fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดูแลยังไงให้มีปากสวยอย่างปลอดภัย

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดูแลยังไงให้มีปากสวยอย่างปลอดภัย
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดูแลยังไงให้มีปากสวยอย่างปลอดภัย

การมีริมฝีปากอวบอิ่มและปากกระจับได้รูปเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีมีริมฝีปากสวยงามตามใจหวังมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก บางคนอาจมีริมฝีปากบางเกินไปจนดูไม่สมดุลกับใบหน้า ขณะที่บางคนกลับมีริมฝีปากไม่เท่ากัน ปากหนาใหญ่ไม่ได้รูป ปากคว่ำทำให้ใบหน้าดุ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจและความสวยงาม

ทว่าในปัจจุบันมีวิธีแก้ปัญหาปากไม่ได้รูปให้ดูสวยงามขึ้นได้นั่นก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปยังริมฝีปากเพื่อเพิ่มปริมาตรและปรับรูปทรงให้สวยงามได้ดั่งใจ โดยวิธีการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มและเป็นกระจับมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาริมฝีปากไม่เท่ากันได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว ก็จำเป็นต้องรู้จักข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามดั่งใจหวัง ซึ่งวันนี้ Better Me Clinic จะพาทุกคนไปเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารต้องห้าม ข้อควรระวัง พร้อมกับรายละเอียดที่น่าสนใจ เพื่อให้ทุกคนที่อยากมีปากสวย ๆ อย่างปลอดภัยนำกลับไปใช้ดูแลตัวเองหลังทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปากคืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการใช้สารเติมเต็ม Hyaruronic Acid ฉีดเข้าไปด้านในริมฝีปากเพื่อเพิ่มปริมาตรและปรับรูปทรงให้ปากดูสวยขึ้น ซึ่งสารนี้เป็นสารธรรมชาติที่พบในร่างกายมนุษย์ มีความปลอดภัยสูงและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ

โดย Hyaruronic Acid จะทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว เมื่อฉีดลงไปที่ริมฝีปากจะทำให้ริมฝีปากมีความอวบอิ่มและชุ่มชื้น ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นของริมฝีปาก ช่วยปรับปรุงความสมมาตรของปาก ยกมุมปาก ทำให้ปากออกมาเป็นรูปทรงกระจับมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะมีความเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน

การฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม?

โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ได้มีความอันตรายอย่างที่คิด แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงต่าง ๆ ตามมาได้หากรับบริการจากคลินิกเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีความชำนาญ และใช้ฟิลเลอร์ที่ไร้คุณภาพ

ความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • การติดเชื้อ หากใช้เข็มหรืออุปกรณ์ที่ไม่สะอาด มีส่วนทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  • การอักเสบ สำหรับการเกิดอาการบวมแดง นูน เป็นก้อน และเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด มักเกิดจากการที่แพทย์ผู้ให้บริการไม่มีความชำนาญในการฉีด
  • อาการแพ้ สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ไฮยาลูโรนิกแอซิดอาจเกิดอาการแพ้หลังฉีดฟิลเลอร์ได้
  • การอุดตันของหลอดเลือด ในบางกรณีอาจเกิดการอุดตันของหลอดเลือดบริเวณที่ฉีดได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเนื้อตาย แต่ต้องบอกว่าเป็นเคสที่พบได้ยากมาก ๆ
  • การฉีดผิดตำแหน่ง หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง อาจทำให้รูปทรงริมฝีปากผิดจากที่คาดไว้ได้

วิธีลดความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • เลือกคลินิกเสริมความงามที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรอง
  • เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ปาก
  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้และโรคประจำตัวที่มี
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดหลังการฉีดฟิลเลอร์

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยเพิ่มความอวบอิ่ม รวมถึงปรับรูปทรงของริมฝีปากให้สวยงามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 

อย่างไรก็ตาม หลังฉีดฟิลเลอร์ปากก็ควรปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและมีประสิทธิภาพ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด หลังการฉีดฟิลเลอร์ปากควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดโดยตรงเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะการสัมผัสบริเวณดังกล่าวอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ได้
  • ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด การประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมและช้ำหลังการฉีดได้ โดยให้ประคบเย็นเป็นเวลา 15-20 นาที ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมงในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
  • นอนตะแคง ในช่วง 2-3 วันแรกหลังการฉีด ควรนอนตะแคงเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
  • แปรงฟันเบา ๆ โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • พบแพทย์ตามนัด ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจติดตามผลลัพธ์และรับคำแนะนำเพิ่มเติม
  • ดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดีขึ้น

ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ไม่ดึง ลอก หรือกัด เพราะเป็นการทำลายริมฝีปากซึ่งเป็นตัวช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้น
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก เนื่องจากการออกกำลังกายหนักจะทำให้หัวใจเต้นเร็วและเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือทำให้เกิดอาการบวมได้
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดสูบฉีดอย่างหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมและช้ำได้
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากการสูบบุหรี่จะทำให้แผลหายช้าลง และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  • รับประทานอาหารอ่อน ๆ หลังการฉีดในช่วงแรก ๆ เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก เพื่อเป็นการป้องกันการกระทบกระเทือนบริเวณที่ฉีด

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันถึงจะเห็นผล?

โดยทั่วไปแล้วหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากคุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังการฉีด แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติที่สุดจะปรากฏหลังจากผ่านไปแล้วประมาณ 2-3 วัน เนื่องจากในช่วงแรกหลังการฉีด อาจมีอาการบวมและช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ ยุบลงภายในไม่กี่วัน

ทั้งนี้ ระยะเวลาที่ใช้ในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น

  • ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากจะทำให้เห็นผลได้ชัดเจนกว่าการฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณน้อย
  • ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ฟิลเลอร์บางชนิดอาจมีระยะเวลาในการสลายตัวที่เร็วกว่าชนิดอื่น ๆ
  • เทคนิคการฉีดของแพทย์ แพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติ
  • การดูแลหลังการฉีด การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังการฉีด เช่น การประคบเย็นและการหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด จะช่วยลดอาการบวมและช้ำทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้เร็วขึ้น

อาหารที่ไม่ควรรับประทานหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ลาบก้อย หรือปลาแซลมอนดิบ การรับประทานอาหารเหล่านี้หลังฉีดฟิลเลอร์ปากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณที่ฉีดได้ เนื่องจากอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบอาจมีเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่
  • อาหารรสจัด โดยเฉพาะอาหารรสเผ็ดและอาหารรสเปรี้ยว จะทำให้เกิดการระคายเคืองและบวมที่ริมฝีปากได้ นอกจากนี้อาหารรสจัดยังทำให้เกิดอาการแสบร้อนและปวดบริเวณที่ฉีดด้วย
  • ของหมักดอง เช่น ปลาร้า กิมจิ ผักกาดดอง อาจมีแบคทีเรีย ดังนั้นการรับประทานอาหารหมักดองหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด
  • อาหารอุณหภูมิสูง เช่น ซุปร้อน ๆ ชาบู เนื้อย่าง โดยความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลไปบริเวณอื่นได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและบวมที่ริมฝีปากด้วย
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดสูบฉีดอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมและปวดบริเวณที่ฉีดได้ นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งส่งผลให้ริมฝีปากแห้งและลอกได้
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน คาเฟอีนจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจทำให้ริมฝีปากแห้งและลอกได้ นอกจากนี้ คาเฟอีนยังอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก

ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อาหารและเครื่องดื่มที่ยกมาข้างต้นก็ควรงดและหลีกเลี่ยงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นเวลาอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้มีเวลาในการฟื้นตัวและลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง

อาหารที่ควรรับประทานหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากอาจมีอาการบวมและอักเสบเกิดขึ้นได้ ซึ่งมักจะบรรเทาลงภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารบางชนิดสามารถช่วยลดอาการบวมและการอักเสบได้เร็วขึ้น จะมีอาหารชนิดไหนบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

  • น้ำเปล่า การดื่มน้ำเปล่าให้มากจะช่วยลดอาการบวมบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ 
  • โยเกิร์ต เป็นอาหารอ่อนที่ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวมากนัก จึงไม่เป็นการไปกระตุ้นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ นอกจากนี้โยเกิร์ตยังมีโปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดีที่ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหารและลดการอักเสบได้อีกด้วย
  • น้ำผลไม้ปั่น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมาก เพราะให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังช่วยลดอาการบวมได้ด้วย
  • ส้ม ผลไม้ตระกูลส้มอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง จึงช่วยให้ริมฝีปากหายบวมเร็วขึ้น
  • สับปะรด สับปะรดมีเอนไซม์โบรมีเลน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงช่วยลดอาการบวมและอักเสบหลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ปากจะคงอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ หากต้องการคงผลลัพธ์ไว้นาน ๆ จำเป็นจะต้องฉีดฟิลเลอร์ซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์

ทั้งนี้ ระยะเวลาของผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด เทคนิคการฉีดของแพทย์ และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน รูปทรงไม่สวย แก้อย่างไร

ปกติแล้วแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่ใต้ผิวหนังเพื่อเพิ่มปริมาตรและปั้นทรงให้กับริมฝีปาก แต่ในบางครั้งฟิลเลอร์ก็อาจจับตัวกันเป็นก้อน เช่น สัมผัสถึงก้อนแข็งใต้ผิวหนัง ริมฝีปากบวมหรืออักเสบ มีอาการปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เปลี่ยนสี 

ซึ่งอาการฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งแพทย์ผู้ฉีดไม่มีความชำนาญ ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป โดยผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่สามารถแก้ไขได้หลายวิธี ดังนี้

  • การฉีดสลายฟิลเลอร์ แพทย์จะฉีดเอนไซม์ที่ช่วยสลายฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณที่เป็นก้อน ซึ่งจะช่วยให้ฟิลเลอร์ละลายและถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกาย โดยการฉีดสลายฟิลเลอร์จะใช้ได้กับฟิลเลอร์แท้ชนิด Hyaluronic Acid เท่านั้น
  • การขูดฟิลเลอร์ จะใช้กับเคสที่ฉีดฟิลเลอร์ด้วยสารที่ไม่สามารถละลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น Hydrofilic gel หรือ Polyamine (Aqualift) โดยแพทย์จะใช้วิธีขูดออก ซึ่งอาจเอาออกได้เพียง 60-70% เท่านั้น
  • การผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก ในกรณีที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนขนาดใหญ่หรือไม่สามารถสลายได้ แพทย์อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาฟิลเลอร์ออก

ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี?

ใครที่กำลังวางแผนฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อเติมเต็มความสวยฉ่ำ ได้รูปปากตามต้องการ มาพร้อมกับมาตรฐาน ความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ Better Me Clinic คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ 

คุณหมอของเรามีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากมายหลายเคส สามารถฉีดฟิลเลอร์และปั้นรูปทรงปากให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติได้ อีกทั้งยังมีการฉีดยาชาด้วยเทคนิค Distraction technique GCT ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่เจ็บและไม่บวมช้ำแน่นอน

นอกจากนี้ทางคลินิกยังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เครื่องมือครบครัน และเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย คุณหมอพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด ใส่ใจรายละเอียดแบบเคสต่อเคส มีการประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ

หากสนใจ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่และแก้ปัญหาได้ตรงจุดอย่างแน่นอน

  • Allure, Everything You Need to Know About Lip Filler Before Making an Appointment (https://www.allure.com/story/lip-filler-injections-what-to-know), 3 March 2024
  • Cleveland Clinic, Lip Fillers (https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/22133-lip-fillers), 3 March 2024
  • Better Me Clinic By Dr. Chanya, ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี (https://bettermeclinicofficial.com/aesthetic/face-reshaping/lip-filler/), 5 มีนาคม 2567
  • HD Mall, “ฉีดฟิลเลอร์ปาก” ไม่ยุ่งยากปากอวบอิ่ม เซ็กซี่ขึ้นทันตา (https://hdmall.co.th/c/lip-fillers), 5 มีนาคม 2567

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ