fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

รวมเคล็ดลับบอกลารอยแดงจากสิว รักษารอยแดงจากสิวยังไงให้เห็นผลไว!

รวมเคล็ดลับบอกลารอยแดงจากสิว รักษารอยแดงจากสิวยังไงให้เห็นผลไว!
รวมเคล็ดลับบอกลารอยแดงจากสิว รักษารอยแดงจากสิวยังไงให้เห็นผลไว!

สิว ปัญหาผิวที่เห็นทีไรก็กวนใจทุกที เพราะนอกจากจะเป็นปัญหาผิวที่รักษาได้ยากแล้ว มิหนำซ้ำหลังจากหายยังฝากร่องรอยอย่าง “รอยสิว” เอาไว้เป็นเรื่องกวนใจในระยะยาวอีก

ร่องรอยต่าง ๆ หลังจากเป็นสิวสามารถจางได้เองตามธรรมชาติ แต่ต้องอาศัยระยะเวลาและการดูแลผิว อย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นรอยต่าง ๆ ก็จะหายได้ช้าลงทำให้เกิดความรำคาญใจทุกครั้งที่ส่องกระจก

รอยแดงจากสิว ปัญหาผิวที่ไม่ควรมองข้ามหลังจากสิวหาย การดูแลรอยแดงจากสิวอย่างทันถ่วงทีจะช่วยปกป้องการเกิดรอยดำหลังการอักเสบในอนาคต 

บทความนี้ได้รวมสาเหตุและวิธีการดูแลรักษารอยแดงจากสิว เพื่อตอบโจทย์สำหรับคนที่มีปัญหารอยแดงจากสิว รวมทั้งการรักษารอยแดงจากสิวแบบเร่งด่วนที่ Better Me Clinic

รอยแดงจากสิวคืออะไร? เกิดจากอะไร?

รอยแดงจากสิว หรือ Post-Inflammatory Erythema คือ ร่องรอยที่เกิดขึ้นหลังจากสิวหายเกิดขึ้นได้จากการอักเสบของสิว หรือการบีบ แคะ แกะอย่างรุนแรงระหว่างเป็นสิว โดยรอยแดงจากสิวส่วนใหญ่พบในผู้ที่มีผิวหน้าบางหรือมีผิวค่อนข้างขาว เมื่ออาการอักเสบของสิวหายไปแล้วรอยสิวแดงก็ยังคงอยู่เกิดเป็นรอยแดงจากสิวและสามารถเกิดเป็นรอยดำได้ในอนาคต 

ถึงแม้รอยแดงจากสิวจะเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดบริเวณที่เป็นสิวแล้ว แต่ต้นตอที่แท้จริงคงหนีไม่พ้นการทับถมของสิ่งสกปรกบริเวณรูขุมขน การสะสมของแบคทีเรีย โดยสามารถอธิบายถึงกระบวนการเกิดรอยแดงจากสิวได้ดังนี้

1. การอุดตันรูขุมขน

เมื่อรูขุมขนบนผิวหนังถูกอุดตันด้วยเศษผิวหนังและน้ำมันสิวจะเริ่มเกิดขึ้น น้ำมันผิว (Sebum) จะสร้างสภาพที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Cutibacterium Acnes เกิดการอุดตันในรูขุมขนบนผิวหน้า

2. แบคทีเรีย Cutibacterium Acnes มีการเจริญเติบโต

แบคทีเรีย Cutibacterium Acnes เป็นแบคทีเรียธรรมดาที่มีอยู่ปกติบนผิวหนัง แต่เมื่อมีน้ำมันและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในรูขุมขนที่อุดตัน แบคทีเรียนี้จะเจริญเติบโตมากขึ้นและเริ่มทำสารต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบ

3. การอักเสบของผิว

การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Cutibacterium Acnes ส่งผลให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง เช่น การสร้างกรดไขมัน (Fatty Acids) และสารอื่น ๆ ที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อการอักเสบนี้ โดยการปลดปล่อยสารเคมีและสร้างเส้นเลือดในพื้นที่ที่เกิดอักเสบ ทำให้ผิวเป็นสีแดงหรือรอยแดงจากสิวเกิดขึ้นได้

4. สิวแตกหรือการเกิดรอยแดงหลังจากการเป็นสิว

สิวที่แตกหรือการเกิดรอยแดงหลังจากการเป็นสิว เป็นผลมาจากกระบวนการอักเสบของสิวที่มีอาการบวมและแดง หลังจากสิวแตกและร่างกายมีการปล่อยสารต่าง ๆ ที่กระตุ้นต่อกระบวนการอักเสบของผิวหนัง จะทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังรอบ ๆ รูขุมขนที่เป็นสิว

โดยการสร้างเส้นเลือดในพื้นที่นั้นทำให้ผิวหนังดูแดงและเกิดเป็นรอยแดงจากสิว ซึ่งสิ่งนี้อาจทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าเป็นระยะเวลานาน ก่อนจะจางลงตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและการดูแลผิวหน้าในแต่ละบุคคล

รอยดำ VS รอยแดง ต่างกันอย่างไร?

รอยดำและรอยแดงจากสิวมีสาเหตุและลักษณะที่แตกต่างกัน การรักษาของรอยแต่ละประเภทจึงขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการอักเสบ โดยสามารถแบ่งสาเหตุและลักษณะของรอยได้ดังนี้

รอยดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation - PIH)

  • สาเหตุของรอยดำจากสิว : รอยดำจากสิวเกิดจากการที่ผิวหนังมีการผลิตเมลานิน (Melanin) มากขึ้นในพื้นที่ที่เคยอักเสบ สาเหตุสำคัญคือการอักเสบเฉียบพลันจากการแตกของสิวและเมลานินไปกระจุกอยู่บริเวณนั้น นอกจากนี้ยังสามารถเกิดจากการแกะหรือบีบสิวอย่างรุนแรงได้อีกด้วย
  • ลักษณะรอยดำจากสิว : มักมีลักษณะเป็นจุดหรือแถบสีน้ำตาลถึงดำบนผิวหนัง ส่วนใหญ่จะไม่มีปูด บวมขึ้นเหนือผิวหนัง และเริ่มเห็นรอยได้ชัดหลังจากสิวหายไปแล้ว ก่อนจะค่อยๆหายไปตามระยะเวลาและการผลัดเซลล์ผิว

หากต้องการรักษารอยดำจากสิวควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการผลิตเมลานินและกระตุ้นการผลิตผิวหนังใหม่ เช่น การใช้ครีมหรือเจลที่มีส่วนประกอบเช่น ไฮโดรควินอน (Hydroquinone) กระชับผิว และสารผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสีผิว

รอยแดง (Post-Inflammatory Erythema - PIE)

PIE เป็นปัญหาผิวหนังที่เกิดขึ้นหลังจากการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งอาจจะเกิดจากสิวหรือการบาดเจ็บอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวหนังเป็นสีแดง

  • สาเหตุรอยแดงจากสิว : เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดจากตำแหน่งที่เป็นสิวที่เคยมีการบีบ แตะ หรือการบาดเจ็บบนผิวหนัง การอักเสบนี้จะกระตุ้นการขยายตัวของเส้นเลือดฝอยในรูขุมขนที่เป็นสิว ทำให้เกิดรอยแดง โดยรอยนี้จะคงอยู่บนผิวหนังในระยะเวลาหนึ่ง แต่มักจะหายไปเองตามเวลา ไม่เกี่ยวข้องกับการผลัดเซลล์ผิว เหมือนรอยดำ
  • ลักษณะรอยแดงจากสิว : มักมีลักษณะเป็นจุดหรือแถบสีแดงบนผิวหนัง รอยนี้อาจรู้สึกอิ่มตัวและมีสีแดงเมื่อแตะหรือกดคราบบนผิว รอยแดงมักหายไปเองตามเวลาและไม่จำเป็นต้องใช้การรักษาเฉพาะ

รอยแดงกับผื่นแดงกันอย่างไร?

รอยแดง เป็นผลจากการอักเสบของผิวหนังในพื้นที่ที่มีสิวหรือการบาดเจ็บและเกิดเป็นรอยแดงในรูปแบบจุดหรือแถบสีแดงบนผิว ในขณะที่ผื่นแดงเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการอักเสบเป็นการแสดงผลของการระคายเคืองผิวเกิดจากสภาวะผิวแพ้หรือโรคผิวหนัง

สาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นแดง

  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารโลหะ เช่น อะลูมิเนียม โครเมียม และตะกั่ว ทำให้เกิดผิวแดงผื่นคันได้
  • การระคายเคืองต่อผิวหนัง
  • การแพ้สารทีมีอยู่ในผลิตภัณฑ์
  • โรคผิวหนัง

สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแดง

  • สิวที่เป็นตุ่ม Papules หรือตุ่มสีแดงที่เต็มไปด้วยเลือดคั่งบนผิวหนัง
  • ตุ่มหนอง คล้ายกับมีเลือดคั่งแต่จะมีใหญ่กว่าแต่มีหนองผสมอยู่
  • ตุ่มก้อน ตุ่มเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนองใต้ผิวซึ่งมักเป็นสีแดง แต่บางครั้งก็มีสีเนื้อ
  • ซีสต์ การอักเสบขนาดใหญ่สีแดงและมีหนองซึ่งอาจเจ็บปวดเมื่อสัมผัส
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง

9 วิธีป้องกันและรักษารอยแดงจากสิวด้วยตัวเอง

เมื่อเราทราบถึงต้นเหตุของการเกิดรอยแดงจากสิวแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจก็คือวิธีการป้องกันที่ต้นเหตุเพื่อป้องกันการเกิดรอยแดงจากสิวในอนาคต Better Me Clinic ได้รวบรวมทั้งวิธีการป้องกันและการรักษารอยแดงจากสิวที่สามารถทำตามที่บ้านได้ง่าย  ๆ ด้วยวิธีการเหล่านี้

1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ออกแบบมาสำหรับผิวบอบบางหรือผิวที่เป็นสิวได้ง่าย และหลีกเลี่ยงการใช้โทนเนอร์หรือสครับที่รุนแรงทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหรือรอยแดงจากสิวที่เพิ่งผ่านการอักเสบของสิวมา

2. หลีกเลี่ยงการบีบสิว

ไม่ควรอบีบสิวเด็ดขาด แม้ว่าสิวโดยเฉพาะที่มีสีขาวด้านบนอาจชวนให้บีบก็ตาม การบีบ แกะ เกา จะช่วยให้ผิวอักเสบมากขึ้นและยังทำให้รอยแดงจากสิวแย่ลง

3. รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปราศจากน้ำหอม และไม่ก่อให้เกิดสิว หรือผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้เกิดรอยแดง เพื่อล้างสิ่งสกปรก ความมัน และเครื่องสำอางออกอย่างอ่อนโยน เพียงวันละ 2 ครั้ง การทำความสะอาดมากเกินไปอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองซึ่งอาจทำให้ผิวแย่ลงได้

4. ทามอยเจอร์ไรเซอร์

เลือกใช้โลชั่นที่มีเนื้อบางเบาและไม่ก่อให้เกิดสิว มีสารไนอะซินาไมด์ที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้น การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่เป็นสิวง่ายช่วยป้องกันการผลิตน้ำมันมากเกินไปและปกป้องผิวหนังให้แข็งแรงขึ้น

5. ประคบน้ำแข็งบริเวณที่มีรอยแดง

ใช้ผ้าสะอาดคลุมน้ำแข็งแพ็ก แล้ววางไว้ตรงบริเวณที่เป็นสีแดงนาน 10 นาที สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับสิวที่ออกฤทธิ์หรือผื่นแดง แต่ในบางรายน้ำแข็งและความเย็นจัดสามารถกระตุ้นให้เกิดรอยแดงได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนลองใช้วิธีนี้

6. ใช้แผ่นแปะสิว

แผ่นแปะสิวนอกจากช่วยปกปิดสิวที่เป็นรอยแดงและรักษาด้วยส่วนผสมที่มีอยู่บนแปะสิว เช่น ไนอะซินาไมด์หรือกรดซาลิไซลิก จะช่วยให้สิวยุบตัวและลดริวรอยของการเกิดรอยแดงจากสิวได้

7. ใช้กรดซาลิไซลิก

การรักษาด้วยกรดซาลิไซลิกสำหรับสิวที่เกิดขึ้น ส่วนผสมนี้ยังกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวซึ่งสามารถช่วยทำให้รอยแดงจากสิวจางลง แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง

8. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

แสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญในการกระตุ้นรอยแดงจากสิวให้ชัดเจนขึ้น การทาครีมกันแดดยังช่วยปกป้องรอยแดงจากสิวจากรังสี UV และยังช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัยและมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

9. การรับประทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ

ควรรับประทานอาหารและบำรุงร่างกายด้วยอาหารต้านการอักเสบ เช่น ปลาแซลมอน อะโวคาโด ชาเขียว ถั่วเหลือง บรอกโคลี เป็นต้น วิธีนี้ไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่สามารถช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับอาการอักเสบและการเกิดรอยแดงจากสิวที่เกิดขึ้นหลังจากสิวหายได้

วิธีรักษารอยแดงจากสิวฉบับเร่งด่วน

รอยแดงจากสิวเป็นปัญหาที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการดูแลให้รอยจางลง ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงมองหาตัวช่วยฉบับเร่งด่วนเพื่อกู้คืนผิวหน้าให้กับมาเนียนใสอีกครั้ง โดยปัจจุบันมีนวัตกรรมการดูแลผิวหน้าเพื่อช่วยลดรอยแดงจากสิวที่ปลอดภัยและสามารถเห็นผลลัพท์ได้ชัดเจนหลังทำได้แก่

1. การทำทรีตเมนต์ผิวหน้า

การทำทรีตเมนต์ผิวหน้าคือการนวดกดจุดและผลักวิตามินด้วยเครื่องทำความเย็นลบ 5 องศา ซึ่งจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองบนใบหน้าทำงานได้ดีขึ้น โดยสูตรทรีตเมนต์ที่ Better Me Clinic แนะนำ ได้แก่สูตร Aloe Vera Tx เป็นสูตรว่านหางจระเข้เข้มข้น ช่วยลดรอยแดงจากสิวอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย

2. การฉีดเมโส หรือ Mesotherapy

การรักษารอยแดงจากสิวโดยวิธีการการฉีดเมโส เป็นการฉีดวิตามินต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยลดรอยแดงจากสิวและช่วยลดการอักเสบบนผิวได้ 

โดยก่อนที่จะทำการฉีดเมโสแพทย์จะเป็นผู้ประเมินผิวหน้าของคุณเพื่อให้ทราบถึงปัญหาผิวและเลือกสูตรที่เหมาะสมสำหรับสำหรับผู้ที่ปัญหารอยแดงจากสิว

3. เลเซอร์รักษารอยแดงจากสิว

วิธีการเลเซอร์รอยแดงจากสิวจะเป็นกระบวนการกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรงขึ้น การรักษาด้วยเลเซอร์นั้นแพทย์จะใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวหนังและลดการอักเสบของผิว

โดยแสงเลเซอร์จะสามารถเข้าถึงได้ตั้งแต่ผิวชั้นบน ลึกไปจนถึงผิวชั้นกลางการใช้การเลเซอร์รักษารอยแดงจากสิวจะช่วยให้รอยแดงลดลงและผิวดูกระจ่างใสขึ้น 

ทั้งนี้จำนวนและระยะเวลาของการรักษาด้วยเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิวหน้าที่เกิดขึ้น บางครั้งอาจต้องทำการรักษาซ้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

4. การทำ IPL

การทำ IPL (Intense Pulse Light) คือการใช้คลื่นแสงที่มีความเข้มสูง เข้าไปรักษาสภาพผิวหน้าและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น รอยแดงจางลงและช่วยลดความหมองคล้ำ

ทั้งนี้การใช้ IPL ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวซึ่งคอลลาเจนเป็นสารที่ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและยืดหยุ่นมากขึ้น

รักษารอยแดงจากสิวที่ไหนดี ?

การรักษาและการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาสุขภาพดีนั้นควรเลือกรักษากับคลินิกที่ได้รับมาตรฐานและรักษาโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับเรื่องรอยแดงจากสิว เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวหน้าและปัญหารอยแดงจากสิวได้อย่างตรงจุด 

Better Me Clinic by Dr.Chanya ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถสอบถามข้อสงสัยหรือปัญหาผิวหน้ากับแพทย์ได้โดยตรงเพื่อวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าของคุณ

รอยแดงจากสิวเป็นร่องรอยที่ฝากไว้หลังจากสิวหาย เราควรดูแลสุขภาพผิวหน้าเพื่อลดต้นเหตุของการเกิดสิวจะช่วยลดปัญหาการเกิดรอยดำและรอยแดงจากสิวในอนาคต แต่เมื่อใดก็ตามที่ปัญหารอยแดงจากสิวเกิดขึ้นแล้วต้องการรักษารอยแดงจากสิวฉบับเร่งด่วนสามารถสอบถามและปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya ได้เลยค่ะ

สอบถามเพิ่มเติม

โทร: 020598118, 0886032641
Line: @bettermeclinic
Facebook : Better Me Clinic by Dr.Chanya
IG : Better Me Clinic by Dr.Chanya

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง

ที่มาของข้อมูล

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ