fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

ทำความรู้จักสิวหัวหนองคืออะไร? รักษาและป้องกันอย่างไรได้บ้าง?

ทำความรู้จักสิวหัวหนองคืออะไร? รักษาและป้องกันอย่างไรได้บ้าง?
ทำความรู้จักสิวหัวหนองคืออะไร? รักษาและป้องกันอย่างไรได้บ้าง?

สิวหัวหนอง เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุดโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว นอกจากสิวหัวหนองจะเป็นปัญหาที่ให้ความรู้สึกเจ็บปวดแล้ว ยังทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนอีกด้วย 

อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายคนที่ไม่รู้จักสิวประเภทนี้และรักษาสิวหัวหนองแบบผิด ๆ อยู่ ส่งผลให้เกิดรอยแผลเป็นตามมา Better Me Clinic จึงขออาสาพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสิวหัวหนองแบบฉบับเจาะลึก พร้อมวิธีป้องกันและรักษาอย่างเห็นผล เพื่อให้ทุกคนหมดกังวลและกลับมามีผิวที่สวยใสไร้สิวอีกครั้ง!

สิวหัวหนองคืออะไร? อันตรายไหม?

สิวหัวหนอง (Pustules) เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่ มีหนองสีขาวหรือสีเหลืองอยู่บริเวณหัวสิว โดยสิวหัวหนองมักจะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ และสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกบริเวณของผิวหนังบนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หลัง หน้าอก หรือบริเวณอื่น ๆ ที่มีต่อมน้ำมัน 

นอกจากนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าสิวหัวหนองอันตรายไหม? โดยปกติแล้ว สิวหัวหนองมักไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่จะทำให้เกิดการอักเสบ บวมแดง เจ็บ และคันได้ ในบางกรณีถ้าสิวหัวหนองมีการอักเสบและเกิดขึ้นบริเวณหน้าผาก ก็อาจทำให้มีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย

สิวหัวหนองเกิดจากอะไร?

สิวหัวหนองเกิดจากหลายสาเหตุรวมกัน โดยหลัก ๆ แล้วมักเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่เต็มไปด้วยน้ำมัน เชื้อแบคทีเรีย และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยดังนี้

  • รูขุมขนอุดตัน รูขุมขนของเราเป็นช่องเล็ก ๆ บนผิวหนังที่ช่วยระบายน้ำมันและเหงื่อออกจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง เมื่อเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว น้ำมัน และสิ่งสกปรกสะสมตัวในรูขุมขนมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดการอุดตันและเกิดสิวหัวหนองได้
  • การอักเสบบริเวณสิว เมื่อรูขุมขนอุดตัน แบคทีเรียที่ชื่อว่า Propionibacterium acnes (P. acnes) ซึ่งอาศัยอยู่บนผิวหนังของเราจะเริ่มเจริญเติบโตและทำให้เกิดการอักเสบในรูขุมขน ซึ่งการอักเสบนี้จะทำให้เกิดสิวหัวขาวและทำให้มีอาการเจ็บปวดจากการอักเสบร่วมด้วย
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ในช่วงวัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่ตอนต้น เป็นช่วงที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนในระดับสูง ซึ่งฮอร์โมนนี้สามารถกระตุ้นให้ต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันส่วนเกินในรูขุมขนได้ เมื่อมีน้ำมันส่วนเกินสะสมอยู่ในรูขุมขนมากขึ้น ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการอุดตันและนำไปสู่การเกิดสิว
  • ติดเชื้อแบคทีเรีย (P. acnes) P. acnes เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของเราโดยปกติ แต่เมื่อรูขุมขนเกิดการอุดตัน แบคทีเรียเหล่านี้จะเจริญเติบโตมากขึ้นจนทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบ โดยแบคทีเรียชนิดนี้จะปล่อยสารพิษที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบ ส่งผลให้เกิดหนองและกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นมา
  • ไขมันที่รูขุมขนเพิ่มขึ้น ผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสมมักมีการผลิตไขมันในรูขุมขนเป็นจำนวนมาก ซึ่งไขมันส่วนเกินนี้สามารถอุดตันรูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิวได้

สิวหัวหนองมักเกิดบริเวณใด?

สิวหัวหนองสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบนใบหน้าและร่างกาย แต่บริเวณที่พบได้บ่อยที่สุดคือบริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะ ดังนี้

  • ใบหน้า เป็นบริเวณที่เกิดสิวหัวหนองได้บ่อยที่สุด เนื่องจากมีต่อมไขมันจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวหัวหนองบนใบหน้า ได้แก่ การผลิตน้ำมันส่วนเกินจากต่อมไขมัน, การอุดตันของรูขุมขนด้วยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและน้ำมัน รวมถึงการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes)
  • หน้าอก เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่เกิดสิวหัวหนองได้บ่อยโดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากบริเวณนี้มีต่อมไขมันจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่นหรือการตั้งครรภ์ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น การสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองต่อผิว
  • หลัง เป็นอีกหนึ่งจุดที่เกิดสิวหัวหนองได้ง่ายเช่นกัน เนื่องจากบริเวณนี้มีการผลิตน้ำมันส่วนเกินจากต่อมไขมันออกมามาก รวมถึงมีการเสียดสีกับเสื้อผ้าบ่อย ๆ ทำให้เกิดสิวหัวหนองได้ง่าย
  • ไรผม การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ระคายเคืองต่อผิว การสวมหมวกหรือผ้าโพกหัวที่รัดแน่นเกินไป และการไม่ทำความสะอาดเส้นผมหรือหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวหัวหนองตามไรผมได้
  • คอ เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่เกิดสิวหัวหนองได้ เนื่องจากความมันจากเส้นผมที่ไปอุดตันรูขุมขน และการทำความสะอาดที่ไม่ดีพอ

วิธีรักษาสิวหัวหนอง

สิวหัวหนองเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แต่สามารถรักษาให้หายได้ โดยวิธีรักษาสิวหัวหนองขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวและปัจจัยอื่น ๆ สำหรับวิธีการรักษาสิวหัวหนองหลัก ๆ สามารถทำได้ดังนี้

1. รักษาสิวหัวหนองด้วยยาทาภายนอก

การรักษาสิวหัวหนองด้วยยาทาภายนอกเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากยาทาภายนอกมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และลดการผลิตความมันส่วนเกินได้ เช่น 

  • Salicylic Acid เป็นกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและความมันส่วนเกินที่อุดตันรูขุมขน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดรอยแดงจากสิว รวมถึงช่วยลดอาการบวมของสิวหัวหนองได้อีกด้วย
  • Benzoyl Peroxide เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ออกฤทธิ์ได้ดีกับแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวหัวหนอง โดย Benzoyl Peroxide จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้และป้องกันการเกิดสิวใหม่
  • Clindamycin เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาสิวหัวหนองที่รุนแรง ออกฤทธิ์โดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P. acnes และลดการอักเสบ
  • Retinol เป็นอนุพันธ์ของวิตามิน A ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและความมันส่วนเกินที่อุดตันรูขุมขน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรง มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ควรใช้ยาทาภายนอกตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาทาภายนอกมากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้

2. รักษาสิวหัวหนองด้วยยาชนิดรับประทาน

สิวหัวหนองสามารถรักษาด้วยยาชนิดรับประทานได้ ซึ่งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ โดยยาชนิดรับประทานที่นิยมใช้ในการรักษาสิวหัวหนอง มีดังนี้

  • Amoxicillin เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนิซิลลิน ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวหัวหนอง โดยยาจะยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตและแบ่งตัวได้

  • Penicillins เป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ รวมถึงสิวหัวหนอง มีกลไกการออกฤทธิ์ที่คล้ายกับ Amoxicillin โดยจะเข้าไปยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์ของแบคทีเรีย

  • ยาคุมกำเนิด (Oral contraceptive pill) ไม่เพียงแค่ป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสิวหัวหนองได้โดยการควบคุมฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิว เมื่อระดับฮอร์โมนนี้ลดลง การผลิตน้ำมันและการอุดตันของรูขุมขนก็จะลดลงไปด้วย ส่งผลให้สิวหัวหนองลดลง

อย่างไรก็ตาม การรับประทานยาปฏิชีวนะควรใช้ตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น และไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะนานเกินกว่าที่แพทย์กำหนด เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการดื้อยาได้

3. รักษาสิวหัวหนองด้วยแผ่นแปะสิว

การรักษาสิวหัวหนองด้วยแผ่นแปะสิว เป็นวิธีรักษาสิวหัวหนองด้วยตัวเองที่สะดวกสบายและทำได้ง่าย เนื่องจากแผ่นแปะสิวทำมาจากวัสดุไฮโดรคอลลอยด์ จึงสามารถดูดซับหนองและของเหลวส่วนเกินจากสิว ทำให้สิวยุบตัวลงและลดการอักเสบได้ 

 

นอกจากนี้ แผ่นแปะสิวยังมีส่วนช่วยในการสร้างเกราะป้องกันสิวไม่ให้แบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขน อีกทั้งยังมีส่วนผสมจากกรดซาลิไซลิกหรือทีทรีออยล์ที่ช่วยบรรเทาการอักเสบ บวม หรือแดงได้ด้วย

4. รักษาสิวหัวหนองด้วยเลเซอร์

การรักษาสิวหัวหนองด้วยเลเซอร์ เป็นหนึ่งในวิธีรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี สำหรับเลเซอร์รักษาสิวที่ Better Me Clinic แนะนำ มีดังนี้

  • Dual Yellow Laser มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบและลดอาการบวมแดงได้ด้วย

  • Pico Laser มีคุณสมบัติในการทำลายเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยรักษารอยสิวและปรับผิวหน้าให้เรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นได้

5. รักษาสิวหัวหนองด้วยการทำ Peeling

การทำ Peeling หรือการผลัดเซลล์ผิว ที่ Better Me Clinic จะมีคอร์สผลัดเซลล์ผิวสูตรพิเศษที่ชื่อว่า Magic Peeling ซึ่งเป็นการใช้กรดผลไม้สูตรพิเศษในการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นกำพร้าที่ไม่แข็งแรงให้หลุดลอกออกไป ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงมาแทนที่

นอกจากนี้ ยังมีสูตร Acne Peeling สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือสิวผดก็สามารถดูแลปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวหนอง

สิวหัวหนอง เป็นปัญหาหนึ่งที่กวนใจใครหลายคน การดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวหนอง โดยวิธีป้องกันสิวหัวหนองสามารถทำได้ดังนี้

  • ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำ ด้วยการล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ หลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีฤทธิ์รุนแรงเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง
  • ผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและป้องกันการอุดตันของรูขุมขน แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือกรดไกลโคลิก
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “non-comedogenic” หรือ “oil-free” เพื่อทำให้รูขุมขนไม่เกิดการอุดตัน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก หรือเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขน และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว เนื่องจากจะทำให้เกิดการอักเสบ การติดเชื้อที่รุนแรง และอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ เนื่องจากมือของเรามีสิ่งสกปรกสะสมอยู่มาก อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียจากมือแพร่กระจายไปยังผิวหน้าและก่อให้เกิดสิวได้
  • เปลี่ยนปลอกหมอนเป็นประจำ ควรเปลี่ยนปลอกหมอนทุก ๆ 2-3 วันเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย แนะนำให้ใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าลินินที่ระบายอากาศได้ดี
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก, ผลไม้ และธัญพืชเต็มเมล็ด เพราะสิ่งเหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดการอักเสบได้ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงของมัน ของทอด อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่ผลิตภัณฑ์จากนม และอาหารแปรรูป เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนใบหน้าและทำให้เกิดสิวได้

คำถามที่พบบ่อย

1. กดสิวหัวหนองได้ไหม? ควรกดหรือไม่?

เราไม่ควรกดสิวหัวหนองด้วยตัวเอง เนื่องจากจะทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรง เกิดรอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว รวมถึงอาจทำให้เกิดสิวอุดตันมากขึ้นได้ ทางที่ดีควรเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมจะดีกว่า

2. สิวหัวหนองหายเองได้ไหม?

สิวหัวหนองไม่สามารถหายเองได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งถ้าปล่อยปัญหาไว้โดยไม่รีบทำการรักษาก็อาจเกิดปัญหาตามมาได้หลายอย่าง เช่น เกิดการอักเสบที่รุนแรง, เกิดรอยดำ, รอยแดง, รอยแผลเป็นจากสิว รวมถึงทำให้มีโอกาสกลับมาเป็นสิวหัวหนองซ้ำได้

รักษาสิวหัวหนองที่ไหนดี?

การรักษาสิวหัวหนองอย่างถูกวิธีและตรงจุดโดยไม่ทำให้สิวอักเสบไปมากกว่าเดิม ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาสิว ดังนั้นการเลือกสถานที่ในการรักษาสิวหัวหนองจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแพทย์ เครื่องมือ และเทคนิคต่าง ๆ มีผลต่อใบหน้าของผู้รับบริการโดยตรง

Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิวหัวหนอง เนื่องจากคุณหมอของเรามีประสบการณ์มากกว่าหมื่นเคส พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด ใส่ใจรายละเอียดแบบเคสต่อเคส มีการประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ 

หากสนใจ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่และแก้ปัญหาได้ตรงจุดอย่างแน่นอน

  • Healthline, What Causes Pustules?(https://www.healthline.com/health/pustules), 17 August 2024
  • Web MD, Pustules (https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/pustules-facts), 17 August 2024
  • Rama Channel, สิวหัวหนอง ปัญหากวนใจของสาว ๆ (https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic), 17 สิงหาคม 2567

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ