Sculptra ตัวช่วยฟื้นบำรุงคอลลาเจน ให้ผิวเด้งดูอ่อนเยาว์สุขภาพดี
Key Takeaway
- Sculptra เป็นสารเติมเต็มชนิดละลายได้เอง ทำจาก Poly-L-lactic acid ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียนและเต่งตึง
- Sculptra ช่วยแเรื่องแก้มตอบ แก้มยุบ ร่องลึก และผิวหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟูขึ้น พร้อมปรับรูปหน้าดูอ่อนเยาว์
- สามารถทำ Sculptra ได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น แก้ม ขมับ กรอบหน้า แนวกราม และบางเคสบริเวณใต้ตา เพื่อปรับโครงสร้างและเติมเต็มความอิ่มฟู
- ผลลัพธ์การทำ Sculptra เริ่มเห็นประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังฉีดชัดเจนภายใน 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 18-24 เดือน แพทย์มักแนะนำให้ฉีด 3-4 ครั้งต่อคอร์ส เว้นระยะ 4-6 สัปดาห์ต่อครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Sculptra คือหนึ่งในนวัตกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ เพราะเป็นตัวช่วยฟื้นบำรุงคอลลาเจนใต้ผิวหนังอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวกลับมาเด้ง กระชับ และดูอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอย ลดความหย่อนคล้อย พร้อมเผยผิวสุขภาพดีที่ใครเห็นก็หลงรัก แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า Sculptra คืออะไร ใช้แล้วปลอดภัยหรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยและแนะนำทุกเรื่องที่ควรรู้ เพื่อผิวสวยสุขภาพดีอย่างยาวนาน!
ทำความรู้จัก Sculptra คืออะไร?
Sculptra เป็นสารเติมเต็มประเภทหนึ่งที่มีส่วนประกอบหลักคือ Poly-L-lactic acid (PLLA) ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวหน้ายกกระชับ เรียบเนียน และดูเต็มขึ้น ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่เติมเต็มทันที Sculptra จะค่อยๆ ทำงานผ่านการกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์ดูนุ่มนวลและคงทนยาวนาน โดยเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยลึก หรือเติมเต็มร่องลึกโดยไม่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูฉับพลันเกินไป
โดย Sculptra เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ร่องลึกบริเวณแก้ม ร่องใต้ตา หรือขมับที่ยุบตัวไปตามวัย อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยไม่อยากได้ผลลัพธ์ที่ดูตึงหรือแข็งเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไป
กลไกการกระตุ้นคอลลาเจนของ Sculptra
กลไกการกระตุ้นคอลลาเจนของ Sculptra เกิดจากการที่สาร Poly-L-lactic acid (PLLA) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของ Sculptra ถูกฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังใต้ชั้นผิวหนังชั้นบน ร่างกายจะรับรู้ว่าเป็น “สิ่งแปลกปลอม” ในระดับที่ปลอดภัย จึงเกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อขึ้น โดยเซลล์ไฟโบรบลาสต์จะถูกกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนชนิด I และ III ขึ้นมาทดแทนบริเวณที่ผิวหย่อนคล้อยหรือร่องลึก
คอลลาเจนที่สร้างขึ้นนี้จะช่วยเสริมโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแน่นขึ้น เรียบเนียน และเติมเต็มร่องลึก กระบวนการนี้เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ผลลัพธ์จาก Sculptra เริ่มเห็นชัดหลังทำประมาณ 4-6 สัปดาห์ และสามารถอยู่ได้นานหลายเดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง
Sculptra ช่วยอะไรบ้าง?
หลายๆ คนสงสัยว่า sculptra ช่วยอะไรบ้าง? Sculptra ช่วยฟื้นบำรุงผิวและปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ ไม่ใช่เพียงการเติมเต็มชั่วคราว แต่ช่วยกระตุ้นผิวให้สร้างคอลลาเจนเอง ไปดูกันว่า Sculptra ช่วยอะไรบ้าง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว Sculptra ช่วยกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจนชนิด I และ III ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้นและลดการหย่อนคล้อย
- เติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก ร่องแก้ม ร่องใต้ตา หรือบริเวณที่ผิวยุบตัวจะดูเต็มขึ้น โดยไม่ทำให้หน้าตึงหรือแข็ง
- เพิ่มความหนาและความแน่นของผิว ผิวที่บางหรือหย่อนคล้อยจะกลับมามีความหนาและความยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและเรียบเนียน
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ผลลัพธ์จาก Sculptra จะค่อยๆ ปรับให้ผิวเรียบเนียนและกระชับขึ้น เริ่มเห็นชัดหลัง 4-6 สัปดาห์ และอยู่ได้นาน 18-24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง
Sculptra มีข้อดีและข้อจำกัดอะไรบ้าง?
Sculptra เป็นสารเติมเต็มที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะเน้นการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนเอง ทำให้ผลลัพธ์ยาวนานและเป็นที่พึงพอใจ แต่การใช้งานก็มีข้อควรระวังบางประการ ควรทำความเข้าใจข้อดีและข้อจำกัดให้ชัดเจน
ข้อดีของ Sculptra
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่เติมเต็มทันทีเหมือนฟิลเลอร์ แต่กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนเอง ทำให้ใบหน้าดูเรียว กระชับ แลดูอ่อนเยาว์
- อยู่ได้นาน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง
- ฟื้นบำรุงผิวจากภายใน ช่วยเพิ่มความหนาและความแน่นของผิว ลดริ้วรอยและร่องลึก ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสุขภาพดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงจากหน้าตึงหรือแข็ง เพราะไม่เป็นสารเติมเต็มทันที จึงไม่ทำให้หน้าดูตึงหรือแข็งเกินไป
ข้อจำกัดของ Sculptra
- ผลลัพธ์ไม่เห็นทันที ต้องใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และอาจต้องฉีดหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์เต็มที่
- ต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ การฉีดผิดวิธีอาจทำให้เกิดก้อนหรือไม่เรียบเนียน จึงควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์
- ไม่เหมาะกับทุกบริเวณ Sculptra เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกหรือปรับรูปหน้า ไม่เหมาะกับการฉีดจุดเล็กๆ หรือเพื่อเพิ่มปริมาตรทันทีแบบฟิลเลอร์ทั่วไป
- ค่าใช้จ่ายสูงกว่าฟิลเลอร์บางชนิด เนื่องจากเป็นการรักษาที่ผลลัพธ์อยู่ได้นานและต้องใช้เทคนิคพิเศษ
Sculptra เหมาะกับใครบ้าง?
แม้ Sculptra จะช่วยฟื้นบำรุงผิวและปรับรูปหน้าได้เข้ารูปและเหมาะสม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับทุกคน เช่น ผู้ที่มีปัญหาผิวรุนแรงหรือแพ้สารใน Sculptra รวมถึงผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ทันทีเพียงครั้งเดียว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด ไปดูกันว่า Sculptra เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยและร่องลึกจากวัย เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา หรือบริเวณขมับที่ยุบตัว Sculptra จะช่วยเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่นขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปให้สมดุล คนที่อยากให้ใบหน้าดูเรียว กระชับ โดยไม่ต้องการหน้าตึงหรือแข็งเหมือนการฉีดฟิลเลอร์แบบทันที
- ผู้ที่มีผิวบางหรือหย่อนคล้อย Sculptra ช่วยเพิ่มความหนาและความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและเรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนาน เหมาะกับคนที่อยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายเดือนถึง 2 ปี โดยไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย
- ผู้ที่พร้อมดูแลหลังฉีดตามคำแนะนำแพทย์ เพราะผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง เช่น การนวดบริเวณที่ฉีดและการหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
Sculptra ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
Sculptra สามารถใช้เติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจนในหลายจุดของร่างกายที่สูญเสียปริมาตรหรือหย่อนคล้อย ผลลัพธ์จะช่วยให้ผิวแน่น และเรียบเนียน โดยบริเวณที่ทำ Sculptra ได้มีตรงไหนบ้าง!
- แก้มตอบ แก้มยุบ เติมเต็มบริเวณแก้มที่ยุบตัว ช่วยให้หน้าดูอิ่มและเรียวขึ้นอย่างสมดุล
- ขมับ ช่วยเติมเต็มส่วนขมับที่ยุบ ทำให้หน้าดูสมดุลและไม่ตอบ
- กรอบหน้า แนวกราม ปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น กระชับกรอบหน้าและลดความหย่อนคล้อย
- ใต้ตา (ในบางเคส) เติมเต็มร่องใต้ตาที่ยุบตัว ช่วยลดความเหนื่อยล้าและทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
- ร่องแก้ม มาริโอเน็ตไลน์ (ร่องน้ำหมาก) เติมเต็มร่องลึกบริเวณร่องแก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียน
- ลำคอ เนินอก กระตุ้นคอลลาเจนและเพิ่มความแน่นของผิว ทำให้ผิวบริเวณนี้ดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์
- สะโพก หรือก้น เติมเต็มและปรับรูปทรง ช่วยให้ผิวบริเวณสะโพกหรือก้นดูแน่นและเรียบเนียน
ทำ Sculptra อันตรายไหม?
การทำ Sculptra โดยทั่วไปถือว่าไม่เป็นอันตราย ถ้าทำโดยแพทย์ชำนาญการและใช้ผลิตภัณฑ์แท้ตามมาตรฐาน โดย Sculptra เป็นสารเติมเต็มชนิดละลายได้เอง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น แต่ในบางเคสอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น บวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ฉีด
ในบางเคสอาจเกิดเป็นก้อนใต้ผิวหนังได้ แต่ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถลดลงได้หากแพทย์ประเมินสภาพผิวและเทคนิคการฉีดอย่างเหมาะสม ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ก่อนทำและติดตามผลหลังทำจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
การเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra
ก่อนเข้ารับการฉีด Sculptra การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- แจ้งประวัติทางการแพทย์ แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการผ่าตัด อาการทางการแพทย์ในปัจจุบัน รวมทั้งยาที่คุณกำลังใช้ เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและวางแผนการฉีด Sculptra ได้อย่างปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด งดยาสลายลิ่มเลือด ยาแอสไพริน ยาไอบูโพรเฟน และอาหารเสริมสมุนไพรบางชนิด 1-2 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงช้ำหรือบวม
- เว้นระยะการทำหัตถการอื่นๆ ควรเว้นระยะห่างจากการทำหัตถการอื่นๆ อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ Sculptra ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง และงดสูบบุหรี่ 2–3 วันก่อนฉีด เพราะสารเหล่านี้อาจลดประสิทธิภาพและชะลอกระบวนการฟื้นตัวของผิว
- พักผ่อนและดูแลร่างกายให้พร้อม นอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพดีที่สุดก่อนเข้ารับการฉีด
- วางแผนการดูแลหลังฉีด เตรียมตัวรับคำแนะนำในการนวดหรือดูแลบริเวณที่ฉีดตามแพทย์ เพื่อให้ Sculptra ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ออกมาด้วยใบหน้าที่สมดุล
การดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra
หลังจากฉีด Sculptra การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและพึงพอใจ และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
- นวดบริเวณที่ฉีดตามคำแนะนำ นวดเบาๆ บริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 5 นาที วันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 5 วันแรก เพื่อกระจายสารให้เรียบเนียนและช่วยให้เกิดคอลลาเจน
- ประคบเย็น ใช้ผ้าสะอาดหรือถุงน้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูบางๆ ประคบบริเวณที่ฉีดอย่างเบาๆ เพื่อลดอาการบวมและปวด
- รับประทานยาและทำตามคำแนะนำของแพทย์ รับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างครบถ้วน เพื่อช่วยลดอาการบวมและป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง งดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น เลเซอร์ หรือ IPL อย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีด เพราะความร้อนอาจรบกวนประสิทธิภาพของ Sculptra
- งดแต่งหน้าใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อหรือเกิดการระคาย
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก งดออกกำลังกายหนัก 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อลดอาการบวมและป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด งดออกแดดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หลังทำ หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ให้สวมหมวก เสื้อคลุม และทาครีมกันแดด SPF สูง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ แอลกอฮอล์และบุหรี่สามารถลดประสิทธิภาพการสร้างคอลลาเจน แนะนำงดอย่างน้อย 2-3 วันหลังฉีด
ติดตามผลกับแพทย์ เข้าพบแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจสภาพผิวและปรับการดูแลให้เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่สวยและปลอดภัยที่สุด
ทำ Sculptra ที่ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร
- ที่ Better Me Clinic เราเน้นการดูแลผิวหน้าอย่างใส่ใจ ด้วยทีมแพทย์ทุกท่านที่มี
- ประสบการณ์ด้านความงามมายาวนาน 10 ปี
เน้นการออกแบบ 1:1 - เคสต่อเคส ให้เหมาะกับโครงหน้าและปัญหาของแต่ละคน ด้วยเทคนิคเฉพาะ Better Me Analysis Program
รู้สึกเจ็บน้อยและบวมช้ำน้อย เพราะทีมแพทย์ทุกท่านใส่ใจในทุกรายละเอียดและให้ความสำคัญกับทุกเคสอย่างใกล้ชิด - คลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีรองมาตรฐาน พร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ
- Better Me Club มีการบริการด้วยหัวใจ พร้อมดูแลหลังการทำศัลยกรรมและหัตถการอย่างใกล้ชิด ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับสมาชิกคนพิเศษ
- เปลี่ยนเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและความสวยในราคาที่จับต้องได้
รีวิวก่อนและหลังทำ Sculptra ที่ Better Me Clinic
Sculptra เป็นนวัตกรรมความงามที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเอง ทำให้ผิวเด้ง กระชับ และลดริ้วรอย แตกต่างจากฟิลเลอร์ที่เติมเต็มทันที โดยผลลัพธ์ค่อยๆ ปรับให้ผิวเรียบเนียนและยาวนาน เหมาะกับผู้ที่แก้มตอบ ขมับยุบ ร่องแก้มลึก หรือผิวหย่อนคล้อย การฉีดต้องทำโดยแพทย์ชำนาญเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นที่พึงพอใจ พร้อมการดูแลก่อนและหลังฉีด เช่น นวดตามคำแนะนำ หลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ความร้อน แอลกอฮอล์ และบุหรี่ เพื่อให้ผิวแน่น สุขภาพดี และผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายเดือน
ที่ Better Me Clinic เราให้บริการทำ Sculptra ด้วยทีมแพทย์มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ออกแบบการรักษาแบบ 1:1 ให้เหมาะกับโครงหน้าและปัญหาของแต่ละคน ด้วยเทคนิคเฉพาะ Better Me Analysis Program บวมช้ำน้อย ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย และดูแลหลังทำอย่างใกล้ชิดผ่าน Better Me Club เพื่อให้คุณสวยและมั่นใจในแบบที่ดีที่สุด!
ไปดูกันว่าหลายๆ คน มักมีคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับ Sculptra อย่างไรบ้าง!
Sculptra กี่วันถึงเห็นผล?
หลังฉีด Sculptra จะไม่ได้เห็นผลทันทีเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะ Sculptra ทำงานโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ผลลัพธ์เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังฉีด และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 2-3 เดือน ผลลัพธ์จะค่อยๆ เรียบเนียน
Sculptra กี่วันถึงเห็นผล ควรทำซ้ำบ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไป แพทย์มักแนะนำให้ฉีด Sculptra 3-4 ครั้ง ต่อคอร์ส โดยเว้นระยะห่างแต่ละครั้งประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาสร้างคอลลาเจนและปรับสภาพผิวตามธรรมชาติ การทำซ้ำช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสม่ำเสมอและอยู่ได้นาน
Sculptra อยู่ได้นานเท่าไร?
ผลลัพธ์ของ Sculptra สามารถอยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองหลังฉีด หลังระยะเวลานี้ สารจะสลายตัวไปตามธรรมชาติ แต่สามารถกลับมาฉีดเติมเพื่อคงผลลัพธ์ได้
ฉีด Sculptra แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไรได้บ้าง?
สาเหตุที่ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น
- การสร้างคอลลาเจนของร่างกายช้า
- ปริมาณหรือเทคนิคการฉีดไม่เหมาะสมกับสภาพผิว
- ไม่ทำตามคำแนะนำหลังฉีด เช่น การนวดหรือดูแลผิว
- อายุหรือปัญหาผิวเฉพาะบุคคลที่ทำให้ผลลัพธ์ช้ากว่าปกติ
การปรึกษาแพทย์หลังฉีดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปรับแผนการรักษาและทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
ที่มาของข้อมูล
- Sculptra, What Is Sculptra? (https://www.sculptrausa.com/), 31 October 2023
- Aluma Aesthetic Medicine, What is Sculptra, and How Does it Work? (https://alumapdx.com/what-is-sculptra-and-how-does-it-work/), 31 October 2023
- Yanhee International Hospital, SCULPTRA กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิว (https://th.yanhee.net/หัตถการ/Sculptra/), 31 ตุลาคม 2566