รวมเคล็ดลับบอกลารอยแดงจากสิว รักษารอยแดงจากสิวยังไงให้เห็นผลไว!
สิว ปัญหาผิวที่เห็นทีไรก็กวนใจทุกที เพราะนอกจากจะเป็นปัญหาผิวที่รักษาได้ยากแล้ว มิหนำซ้ำหลังจากหายยังฝากร่องรอยอย่าง “รอยสิว” เอาไว้เป็นเรื่องกวนใจในระยะยาวอีก
ร่องรอยต่าง ๆ หลังจากเป็นสิวสามารถจางได้เองตามธรรมชาติ แต่ต้องอาศัยระยะเวลาและการดูแลผิว อย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นรอยต่าง ๆ ก็จะหายได้ช้าลงทำให้เกิดความรำคาญใจทุกครั้งที่ส่องกระจก
รอยแดงจากสิว ปัญหาผิวที่ไม่ควรมองข้ามหลังจากสิวหาย การดูแลรอยแดงจากสิวอย่างทันถ่วงทีจะช่วยปกป้องการเกิดรอยดำหลังการอักเสบในอนาคต
บทความนี้ได้รวมสาเหตุและวิธีการดูแลรักษารอยแดงจากสิว เพื่อตอบโจทย์สำหรับคนที่มีปัญหารอยแดงจากสิว รวมทั้งการรักษารอยแดงจากสิวแบบเร่งด่วนที่ Better Me Clinic
รอยแดงจากสิวคืออะไร? เกิดจากอะไร?
รอยแดงจากสิว หรือ Post-Inflammatory Erythema คือ ร่องรอยที่เกิดขึ้นหลังจากสิวหายเกิดขึ้นได้จากการอักเสบของสิว หรือการบีบ แคะ แกะอย่างรุนแรงระหว่างเป็นสิว โดยรอยแดงจากสิวส่วนใหญ่พบในผู้ที่มีผิวหน้าบางหรือมีผิวค่อนข้างขาว เมื่ออาการอักเสบของสิวหายไปแล้วรอยสิวแดงก็ยังคงอยู่เกิดเป็นรอยแดงจากสิวและสามารถเกิดเป็นรอยดำได้ในอนาคต
ถึงแม้รอยแดงจากสิวจะเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดบริเวณที่เป็นสิวแล้ว แต่ต้นตอที่แท้จริงคงหนีไม่พ้นการทับถมของสิ่งสกปรกบริเวณรูขุมขน การสะสมของแบคทีเรีย โดยสามารถอธิบายถึงกระบวนการเกิดรอยแดงจากสิวได้ดังนี้
1. การอุดตันรูขุมขน
เมื่อรูขุมขนบนผิวหนังถูกอุดตันด้วยเศษผิวหนังและน้ำมันสิวจะเริ่มเกิดขึ้น น้ำมันผิว (Sebum) จะสร้างสภาพที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Cutibacterium Acnes เกิดการอุดตันในรูขุมขนบนผิวหน้า
2. แบคทีเรีย Cutibacterium Acnes มีการเจริญเติบโต
แบคทีเรีย Cutibacterium Acnes เป็นแบคทีเรียธรรมดาที่มีอยู่ปกติบนผิวหนัง แต่เมื่อมีน้ำมันและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในรูขุมขนที่อุดตัน แบคทีเรียนี้จะเจริญเติบโตมากขึ้นและเริ่มทำสารต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบ
3. การอักเสบของผิว
การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Cutibacterium Acnes ส่งผลให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง เช่น การสร้างกรดไขมัน (Fatty Acids) และสารอื่น ๆ ที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อการอักเสบนี้ โดยการปลดปล่อยสารเคมีและสร้างเส้นเลือดในพื้นที่ที่เกิดอักเสบ ทำให้ผิวเป็นสีแดงหรือรอยแดงจากสิวเกิดขึ้นได้
4. สิวแตกหรือการเกิดรอยแดงหลังจากการเป็นสิว
สิวที่แตกหรือการเกิดรอยแดงหลังจากการเป็นสิว เป็นผลมาจากกระบวนการอักเสบของสิวที่มีอาการบวมและแดง หลังจากสิวแตกและร่างกายมีการปล่อยสารต่าง ๆ ที่กระตุ้นต่อกระบวนการอักเสบของผิวหนัง จะทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังรอบ ๆ รูขุมขนที่เป็นสิว
โดยการสร้างเส้นเลือดในพื้นที่นั้นทำให้ผิวหนังดูแดงและเกิดเป็นรอยแดงจากสิว ซึ่งสิ่งนี้อาจทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าเป็นระยะเวลานาน ก่อนจะจางลงตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและการดูแลผิวหน้าในแต่ละบุคคล
รอยดำ VS รอยแดง ต่างกันอย่างไร?
รอยดำและรอยแดงจากสิวมีสาเหตุและลักษณะที่แตกต่างกัน การรักษาของรอยแต่ละประเภทจึงขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการอักเสบ โดยสามารถแบ่งสาเหตุและลักษณะของรอยได้ดังนี้
รอยดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation - PIH)
- สาเหตุของรอยดำจากสิว : รอยดำจากสิวเกิดจากการที่ผิวหนังมีการผลิตเมลานิน (Melanin) มากขึ้นในพื้นที่ที่เคยอักเสบ สาเหตุสำคัญคือการอักเสบเฉียบพลันจากการแตกของสิวและเมลานินไปกระจุกอยู่บริเวณนั้น นอกจากนี้ยังสามารถเกิดจากการแกะหรือบีบสิวอย่างรุนแรงได้อีกด้วย
- ลักษณะรอยดำจากสิว : มักมีลักษณะเป็นจุดหรือแถบสีน้ำตาลถึงดำบนผิวหนัง ส่วนใหญ่จะไม่มีปูด บวมขึ้นเหนือผิวหนัง และเริ่มเห็นรอยได้ชัดหลังจากสิวหายไปแล้ว ก่อนจะค่อยๆหายไปตามระยะเวลาและการผลัดเซลล์ผิว
หากต้องการรักษารอยดำจากสิวควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการผลิตเมลานินและกระตุ้นการผลิตผิวหนังใหม่ เช่น การใช้ครีมหรือเจลที่มีส่วนประกอบเช่น ไฮโดรควินอน (Hydroquinone) กระชับผิว และสารผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสีผิว
รอยแดง (Post-Inflammatory Erythema - PIE)
PIE เป็นปัญหาผิวหนังที่เกิดขึ้นหลังจากการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งอาจจะเกิดจากสิวหรือการบาดเจ็บอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวหนังเป็นสีแดง
- สาเหตุรอยแดงจากสิว : เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดจากตำแหน่งที่เป็นสิวที่เคยมีการบีบ แตะ หรือการบาดเจ็บบนผิวหนัง การอักเสบนี้จะกระตุ้นการขยายตัวของเส้นเลือดฝอยในรูขุมขนที่เป็นสิว ทำให้เกิดรอยแดง โดยรอยนี้จะคงอยู่บนผิวหนังในระยะเวลาหนึ่ง แต่มักจะหายไปเองตามเวลา ไม่เกี่ยวข้องกับการผลัดเซลล์ผิว เหมือนรอยดำ
- ลักษณะรอยแดงจากสิว : มักมีลักษณะเป็นจุดหรือแถบสีแดงบนผิวหนัง รอยนี้อาจรู้สึกอิ่มตัวและมีสีแดงเมื่อแตะหรือกดคราบบนผิว รอยแดงมักหายไปเองตามเวลาและไม่จำเป็นต้องใช้การรักษาเฉพาะ
รอยแดงกับผื่นแดงกันอย่างไร?
รอยแดง เป็นผลจากการอักเสบของผิวหนังในพื้นที่ที่มีสิวหรือการบาดเจ็บและเกิดเป็นรอยแดงในรูปแบบจุดหรือแถบสีแดงบนผิว ในขณะที่ผื่นแดงเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการอักเสบเป็นการแสดงผลของการระคายเคืองผิวเกิดจากสภาวะผิวแพ้หรือโรคผิวหนัง
สาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นแดง
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารโลหะ เช่น อะลูมิเนียม โครเมียม และตะกั่ว ทำให้เกิดผิวแดงผื่นคันได้
- การระคายเคืองต่อผิวหนัง
- การแพ้สารทีมีอยู่ในผลิตภัณฑ์
- โรคผิวหนัง
สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแดง
- สิวที่เป็นตุ่ม Papules หรือตุ่มสีแดงที่เต็มไปด้วยเลือดคั่งบนผิวหนัง
- ตุ่มหนอง คล้ายกับมีเลือดคั่งแต่จะมีใหญ่กว่าแต่มีหนองผสมอยู่
- ตุ่มก้อน ตุ่มเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนองใต้ผิวซึ่งมักเป็นสีแดง แต่บางครั้งก็มีสีเนื้อ
- ซีสต์ การอักเสบขนาดใหญ่สีแดงและมีหนองซึ่งอาจเจ็บปวดเมื่อสัมผัส
9 วิธีป้องกันและรักษารอยแดงจากสิวด้วยตัวเอง
เมื่อเราทราบถึงต้นเหตุของการเกิดรอยแดงจากสิวแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจก็คือวิธีการป้องกันที่ต้นเหตุเพื่อป้องกันการเกิดรอยแดงจากสิวในอนาคต Better Me Clinic ได้รวบรวมทั้งวิธีการป้องกันและการรักษารอยแดงจากสิวที่สามารถทำตามที่บ้านได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการเหล่านี้
1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ออกแบบมาสำหรับผิวบอบบางหรือผิวที่เป็นสิวได้ง่าย และหลีกเลี่ยงการใช้โทนเนอร์หรือสครับที่รุนแรงทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหรือรอยแดงจากสิวที่เพิ่งผ่านการอักเสบของสิวมา
2. หลีกเลี่ยงการบีบสิว
ไม่ควรอบีบสิวเด็ดขาด แม้ว่าสิวโดยเฉพาะที่มีสีขาวด้านบนอาจชวนให้บีบก็ตาม การบีบ แกะ เกา จะช่วยให้ผิวอักเสบมากขึ้นและยังทำให้รอยแดงจากสิวแย่ลง
3. รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปราศจากน้ำหอม และไม่ก่อให้เกิดสิว หรือผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้เกิดรอยแดง เพื่อล้างสิ่งสกปรก ความมัน และเครื่องสำอางออกอย่างอ่อนโยน เพียงวันละ 2 ครั้ง การทำความสะอาดมากเกินไปอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองซึ่งอาจทำให้ผิวแย่ลงได้
4. ทามอยเจอร์ไรเซอร์
เลือกใช้โลชั่นที่มีเนื้อบางเบาและไม่ก่อให้เกิดสิว มีสารไนอะซินาไมด์ที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้น การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่เป็นสิวง่ายช่วยป้องกันการผลิตน้ำมันมากเกินไปและปกป้องผิวหนังให้แข็งแรงขึ้น
5. ประคบน้ำแข็งบริเวณที่มีรอยแดง
ใช้ผ้าสะอาดคลุมน้ำแข็งแพ็ก แล้ววางไว้ตรงบริเวณที่เป็นสีแดงนาน 10 นาที สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับสิวที่ออกฤทธิ์หรือผื่นแดง แต่ในบางรายน้ำแข็งและความเย็นจัดสามารถกระตุ้นให้เกิดรอยแดงได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนลองใช้วิธีนี้
6. ใช้แผ่นแปะสิว
แผ่นแปะสิวนอกจากช่วยปกปิดสิวที่เป็นรอยแดงและรักษาด้วยส่วนผสมที่มีอยู่บนแปะสิว เช่น ไนอะซินาไมด์หรือกรดซาลิไซลิก จะช่วยให้สิวยุบตัวและลดริวรอยของการเกิดรอยแดงจากสิวได้
7. ใช้กรดซาลิไซลิก
การรักษาด้วยกรดซาลิไซลิกสำหรับสิวที่เกิดขึ้น ส่วนผสมนี้ยังกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวซึ่งสามารถช่วยทำให้รอยแดงจากสิวจางลง แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง
8. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
แสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญในการกระตุ้นรอยแดงจากสิวให้ชัดเจนขึ้น การทาครีมกันแดดยังช่วยปกป้องรอยแดงจากสิวจากรังสี UV และยังช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัยและมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
9. การรับประทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ
ควรรับประทานอาหารและบำรุงร่างกายด้วยอาหารต้านการอักเสบ เช่น ปลาแซลมอน อะโวคาโด ชาเขียว ถั่วเหลือง บรอกโคลี เป็นต้น วิธีนี้ไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่สามารถช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับอาการอักเสบและการเกิดรอยแดงจากสิวที่เกิดขึ้นหลังจากสิวหายได้
วิธีรักษารอยแดงจากสิวฉบับเร่งด่วน
รอยแดงจากสิวเป็นปัญหาที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการดูแลให้รอยจางลง ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงมองหาตัวช่วยฉบับเร่งด่วนเพื่อกู้คืนผิวหน้าให้กับมาเนียนใสอีกครั้ง โดยปัจจุบันมีนวัตกรรมการดูแลผิวหน้าเพื่อช่วยลดรอยแดงจากสิวที่ปลอดภัยและสามารถเห็นผลลัพท์ได้ชัดเจนหลังทำได้แก่
1. การทำทรีตเมนต์ผิวหน้า
การทำทรีตเมนต์ผิวหน้าคือการนวดกดจุดและผลักวิตามินด้วยเครื่องทำความเย็นลบ 5 องศา ซึ่งจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองบนใบหน้าทำงานได้ดีขึ้น โดยสูตรทรีตเมนต์ที่ Better Me Clinic แนะนำ ได้แก่สูตร Aloe Vera Tx เป็นสูตรว่านหางจระเข้เข้มข้น ช่วยลดรอยแดงจากสิวอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
2. การฉีดเมโส หรือ Mesotherapy
การรักษารอยแดงจากสิวโดยวิธีการการฉีดเมโส เป็นการฉีดวิตามินต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยลดรอยแดงจากสิวและช่วยลดการอักเสบบนผิวได้
โดยก่อนที่จะทำการฉีดเมโสแพทย์จะเป็นผู้ประเมินผิวหน้าของคุณเพื่อให้ทราบถึงปัญหาผิวและเลือกสูตรที่เหมาะสมสำหรับสำหรับผู้ที่ปัญหารอยแดงจากสิว
3. เลเซอร์รักษารอยแดงจากสิว
วิธีการเลเซอร์รอยแดงจากสิวจะเป็นกระบวนการกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรงขึ้น การรักษาด้วยเลเซอร์นั้นแพทย์จะใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวหนังและลดการอักเสบของผิว
โดยแสงเลเซอร์จะสามารถเข้าถึงได้ตั้งแต่ผิวชั้นบน ลึกไปจนถึงผิวชั้นกลางการใช้การเลเซอร์รักษารอยแดงจากสิวจะช่วยให้รอยแดงลดลงและผิวดูกระจ่างใสขึ้น
ทั้งนี้จำนวนและระยะเวลาของการรักษาด้วยเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิวหน้าที่เกิดขึ้น บางครั้งอาจต้องทำการรักษาซ้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
4. การทำ IPL
การทำ IPL (Intense Pulse Light) คือการใช้คลื่นแสงที่มีความเข้มสูง เข้าไปรักษาสภาพผิวหน้าและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น รอยแดงจางลงและช่วยลดความหมองคล้ำ
ทั้งนี้การใช้ IPL ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวซึ่งคอลลาเจนเป็นสารที่ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและยืดหยุ่นมากขึ้น
รักษารอยแดงจากสิวที่ไหนดี ?
การรักษาและการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาสุขภาพดีนั้นควรเลือกรักษากับคลินิกที่ได้รับมาตรฐานและรักษาโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับเรื่องรอยแดงจากสิว เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวหน้าและปัญหารอยแดงจากสิวได้อย่างตรงจุด
Better Me Clinic by Dr.Chanya ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถสอบถามข้อสงสัยหรือปัญหาผิวหน้ากับแพทย์ได้โดยตรงเพื่อวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าของคุณ
รอยแดงจากสิวเป็นร่องรอยที่ฝากไว้หลังจากสิวหาย เราควรดูแลสุขภาพผิวหน้าเพื่อลดต้นเหตุของการเกิดสิวจะช่วยลดปัญหาการเกิดรอยดำและรอยแดงจากสิวในอนาคต แต่เมื่อใดก็ตามที่ปัญหารอยแดงจากสิวเกิดขึ้นแล้วต้องการรักษารอยแดงจากสิวฉบับเร่งด่วนสามารถสอบถามและปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya ได้เลยค่ะ
สอบถามเพิ่มเติม
โทร: 020598118, 0886032641
Line: @bettermeclinic
Facebook : Better Me Clinic by Dr.Chanya
IG : Better Me Clinic by Dr.Chanya
ที่มาของข้อมูล
- ภิรมณ ทักษิณาวงศ์, รักษารอยแผลเป็นจากสิว, (https://www.si.mahidol.ac.th/metc/met/th/images/exhibition/METex2022/Acne/scar.html), 24 Sep 2023
- Mesoestetic, ลดรอยแดงจากสิวอย่างไร..ให้หน้ากลับมาเนียนใสได้อีกครั้ง, (https://mesoestetic-th.com/postinflammatory_erythema/), 24 Sep 2023
- ศาสตราจารย์ นายแพทย์วรพงษ์ มนัสเกียรติ, สาเหตุและวิธีลดรอยดำและรอยแดงจากสิว, (https://www.larocheposay-th.com/articles/darkspots-and-redness), 24 Sep 2023
- HDmall, เลเซอร์รอยสิว ทางเลือกหน้าใส ไร้สิวเร็วทันใจ, (https://hdmall.co.th/c/acne-scar-laser), 24 Sep 2023
- Medthai, 17 วิธีลดรอยสิว รักษาจุดด่างดํา รอยดํา รอยแดงจากสิว !!, (https://medthai.com/วิธีลดรอยสิว/), 24 Sep 2023
- Rachel Nall, MSN, CRNA, How to Get Rid of Redness from Pimples and Acne, (https://www.healthline.com/health/how-to-get-rid-of-redness-from-pimples), 24 Sep 2023
- Leandra Beabout, To the Rescue! Here’s How to Get Rid of Redness from Acne, (https://greatist.com/health/how-to-get-rid-of-redness-from-acne), 24 Sep 2023
- Chris Barry, How to Get Rid of Redness from Acne, (https://dermcollective.com/how-to-get-rid-of-redness-from-acne/), 24 Sep 2023
- Kushneet Kukreja, How To Reduce Acne Redness?, (https://www.olivaclinic.com/blog/how-to-reduce-acne-redness/), 24 Sep 2023