Radiesse ช่วยอะไร ฟิลเลอร์ยกกระชับ เติมผิวอิ่มฟู ใครควรฉีดบ้าง?
Key Takeaway
- Radiesse คือฟิลเลอร์รุ่นใหม่ที่เติมเต็มร่องลึก ยกกระชับหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว มี 2 ประเภทหลักคือ Radiesse สำหรับเติมเต็มทั่วไป และ Radiesse (+) ที่
- ออกแบบเฉพาะสำหรับการปรับรูปหน้าและยกกระชับมากขึ้น
- Belotero Revive เหมาะกับผู้ที่ต้องการ ฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ลดริ้วรอยเล็ก และปรับผิวเรียบเนียน โดยไม่เน้นการปรับโครงสร้างใบหน้า เหมาะกับผู้เริ่มมีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย
- Radiesse ช่วยเติมเต็มร่องลึก ยกกระชับหน้า กระตุ้นคอลลาเจน ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ทำให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู และดูอ่อนเยาว์แลดูธรรมชาติ
- คุณสมบัติเด่นของ Radiesse คือมีอนุภาค CaHA ที่ช่วยทั้งเติมเต็มร่องลึกและฟื้นบำรุงผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ผลลัพธ์ ยาวนาน ปรับรูปหน้าได้ และดูเป็นธรรมชาติ
อยากคืนผิวกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ และริ้วรอยลดลงโดยไม่ต้องผ่าตัด Radiesse ฟิลเลอร์ที่ไม่เพียงเติมเต็ม แต่ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนและยกกระชับดูเป็นธรรมชาติ เผยผิวสวยมั่นใจในทุกมุมมอง บทความนี้จะพามารู้จักกับ Radiesse กันให้มากขึ้นว่านวัตกรรมเสริมความงามตัวนี้ดีอย่างไร เหมาะกับใคร ทำไมถึงดีกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป มาหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
Radiesse คืออะไร ทำไมเป็นมากกว่าแค่ฟิลเลอร์?
Radiesse คือสารเติมเต็มที่ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีส่วนประกอบหลักคือ Calcium Hydroxylapatite microsphere (CaHA) มีลักษณะเป็นโมเลกุลทรงกลมขนาดสม่ำเสมอ ส่งผลให้การฟื้นบำรุงการทำงานของ Fibroblast เห็นผลได้อย่างชัดเจน
นวัตกรรมนี้จัดเป็นหนึ่งในตัวเลือกความงามที่มาแรง โดดเด่นกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปเพราะให้ผลลัพธ์ยาวนานในลักษณะกึ่งถาวร สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า ช่วยลดปัญหาร่องริ้วรอยตั้งแต่ระดับปานกลางจนถึงลึก และช่วยให้ผิวตึงกระชับ
Radiesse ทำงานอย่างไร?
เมื่อฉีด Radiesse เข้าสู่ชั้นผิว เนื้อเจลที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอยและร่องลึกให้ดูเต็มขึ้นทันที จากนั้นอนุภาค CaHA จะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างโครงสร้าง Scaffold หรือโครงตาข่ายภายในชั้นผิวหนังแท้ โครงสร้างนี้ช่วยทำหน้าที่เป็นแรงพยุงให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับมากขึ้น
เมื่อผิวได้รับแรงพยุงอย่างเหมาะสม จึงเกิดกระบวนการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ส่งผลให้มีการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดหลังการฉีดคือผิวที่เรียบเนียน กระชับขึ้น
Radiesse มีข้อดีอะไรบ้าง?
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่เพียงเติมเต็มร่องลึกเท่านั้น ไปดูกันว่ายังมีข้อดีอะไรอีกบ้าง
- เติมเต็มร่องลึกและริ้วรอย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน
- ยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อยและปรับโครงหน้าให้สมดุล
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ฟื้นบำรุงโครงสร้างผิวจากภายใน
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่น ปรับเข้ากับผิวได้ดี
- ฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น อิ่มฟู และอ่อนเยาว์ เห็นผลทั้งการเติมเต็มและฟื้นบำรุง
Radiesse ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์แลดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนาน
- เติมเต็มริ้วรอยลึก ทำให้ร่องลึกแลดูเต็มขึ้นทันที
- ยกกระชับหน้า ผิวดูตึง กระชับขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นบำรุงโครงสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายใน
- ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย เน้นสัดส่วนหน้าได้อย่างสมดุล
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ผิวเรียบเนียน ดูสดใส ไม่แข็งหรือตึงเกินไป
- ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น
Radiesse มีกี่แบบ?
Radiesse มีให้เลือกใช้หลายประเภท โดยแต่ละแบบถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวและรูปหน้าที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านการเติมเต็ม ริ้วรอย และการกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคล
Radiesse
Radiesse แบบมาตรฐานเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีเนื้อเจลที่ยืดหยุ่นและกระจายตัวได้ดี เติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยบนใบหน้าได้ นอกจากนี้ Radiesse ยังทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายในอย่างต่อเนื่อง เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ผิวเรียบเนียน กระชับ และดูอ่อนเยาว์โดยไม่ทำให้หน้าดูแข็งหรือตึงเกินไป
Radiesse (+)
Radiesse (+) เป็นรุ่นพัฒนาต่อยอดจาก Radiesse แบบมาตรฐาน โดยมีอนุภาค CaHA ที่ละเอียดและเล็กลง ทำให้เหมาะกับการปรับรูปหน้าและยกกระชับในจุดที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น โหนกแก้ม คาง หรือกรอบหน้า รุ่นนี้ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนมากขึ้น ทำให้ผิวตึงกระชับ ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนทั้งด้านการปรับรูปหน้าและการฟื้นบำรุงผิวให้เรียวสวย กระชับ และดูอ่อนเยาว์ในระยะยาว
จุดเด่น Radiesse นวัตกรรมใหม่เพื่อผิวอ่อนเยาว์
จุดเด่นของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Radiesse คือให้ผลลัพธ์ยาวนาน เติมเต็มริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวกลับมาดูกระชับและเรียบเนียนแลดูธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติของอนุภาค CaHA ที่มีความเข้ากันได้ดีกับร่างกายและสามารถย่อยสลายเองตามธรรมชาติ จึงสามารถยกกระชับและปรับรูปหน้าได้ดี ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี และให้สัดส่วนที่สมดุลอย่างยาวนาน
Radiesse เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีริ้วรอยลึก ช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ผิวเรียบเนียน
- ผู้ที่แก้มตอบหรือหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับใบหน้า ให้ดูเต็มและมีมิติ
- ผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้า เน้นการปรับสัดส่วนโหนกแก้ม คาง และกรอบหน้าอย่างแม่นยำ
- ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้น
- ผู้ที่อยากดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นทางเลือกเจ็บน้อย และระยะพักฟื้นน้อย
- ผู้ที่อยากเติมเต็มริ้วรอยเฉพาะจุด สามารถลดปัญหาเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ
Radiesse ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่แพ้สารเติมเต็มหรือส่วนประกอบของ Radiesse อาจเกิดอาการแพ้รุนแรง
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังติดเชื้อหรืออักเสบรุนแรงบริเวณที่จะฉีด เสี่ยงต่อการติดเชื้อและแผลอักเสบ
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ไม่มีงานวิจัยยืนยันความปลอดภัยในกลุ่มนี้
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่ายหรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด เสี่ยงต่อการช้ำหรือบวมมากหลังฉีด
- ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติรุนแรง อาจเกิดปัญหาการตอบสนองต่อสารเติมเต็ม
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท ต้องทานยาประจำ
Radiesse ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถปรับรูปหน้าและเติมเต็มริ้วรอยได้หลายจุดบนร่างกาย ไม่เพียงแต่ใบหน้าเท่านั้น แต่ยังใช้ฟื้นบำรุงผิวบริเวณอื่นๆ ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือขาดความยืดหยุ่นได้อีกด้วย ไปดูกันว่ามีบริเวณไหนบ้างที่ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ได้
- ร่องแก้ม เติมเต็มร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันที
- แก้มตอบ แก้มหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับ เติมเต็มแก้มให้ดูเต็มมีมิติ
- กรอบหน้า ขากรรไกร ปรับสัดส่วนให้กรอบหน้าเรียวชัดเจน
- คาง เพิ่มมิติและปรับรูปหน้าให้สมดุล
- ใต้ตา ร่องน้ำตา ลดความลึกของร่องใต้ตา ให้ดวงตาดูสดใส
- มือ เติมเต็มผิวมือให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
Radiesse กับหัตถการผิวแบบอื่น ต่างกันอย่างไร?
Radiesse เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกและยกกระชับหน้า ด้วยอนุภาค CaHA ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วน Sculptra, Gouri, Rejuran, Exosome และ Skin Booster เหมาะกับการฟื้นบำรุงผิว กระตุ้นคอลลาเจน และลดปัญหาริ้วรอยเล็ก
ไปเจาะลึกกันว่าหัตถการแต่ละประเภทกันว่าต่างจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Radiesse อย่างไรบ้าง
Sculptra
Sculptra เป็นฟิลเลอร์ชนิดละลายได้ ทำจาก Poly-L-lactic acid (PLLA) มีคุณสมบัติเด่นในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวฟื้นบำรุงจากภายในอย่างต่อเนื่อง แตกต่างจาก Radiesse ที่เน้นเติมเต็มร่องลึกและยกกระชับทันที Sculptra จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไป และผิวแน่นขึ้นระยะยาว
Gouri
Gouri เป็นหัตถการฟื้นบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจน โดยมุ่งเน้นการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยตื้นๆ และฟื้นบำรุงความยืดหยุ่นของผิว แตกต่างจาก Radiesse ที่สามารถเติมเต็มริ้วรอยลึกและยกกระชับรูปหน้าได้ Gouri จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวใส สุขภาพดี และดูเนียนละเอียด
Rejuran
Rejuran เป็นการฉีดสารพอลิเมอร์จาก DNA ของปลา (Polynucleotide: PN) เพื่อฟื้นบำรุงโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ แตกต่างจาก Radiesse ที่เน้นยกกระชับและเติมเต็มร่องลึก Rejuran เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยเล็ก และผิวสุขภาพดีจากภายใน
Exosome
Exosome เป็นหัตถการที่ใช้สารสกัดจากสารชีวโมเลกุลที่สำคัญต่อผิวกว่า 1,000 ชนิด โดยมีอนุภาคเล็กมาก เพื่อฟื้นบำรุงและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นของผิว แตกต่างจาก Radiesse ที่ให้ผลลัพธ์การยกกระชับและปรับรูปหน้า Exosome จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวใส ลดริ้วรอยเล็ก และฟื้นบำรุงสุขภาพผิวโดยรวม
Skin Bootster
Skin Booster เป็นการฉีดสารเติมความชุ่มชื้นและวิตามินเข้มข้นเข้าใต้ผิว เพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน เพิ่มความยืดหยุ่น ลดร่องเล็กและความแห้งกร้าน แตกต่างจาก Radiesse ที่เน้นเติมเต็มและยกกระชับ Skin Booster เหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวฉ่ำวาว สุขภาพดี และริ้วรอยเล็กลดลงแลดูธรรมชาติ
การเตรียมตัวก่อน-หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Radiesse
การเตรียมตัวก่อนฉีด Radiesse
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- งดทานยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวอย่างพวกกลุ่มยาแอสไพริน อาหารเสริมกลุ่มกิงโกะ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้าหลังทำการฉีด Radiesse ช่วงเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อน โดยเฉพาะบริเวณที่มีอาการบวมแดง
การดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse
- ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้
- ดื่มน้ำให้มากๆ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารหน้าเตา เช่น หมูกระทะ ชาบู
- สังเกตอาการหลังฉีดอย่างใกล้ชิด หากผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ข้อควรรู้! ก่อนตัดสินใจฉีด Radiesse
- ความเสี่ยงการติดเชื้อ อาจเกิดได้หากฉีดกับสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐานหรือแพทย์มีประสบการณ์น้อย
- การทำ CT Scans หรือ X-ray ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีด เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดผลข้างเคียงได้
- หลีกเลี่ยงการฉีดบริเวณใต้ตาและริมฝีปาก บริเวณเหล่านี้เสี่ยงต่อผลข้างเคียงสูง
- อาการบวมแดงหลังฉีด เป็นเรื่องปกติ แต่ควร
- หลีกเลี่ยงการตากแดดหรืออยู่กลางแจ้งนานๆ ประมาณ 24 ชั่วโมง
- ผู้ที่เป็นโรคเริม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร?
เน้นการออกแบบ 1:1 เคสต่อเคส ให้เหมาะกับโครงหน้าและปัญหาของแต่ละคน ด้วยเทคนิคเฉพาะ Better Me Analysis Program
รู้สึกเจ็บน้อยและบวมช้ำน้อย เพราะทีมแพทย์ทุกท่านใส่ใจในทุกรายละเอียดและให้ความสำคัญกับทุกเคสอย่างใกล้ชิด
คลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีรองมาตรฐาน พร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ
Better Me Club มีการบริการด้วยหัวใจ พร้อมดูแลหลังการทำศัลยกรรมและหัตถการอย่างใกล้ชิด ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับสมาชิกคนพิเศษ
เปลี่ยนเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและความสวยในราคาที่จับต้องได้
รีวิวก่อนและหลังฉีด Radiesse ที่ Better Me Clinic
Radiesse คือนวัตกรรมฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มและฟื้นบำรุงผิวที่เสื่อมสภาพ ช่วยลดปัญหาร่องริ้วรอยและปรับให้ผิวเรียบเนียนแลดูเป็นธรรมชาติ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยยกกระชับใบหน้า ทำให้โครงหน้าดูชัดขึ้นและสมดุล ทั้งยังใช้ได้หลายบริเวณ ทั้งใบหน้าและร่างกาย เช่น ผิวคอ ผิวมือ ผิวแขน หรือขา เพื่อฟื้นบำรุงผิวให้เรียบเนียนและลดเลือนริ้วรอย ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ Radiesse จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ทั้งความงามและการฟื้นบำรุงผิวในเวลาเดียวกัน
สำหรับใครที่สนใจอยาก เติมเต็มร่องลึก ยกกระชับหน้า และปรับรูปหน้าให้สมดุล ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ Better Me Clinic เราให้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Radiesse โดยออกแบบการรักษาแบบ 1:1 ให้เหมาะกับโครงหน้าและปัญหาของแต่ละคน ด้วยเทคนิค Better Me Analysis Program บวมช้ำน้อย ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย และดูแลหลังทำอย่างใกล้ชิดผ่าน Better Me Club เพื่อให้คุณสวยและมั่นใจ!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Better Me Clinic ได้รวมข้อสงสัยที่พบบ่อยพร้อมคำตอบมาให้ศึกษาเพื่อเข้าใจโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Rediesse ให้มากขึ้น
Radiesse กับ ฟิลเลอร์ เหมือนกันไหม?
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ชนิดหนึ่ง แต่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปตรงที่ประกอบด้วยอนุภาค CaHA ซึ่งนอกจากเติมเต็มริ้วรอยแล้วยัง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวฟื้นบำรุงจากภายใน ฟิลเลอร์ทั่วไปส่วนใหญ่เน้นแค่เติมเต็มเฉพาะจุดโดยไม่ฟื้นบำรุงโครงสร้างผิว
Radiesse รักษาหลุมสิวได้ไหม?
Radiesse สามารถช่วยเติมเต็มหลุมสิวตื้นถึงระดับกลาง ให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่สำหรับหลุมสิวลึกหรือผิวที่เสื่อมสภาพมาก อาจต้องใช้ร่วมกับหัตถการอื่น เช่น เลเซอร์ ฟิลเลอร์ชนิดอื่น หรือการทำ PRP เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ฉีด Radiesse กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน ควรฉีดซ้ำเมื่อไร?
เริ่มเห็นหลังฉีด โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน และขึ้นอยู่กับตำแหน่งฉีดและสภาพผิว เมื่อผลลัพธ์เริ่มลดลงหรือผิวหย่อนคล้อย สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการฉีดซ้ำได้
ฉีด Radiesse ปลอดภัยไหม?
การฉีด Radiesse ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ผลข้างเคียงส่วนใหญ่เป็น บวมแดง ช้ำเล็กน้อย และหายได้เองภายในไม่กี่วัน แต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณริมฝีปากและใต้ตา