทำให้หน้าดูสมส่วนมากขึ้นได้

การเสริมคางมีกี่แบบ อะไรบ้าง

การเสริมคางมีกี่แบบ อะไรบ้าง

การเสริมคางคือ ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการจัดวางวัสดุเสริมลงบนแนวกรามของคาง ซึ่งวัสดุเหล่านี้ก็อาจจะเป็นซิลิโคน เป็นตัวอย่าง ซึ่งคางจะเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ส่งผลกระทบกับรูปหน้าได้ ทำให้ผู้ที่มีความไม่มั่นใจในรูปหน้าของตนเองก็นิยมมาเสริมคางกันเพื่อสร้างความมั่นใจให้มากขึ้น โดยการเสริมคางก็ยังแบ่งออกได้สองแบบ คือ การเสริมคางแผลนอกกับการเสริมคางแผลใน

การเสริมคางแผลนอก

การเสริมคางแผลนอก (Submental Incision) เป็นการผ่าตัดที่ทำขึ้นใต้คางด้วยการเปิดแผลด้านนอกปาก การเสริมคางแผลนอกจะมีความเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อ มีขนาดแผลที่ใหญ่ 1-1.5 เซนติเมตร การเสริมคางแผลในที่ขนาดแผลเล็กกว่า ซึ่งโดยปกติแล้วแผลจะปิดด้วยการเย็บแผล ซึ่งจะเป็นข้อเสียที่ทำให้เห็นรอยแผลเป็นที่นูนจนสัมผัสได้ หลังการผ่าตัดประมาณ 12 สัปดาห์ ที่ห้ามโดนน้ำในช่วงแรก เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ ซึ่งการเสริมคางแผลนอกจะไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีโอกาสเป็นแผลเป็นชนิดคีลอยด์ที่จะมีรอยแผลชัดเจน

การเสริมคางแผลใน

การเสริมคางแผลใน (Intraoral incision) เป็นการผ่าตัดที่ทำขึ้นภายในช่องปากบริเวณด้านหน้าเหงือกล่าง ใช้ไหมละลายเย็บปิดแผล เป็นทางเลือกที่ดี เพราะหลีกเลี่ยงการสร้างรอยแผลเป็นในจุดที่มองเห็นได้บนใบหน้าหรือลำคอ ซึ่งแผลผ่าตัดประเภทนี้จะทนกับน้ำ ทำให้สามารถโดนน้ำได้ เทียบกับเสริมคางแผลนอกแล้ว การดูแลหลังเสริมคางแผลในทำได้ง่ายกว่ามาก ไม่ต้องคอยทายาเลย เพราะแผลในปากจะสมานกันได้ง่ายกว่าแผลข้างนอก ทำความสะอาดใช้แค่การบ้วนน้ำเกลือ มีระวังแค่เรื่องการรับประทานอาหารเท่านั้น

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง
ใครบ้างเหมาะที่จะเสริมคางแผลใน

ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมคาง

การเสริมคางแผลในเป็นการผ่าตัดที่ใช้เวลาในการผ่าตัดเร็ว แค่ 1 ชั่วโมง ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นด้านนอก ทำให้เหมาะกับกับผู้ที่มีปัญหากับรูปคางในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่มีความเสี่ยงเป็นแผลเป็นชนิดคีลอยด์ และไม่มีปัญหากับการมีรอยแผลเป็นเล็กๆ ในจุดที่เห็นได้ยากเป็นอย่างมาก

การดูแลตัวเองก่อน - หลังเสริมคางแผลใน

การดูแลตัวเองก่อน - หลังเสริมคางแผลใน

ก่อนเข้าทำหัตถการต่างๆ ก็สามารถดูแลตัวเองเพื่อให้พร้อมกับการทำการผ่าตัดนั้นๆ ได้ ซึ่งการดูแลตัวเองก่อนและหลังการเสริมคางแผลในก็มีดังต่อไปนี้

ก่อนเสริมคางแผลใน

    •  ปรึกษาออกแบบรูปทรงใบหน้ากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้เตรียมตัวอย่างรูปทรงคาง สำหรับการเสริมคาง
    • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องใช้เป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด
    • ก่อนผ่าตัด ควรงดรับประทานยาที่ต้านเกล็ดเลือด และยาละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการเลือดออกง่ายในระหว่างผ่าตัด
    • สมุนไพร วิตามิน และอาหารเสริมที่อาจทำให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ เช่น วิตามินอี วิตามินเอ น้ำมันตับปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ก่อนผ่าตัดจึงควรหยุดรับประทานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมปริมาณเลือดที่จะออกระหว่างการผ่าตัด
    • ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรจะควบคุมอาการของโรคนั้นให้อยู่ในระดับปกติ ก่อนรับการผ่าตัด
    • แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการแพ้ยาที่รับประทาน หรือยาชา ก่อนเสมอ
    • งดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 เดือนเพื่อป้องกันปัญหาที่ทำให้แผลหายช้า และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    • เตรียมวันให้ว่าง พร้อมหยุดพักหลังผ่าตัดประมาณ 7 วัน
    • เตรียมจิตใจให้พร้อมต่อการผ่าตัด ลดความตื่นเต้นให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
    • ทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัดให้สะอาดเรียบร้อย
    • ในวันรับการผ่าตัด ให้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่สบาย มีกระดุมหน้า และหลวมให้สามารถถอดใส่ง่าย และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้าในวันนั้น
    • งดใส่คอนแทคเลนส์ รีเทนเนอร์ ฟันปลอม และเครื่องประดับทุกชนิด
    • ทานอาหารก่อนเข้าผ่าตัดแค่พออิ่ม เพื่อป้องกันปัญหาท้องแน่นหรืออึดอัดระหว่างการผ่าตัด
    • งดใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า เพื่อป้องกันปัญหาการติดเชื้อที่จะตามมาหากล้างเครื่องสำอางไม่หมด

หลังเสริมคางแผลใน

    • เพื่อลดปวดและบวมที่อาจเกิดขึ้นบริเวณคาง ควรให้ประคบเย็นและอุ่นตาม สลับกันไปในช่วง 4-5 วัน จนกว่าจะเริ่มหายบวม
    • ไม่กดหรือสัมผัสบริเวณตำแหน่งที่มีซิลิโคน เป็นเวลา 4-5 วัน
    • หากผ่าตัดเสริมคางแผลใน ให้ระมัดระวังการกระแทกแผลในปาก ไม่แปรงฟันรุนแรง ค่อยๆ แปรง ไม่ให้โดนแผล และงดบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากประมาณ 1 สัปดาห์ แต่สามารถบ้วนปากด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือได้
    • หลังจากผ่าตัดแล้ว สามารถใช้ชีวิตปกติได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟู หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน ก็สามารถเริ่มออกกำลังกายหนักอย่าง วิ่ง ว่ายน้ำ ได้
    • หลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน ควรจะเน้นทานอาหารที่เหลวและจืด และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดจัด อาหารที่แข็งเคี้ยวยาก ละเว้นอาหารดิบ อาหารหมักดอง และอาหารทะเล และอาหารร้อนจัดหรือเย็นจัด 
    • ควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องให้มากๆ ด้วยการใช้หลอดดูด หลีกเลี่ยงน้ำที่ร้อนหรือเย็นจัด
    • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่หลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน เพราะจะทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    • นอนให้ศีรษะสูงในช่วง 4-5 วันแรก อย่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพื่อลดการกดทับบริเวณคางที่ยังอักเสบอยู่
    • งดการแต่งหน้า และการเสริมความงามบนใบหน้า แต่ยังสามารถใช้เครื่องสำอางอย่าง ลิปสติกได้ หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
    • หลังการผ่าตัดในวันที่ 7 ให้แกะเฝือกที่คางออกได้ โดยการลูบเบาๆ และใช้น้ำอุ่นช่วยให้พลาสเตอร์ค่อยๆ ลอกออก
    • รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ระหว่างนั้นไม่ควรกินยาอื่นๆ ที่แพทย์ไม่ได้จัดให้ หรือซื้อยาเพิ่มเอง แต่หากจำเป็นต้องใช้ยา ก็ให้ใช้ยาแก้ปวดพาราเซตามอลเท่านั้น

รีวิวการเสริมคางจาก Better Me Clinic by Dr.Chanya

รีวิวการเสริมคางจาก Better Me Clinic by Dr.Chanya

หลังเข้ารับการเสริมคางกับ Chanya Clinic แล้ว คางก็ดูได้สัดส่วนมากขึ้น ใบหน้าก็ดูได้สัดส่วนมากขึ้น ทำให้หน้าดูดีขึ้นและเป็นธรรมชาติมาก

ทำไมต้องทำคางที่ Better Me Clinic by Dr.Chanya

ทำไมต้องทำคางที่ Better Me Clinic by Dr.Chanya

    •  แพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นผู้ให้การรักษา
    • คลินิกได้มาตรฐานสาธารณสุข
    • เครื่องมือแพทย์
    • รีวิวที่เชื่อถือได้
    • การดูแลคนไข้หลังทำ

ก่อนจะเลือกเสริมคางที่ไหน สิ่งที่ควรดูก็จะมีอยู่หลายอย่าง เช่น แพทย์มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และมีประสบการณ์ในการทำคางหรือไม่ คลินิกเองก็ต้องได้มาตรฐานสาธารณสุข มีใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาล มีการก่อสร้างและขออนุญาตห้องผ่าตัด ความสะอาด ปลอดภัย เครื่องมือแพทย์ต้องคุณภาพดี เหมาะต่อการผ่าตัดแต่ละประเภท มีรีวิวที่เชื่อถือได้จากคนไข้จริง ในปริมาณที่เพียงพอ และต้องมีการติดตามอาการ ดูแลคนไข้หลังทำเพื่อช่วยให้ผลข้างเคียงและอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากการดูแลแผลไม่ถูกวิธีให้น้อยที่สุด ซึ่งที่ Chanya Clinic ก็เป็นคลินิกที่น่ามาทำคาง ด้วยคลินิกที่มีความสะอาด ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข เครื่องมือแพทย์ทุกชิ้นนำเข้าจากเกาหลี มีคุณภาพที่ดี แพทย์ก็มีประสบการณ์การทำศัลยกรรมมากกว่าหมื่นเคส ซึ่งแพทย์และทีม Chanya Clinic จะดูแลคนไข้ทุกรายด้วยคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน ทั้งก่อนและหลังทำศัลยกรรม

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง

คำถามที่พบบ่อย

สำหรับใครที่มีคำถาม หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสริมคางแผลนอกและแผลใน คุณหมอจะมาช่วยตอบคำถามให้หายสงสัยกันค่ะ

การเสริมคางมีกี่แบบ รูปคางแบบไหนควรเสริม

การเสริมคางมี 2 แบบ คือ แผลนอก และ แผลใน ซึ่งมีความต่างที่วิธีการกรีดแผลเพื่อนำซิลิโคนเข้าไปบริเวณคาง โดยเสริมคางแผลนอกจะเปิดแผลบริเวณผิวหนังใต้คางด้านนอกเป็นแนวนอน ข้อดีคือไม่มีแผลในปาก แต่ก็มีข้อเสียเช่นกันคือจะมีแผลชัดเจนบนผิวด้านนอก ส่วนการเสริมคางแผลในเป็นการเปิดแผลบริเวณด้านในปากด้านล่างเป็นแนวนอน จะไม่มีแผลด้านนอกเลย จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหารูปคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม และคางถอย

เสริมคางหรือฉีดฟิลเลอร์ แบบไหนดีกว่ากัน

การเสริมคางจะเสร็จสิ้นในครั้งเดียว ดูเป็นธรรมชาติ และต้องใช้เวลาพักฟื้นในช่วงแรก แต่การฉีดฟิลเลอร์แทบไม่ต้องพักฟื้น สามารถค่อยๆ เติมฟิลเลอร์ได้ และหากไม่ชอบรูปคาง ก็สามารถฉีดสลายออกได้ ข้อเสียคืออาจเห็นเป็นก้อนในบางราย และควบคุมทรงได้ยากกว่าการเสริมซิลิโคน

การเสริมคางแบ่งเป็นกี่ส่วน อะไรบ้าง

การเสริมคางจะแบ่งใบหน้าตามแนวนอนเป็น 3 ส่วน แบ่งที่บริเวณแนวดวงตา และ แนวใต้จมูก ดังนี้
  • Upper face
  • Middle face
  • Lower face
  • โดยที่ทั้ง 3 ส่วนของใบหน้าจะมีอัตราส่วนเท่าๆ กัน ซึ่งแพทย์สามารถใช้เป็นฐานในการแนะนำการเสริมคาง และทรงที่ทำต้องเพื่อให้เข้ากับรูปหน้า โดยใช้อัตราส่วนตามหลัก Golden Ratio มาประกอบ

    การเตรียมตัวก่อนทำคาง

    ควรเตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อม ปรึกษารูปหน้าที่ต้องการให้เสร็จ แจ้งยาที่แพ้และโรคประจำตัวกับแพทย์ ดูแลตัวเองให้สะอาดและไม่แต่งหน้าเพื่อลดการติดเชื้อของแผล งดเว้นสิ่งที่จะทำให้เลือดไหลง่ายระหว่างการผ่าตัด ละเว้นการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ไม่ใส่อุปกรณ์และเครื่องประดับอื่นๆ

    วิธีการดูแลตัวเองหลังทำคาง

    หลังทำคางควรดูแลแผลให้ดี เลี่ยงการดุน การกระแทกหรือการสั่นไหวที่จะเกิดกับแผล เลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้แผลระคายเคืองหรือติดเชื้อ ทานยาให้ครบและตรงเวลา และหากมีปัญหาควรปรึกษาแพทย์ทันที

    สรุปการเสริมคางด้วยเทคนิคแผลนอก หรือ แผลใน ดีกว่ากัน

    การเสริมคางด้วยซิลิโคนนั้น มีวิธีการผ่าแบบแผลนอกและแผลใน ซึ่งการผ่าตัดทั้งสองแบบนั้น มีความแตกต่างกันที่บริเวณในการเปิดแผล โดยการเสริมคางแผลนอก จะเปิดแผลบริเวณใต้คาง ในขณะที่การเสริมคางแผลใน จะเป็นการเปิดแผลบริเวณด้านหน้าฟันล่างในปาก

    ซึ่งการเสริมคางแผลในดีกว่าการเสริมคางแผลนอก เพราะแผลสมานตัวเร็ว ไม่ทำให้มีแผลเป็นบริเวณคาง รวมถึงการดูแลหลังเสริมคางแผลใน แผลยังทำความสะอาดง่ายกว่าด้วย 

    เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ