ปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ลดเหนียง กรอบหน้าชัด ได้ด้วยวิธีไหน
ในปัจจุบัน ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หน้าไม่เรียว มีเหนียง แก้มย้วย แก้มห้อย สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ซึ่งมีให้เลือกหลายวิธี และเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้นแบบไม่เจ็บ และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เพื่อให้ทุกคนเลือกวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสม บทความนี้จะมาแนะนำการปรับรูปหน้าด้วยวิธีต่างๆ จะมีวิธีไหนบ้าง แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกวิธีไหนดี ตามไปอ่านกันได้เลย!
สาเหตุที่ทำให้หน้าไม่เรียว กรอบหน้าไม่ชัด
ปัญหาหน้าไม่เรียว อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- ไขมันที่สะสม ไขมันที่สะสมบริเวณแก้ม และคาง จะทำให้ใบหน้าดูใหญ่ กรอบหน้าไม่ชัด ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ที่เป็นคนแก้มป่อง กินแล้วออกแก้ม หรือพฤติกรรมชอบกินอาหารไขมันสูง ของทอด ของหวาน ทำให้ร่างกายเผาผลาญไม่หมด ทำให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณลำตัว และใบหน้าได้
- กล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่ หากเคี้ยวอาหารเหนียว แข็ง ออกแรงบดเคี้ยวเยอะๆ เป็นประจำ กล้ามเนื้อบริเวณกรามจะถูกใช้งานหนักจนขนาดใหญ่ขึ้น ใบหน้าช่วงล่างก็จะดูเหลี่ยมเหมือนไม่มีคาง หรือที่หลายคนเรียกว่าหน้าบาน ซึ่งสาเหตุนี้สามารถแก้ไขปรับรูปหน้าได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์
- กระดูกโครงหน้า คนที่กระดูกโครงหน้า หรือกระดูกขากรรไกรใหญ่ ใบหน้าโดยรวมก็จะดูใหญ่ไปด้วย เป็นลักษณะทางกรรมพันธุ์ที่พบได้บ่อยในคนเอเชีย สามารถแก้ไขปรับรูปหน้าได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
- อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนในผิวจะเสื่อมสภาพ ปริมาณไขมันใต้ผิวลดลง รวมถึงมีการทรุดตัวของกระดูก ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ แก้มห้อย รูปหน้าเปลี่ยนไป ไม่เรียวเหมือนก่อน
การปรับรูปหน้า คืออะไร
การปรับรูปหน้า คือการแก้ไขลักษณะของใบหน้าให้ดูสมส่วน เรียวสวยเป็นวีเชฟ ซึ่งปัจจุบัน การปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรมสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่ปัญหาของแต่ละคน เช่น หน้าบาน คางสั้น แก้มห้อย แก้มเยอะ โหนกแก้มใหญ่ มีเหนียง ใบหน้าไม่สมมาตร เป็นต้น
ใครที่เหมาะจะปรับรูปหน้า
คนที่เหมาะจะปรับรูปหน้า คือคนที่มีความกังวลใจเกี่ยวกับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน หน้าเหลี่ยมจากกรรมพันธุ์ ปัญหาแก้มห้อยย้อย ขมับตอบ ผิวไม่กระชับ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น หรือมีไขมันสะสมบริเวณแก้ม และคางเยอะจนทำให้หน้าดูไม่เรียว กรอบหน้าไม่ชัด ก็สามารถปรับรูปหน้าได้โดยไม่ต้องศัลยกรรม
รวม 8 วิธีปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม
การปรับรูปหน้าควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหา และโครงหน้าของแต่ละคน ซึ่งจะมีวิธีการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรมที่ทำได้หลายวิธี ดังนี้
1. ปรับรูปหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์
การปรับรูปหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปเติมเต็มจุดบกพร่อง เช่น ขมับ หน้าผาก แก้ม คาง และปรับโครงสร้างใบหน้าให้ได้สัดส่วน ดูมีมิติขึ้น
โดยวิธีนี้เป็นวิธีการปรับรูปหน้าสำหรับคนมีปัญหาหน้ากลม คางสั้น เมื่อฉีดฟิลเลอร์ให้คางยาวขึ้น ใบหน้าก็จะดูเรียวขึ้นด้วย หรือคนที่กระดูกโครงหน้าใหญ่ โหนกแก้มชัด ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อลบเหลี่ยมมุม เติมส่วนที่ลึกให้เต็ม จะช่วยให้ใบหน้าดูละมุนขึ้นได้
- ข้อดี แก้ไขตรงจุด แม่นยำ โอกาสแพ้น้อย เพราะเป็นสารที่ใกล้เคียงกับไฮยาลูรอนิกในร่างกาย สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้าง และฉีดสลายได้หากต้องการเอาออก
- ข้อจำกัด ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และการดูแลตัวเองหลังฉีด
2. ปรับรูปหน้าด้วยการร้อยไหม
การปรับรูปหน้าด้วยการร้อยไหม คือการใช้ไหมร้อยเป็นแนว ตั้งแต่บริเวณแก้มไปถึงขมับ เพื่อดึงผิวที่หย่อนให้กระชับ ทำให้หน้าเรียวเป็นวีเชฟ และมีกรอบหน้าที่ชัดขึ้น
ไหมที่ใช้จะเป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงอยู่รอบๆ เหมือนก้างปลา เมื่อร้อยเข้าไปใต้ผิวก็จะไปเกาะกับเนื้อเยื่อ และเกี่ยวดึงผิวให้ยกขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิวด้วย จึงทำให้หน้าเรียว ผิวอิ่มฟู ดูกระชับ และอ่อนเยาว์ลง
- ข้อดี ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยได้ดี เห็นผลเร็ว ไหมละลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย
- ข้อจำกัด ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไขมันเยอะ จะทำให้เนื้อแก้มขึ้นไปกองด้านบน แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันก่อน แล้วค่อยร้อยไหมเพิ่มความกระชับ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า
3. ปรับรูปหน้าด้วยการโบท็อกซ์
การปรับรูปหน้าด้วยการฉีดโบท็อกซ์ คือการฉีดสาร Botulinum Toxin เพื่อให้กล้ามเนื้อเล็กลง ได้ผลดีกับคนที่กล้ามเนื้อกรามใหญ่ เนื่องมาจากการออกแรงบดเคี้ยวเยอะ นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาคนที่ใบหน้าไม่เท่ากัน เพราะชอบเคี้ยวข้างเดียว ทำให้ใบหน้ากลับมาสมดุลเท่ากันทั้งสองข้าง
โดยโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว พอกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง ขนาดก็จะเล็กลงตามไปด้วย ใบหน้าก็จะดูเรียวขึ้น
- ข้อดี เป็นวิธีการรักษาที่ส่งผลกับการกล้ามเนื้อโดยตรง สะดวก เห็นผลเร็ว หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ข้อจำกัด ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน จึงต้องกลับมาฉีดซ้ำ แต่ถ้าหากทำต่อเนื่อง กล้ามเนื้อจะกลับมาทำงานได้ยากขึ้น และทำให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้นด้วย
4. ปรับรูปหน้าด้วยการฉีดเมโสแฟต
การปรับรูปหน้าด้วยการฉีดเมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปเร่งกระบวนการสลายไขมัน ทำให้ปริมาณไขมันลดลง ผิวกระชับขึ้น จึงเหมาะสำหรับคนที่มีไขมันสะสมเยอะ โดยเฉพาะบริเวณแก้ม และเหนียง
หลักการทำงานของตัวยาเมโสแฟต คือการเข้าไปกระตุ้นให้ไขมันที่จับตัวเป็นก้อนแตกตัว และถูกกำจัดออกไปตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย เมื่อไขมันลดลง ก็จะช่วยให้แก้มเล็กลง ใต้คางกระชับขึ้น
- ข้อดี เป็นการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรมที่ใช้เวลาน้อย ได้ผลเร็ว สลายไขมันเฉพาะจุดได้ดี ราคาไม่แพง
- ข้อจำกัด หากมีไขมันสะสมเยอะ อาจต้องฉีดมากกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
5. ปรับรูปหน้าด้วย Ulthera SPT
Ulthera SPT เป็นนวัตกรรมที่ส่งพลังงานลงไปใต้ผิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกระชับ กรอบหน้าชัดเจนขึ้น ใบหน้าดูเรียวเข้ารูป ริ้วรอยลดลง สามารถทำได้ทั่วใบหน้า หรือทำเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง ใต้คาง หางตา กรอบหน้า และลำคอ
โดยเครื่อง Ulthera SPT จะส่งคลื่นเสียงความถี่สูง Micro-Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V) ลงไปยังผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ผ่าตัดดึงหน้า พลังงานจะทำให้ผิวหดกระชับ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นขึ้น ไม่หย่อนคล้อย จึงช่วยปรับรูปหน้าได้โดยไม่ต้องศัลยกรรม อีกทั้งยังช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ผิวดูเนียนใสขึ้นด้วย
- ข้อดี เป็นการปรับรูปหน้าที่ไม่เจ็บ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องฉีดสารใดๆ เข้าร่างกาย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ มีจอแสดงความลึกของชั้นผิวขณะทำ ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น
- ข้อจำกัด ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำ แต่สามารถทำซ้ำได้เรื่อยๆ โดยไม่เป็นอันตราย
6. ปรับรูปหน้าด้วย Thermage FLX
Thermage FLX เป็นเครื่องมือที่ช่วยปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม แต่อาศัยการส่งพลังงานลงไปสลายไขมัน ทำให้ผิวแน่นกระชับ ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก จึงเหมาะสำหรับคนที่หน้าบาน แก้มเยอะ แก้มย้วย แก้มห้อย เนื่องจากมีไขมันสะสมเยอะ
มีการทำงานโดยการปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ลงไปยังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน ในลักษณะเป็นกลุ่มก้อน ทำให้เกิดความร้อนที่ไปสลายไขมันส่วนเกิน กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน แก้ม และเหนียงจึงดูเล็กลง ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย กรอบหน้าก็จะดูชัดขึ้น
- ข้อดี ช่วยสลายไขมัน และยกกระชับผิว เจ็บน้อย ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถแต่งหน้าได้เลย
- ข้อจำกัด ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าตอบ หรือไขมันบริเวณหน้าน้อยมากๆ แนะนำให้ทำ Ulthera SPT หรือ Morpheus Pro จะได้ผลดีกว่า
7. ปรับรูปหน้าด้วย Morpheus Pro
อีกหนึ่งวิธีปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรมคือการทำ Morpheus Pro ซึ่งจะส่งพลังงานผ่านเข็มเข้าไปช่วยปรับรูปหน้า ยกกระชับ และเพิ่มความแข็งแรงของผิวชั้นหนังแท้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดริ้วรอย รักษาหลุมสิว กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่เหี่ยว โดยสามารถทำได้ทั้งใบหน้า และลำตัวเลย
ลักษณะการทำงานของ Morpheus Pro จะต่างจากเครื่องอื่น ตรงที่เป็นการส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุผ่าน Micropin ซึ่งเป็นเข็มขนาดเล็กมากๆ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ในผิวชั้นหนังแท้ และหดไขมันใต้ผิว ใบหน้าจะดูเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ข้อดี เข็มเล็กมากจึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ ได้ผลดีในผิวชั้นตื้น แก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย เพราะสามารถส่งพลังงานลงไปได้หลายระดับ ตั้งแต่ชั้นหนังแท้จนถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- ข้อจำกัด ผิวอาจมีสะเก็ดบางๆ หลังทำ แต่จะหลุดไปเอง และโอกาสเกิดรอยดำน้อย หากไม่ไปแกะ หรือเกา
8. ปรับรูปหน้าด้วย Ultraformer III
หลักการทำงานของ Ultraformer III ค่อนข้างใกล้เคียงกับ Ulthera SPT โดยจะส่งพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ความถี่สูงลงไปใต้ผิว ช่วยลดเหนียง ยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย เก็บกรอบหน้าให้คมชัด รวมถึงเก็บริ้วรอยบริเวณพื้นที่เล็กๆ เช่น รอบดวงตา ทั้งยังช่วยกระชับสัดส่วนบริเวณลำตัวให้มีรูปร่างเฟิร์มขึ้นได้อีกด้วย
จุดที่แตกต่างคือพลังงานของเครื่อง Ultraformer III จะใช้เทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) และขนาดของพลังงานที่เล็กกว่า ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่า แต่ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้สั้นกว่าเช่นกัน
- ข้อดี ช่วยปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ไม่เจ็บ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลมากกว่า HIFU ถึง 5 เท่า ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการทำ Ulthera SPT แต่ราคาถูกกว่า
- ข้อจำกัด ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน ซึ่งหากเทียบกับเครื่องอื่นๆ จะมีระยะเวลาที่สั้นกว่า
การเตรียมตัวก่อนปรับรูปหน้า
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
- งดกิจกรรมกลางแจ้งที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
- งดกินยา วิตามิน อาหารเสริม หรือยาละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดขัด หรือสครับผิว ในบริเวณที่ต้องการรักษา
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรมกับ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร
- คุณหมอมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมมายาวนาน 8 ปี มากกว่า 10,000 เคส
- คุณหมอเป็นอาจารย์สอนหลักสูตรการอบรมด้านเวชศาสตร์ความงามจากองค์กร ABAM จากอเมริกา คนเดียวในไทย
- เทคนิคใหม่แบบ Better Me คลินิกเน้นการออกแบบที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้าของคนไข้ด้วยเทคนิคเฉพาะจากประเทศเกาหลี
- เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย คุณหมอทุกท่านให้ความสำคัญกับคนไข้ทุกเคส
- คลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน พร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- Better Me Club มีการบริการด้วยหัวใจหลังศัลยกรรม หรือทำหัตถการ ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
- เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและสวยที่สุดในราคาที่จับต้องได้
สรุป
การปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาใบหน้าไม่มาก และต้องการเน้นแก้ไขเฉพาะจุด โดยสามารถเลือกวิธีให้ตรงตามความต้องการได้ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหม ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดเมโสแฟต หรือการปรับรูปหน้าด้วยการทำ Ulthera SPT, Thermage FLX, Morpheus Pro หรือ Ultraformer III ซึ่งที่ Better Me Clinic มีบริการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรมหลากหลายวิธี ที่ให้ผลลัพธ์การปรับรูปหน้าได้ยาวนาน โดยจะมีแพทย์ผู้ชำนาญช่วยประเมิน และเลือกวิธีที่เหมาะที่สุด เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนไข้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม (FAQ)
เมื่อได้ทราบถึงสาเหตุ และวิธีการปรับรูปหน้าแบบต่างๆ ไปแล้ว บทความนี้ยังได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรมมาไขข้อข้องใจ เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับบริการด้วย