fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

สิวอุดตัน ตัวการสำคัญก่อนเกิดสิวอักเสบ

สิวไม่มีหัว หนึ่งปัญหาโลกแตก บีบก็ไม่ได้ จับไปก็อักเสบ ดูแลยังไงดี?
สิวไม่มีหัว หนึ่งปัญหาโลกแตก บีบก็ไม่ได้ จับไปก็อักเสบ ดูแลยังไงดี?

สิวไม่มีหัว หนึ่งปัญหาสิวที่ชวนปวดหัว เพราะจะกดด้วยตัวเองก็ไม่ได้ และยิ่งพยายามเค้นสิวออกมามากเท่าไหร่ก็มีแต่จะยิ่งทำให้สิวเกิดการอักเสบมากขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้แล้วสิวชนิดนี้ยังเป็นสิวที่รักษาได้ยากกว่าสิวชนิดมีหัว เนื่องจากเกิดในชั้นผิวหนังที่ลึกกว่า สามารถเกิดขึ้นได้หลายบริเวณ หากรักษาไม่ถูกวิธีอาจนำมาสู่การเกิดปัญหาสิวซ้ำซากได้

วันนี้ Better Me Clinic จึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสิวไม่มีหัว ปัญหาสิวที่เกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย รับรองว่าหลังจากอ่านบทความนี้ก็เตรียมโบกมือลาใบหน้าที่ไม่เรียบเนียน และเตรียมตัวต้อนรับหน้าใสได้เลย!

สิวไม่มีหัวคืออะไร? มีลักษณะอย่างไร?

สิวไม่มีหัว (Blind Pimples หรือ Cystic Acne) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “สิวตุ่มนูนแดง (Papules) คือ สิวอุดตันชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนบริเวณใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ไม่สามารถสังเกตเห็นลักษณะของหัวสิวได้ชัดเจนเหมือนสิวชนิดอื่นๆ

โดยสิวไม่มีหัวจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง มีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก โดยทั่วไปสิวชนิดนี้จะไม่มีหนอง เนื่องจากลักษณะของสิวไม่ก่อให้เกิดการอักเสบใดๆ ยกเว้นจะมีการการกด เค้น แกะ เกา หรือการทำพฤติกรรมต่างๆ ที่ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง จนนำมาสู่การเกิดการติดเชื้อและอักเสบนั่นเอง

เมื่อสิวชนิดนี้อักเสบจะยังคงไม่มีหัวดังเดิม แต่บริเวณที่เกิดสิวจะมีอาการบวมโตขึ้นและเกิดความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เมื่อสัมผัสก็อาจจะรู้สึกถึงก้อนไตแข็งและถ้าหากปล่อยไว้นานไม่ยอมรักษา ก็อาจจะต้องใช้เวลานานมากขึ้นกว่าสิวจะยุบตัวลงไปเอง รวมทั้งยังทำให้เกิดแผลเป็นหลังสิวหายได้อีกด้วย

สิวไม่มีหัวเกิดจากอะไร?

เนื่องจากสิวไม่มีหัวเป็นสิวอุดตันชนิดหนึ่ง ทำให้สาเหตุของการเกิดสิวไม่มีหัวนั้นเหมือนกับการเกิดสิวอุดตันชนิดอื่นๆ

สิวไม่มีหัว เกิดจากความผิดปกติในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งโดยปกติแล้วเซลล์หนังกำพร้าที่ตายจะต้องผลัดเซลล์ผิวและหลุดออกไปจากรูขุมขนโดยอัตโนมัติในทุกๆ 28 วัน 

แต่เซลล์ผิวหนังกำพร้าเดิมที่ควรจะหลุดกลับไม่หลุดออกไปและมีจำนวนมากขึ้น เซลล์ผิวเหล่านี้จึงไปจับตัวกับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า เคราติน รวมถึงฝุ่งละอองต่างๆ จนรูขุมขนเกิดการอุดตัน ทำให้ของเสียที่ควรจะถูกขับออกทางรูขุมขนจึงไม่สามารถระบายออกมาได้และกลายเป็นสิวอุดตันในที่สุด

แต่สิวไม่มีหัวก็มีความแตกต่างจากสิวอุดตันชนิดอื่นๆ ตรงที่ของเสียที่ควรจะอุดตันอยู่เพียงบนชั้นผิว มีการรั่วซึมลงไปถึงผิวหนังชั้นลึก รวมถึงในบางกรณีอาจมีการสร้างถุงซีสต์ใต้ผิวจนกลายเป็นสิวตุ่มแดง แบบที่พบเห็นได้ทั่วไปนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของสิวไม่มีหัวได้ด้วย เช่น

1. พันธุกรรม

พันธุกรรมสามารถเป็นหนึ่งในตัวการของการเกิดสิวไม่มีหัวได้ เพราะลักษณะของผิวก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมเช่นเดียวกัน 

โดยพบว่าในครอบครัวที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย รูขุมขนกว้าง ซึ่งเป็นลักษณะที่ง่ายต่อการเกิดสิว หากพบในรุ่นใดรุ่นหนึ่งแล้วอาจมีการส่งต่อไปยังรุ่นต่อๆ ไปด้วย ซึ่งปัญหาผิวแพ้ง่ายและรูขุมขนกว้างไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดสิวไม่มีหัวเท่านั้น แต่สามารถยังทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ เช่น หน้ามัน สิวผด สิวอักเสบ เป็นต้น

2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ความไม่สมดุลของฮอร์โมนบางชนิดอาจนำไปสู่การเกิดปัญสิวได้ ซึ่งฮอร์โมนที่มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเกิดสิว คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) 

สำหรับฮอร์โมนชนิดนี้สามารถพบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมการผลิตซีบัมหรือน้ำมันบนใบหน้า ซึ่งหากฮอร์โมนทำงานไม่สมดุลก็จะทำให้ร่างกายผลิตซีบัมออกมามากกว่าปกติจนมีน้ำมันเข้าไปจับตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เคราติน รวมถึงสิ่งตกค้างต่างๆ ได้มากขึ้น และทำให้เกิดปัญหาสิวไม่มีหัวตามมานั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีฮอร์โมนอื่นๆ ที่ส่งผลให้การทำงานของต่อมไขมันผิดปกติอีกมากมาย โดยมากมักจะถูกกระตุ้นจากความเครียด เช่น ฮอร์โมนคอร์ติโซล (Cortisol) ฮอร์โมนนูโรเปปไทด์ (Neuropeptides) ฮอร์โมนเอนโดรฟีน (Endorphins) อินซูลิน (Insulin) และ ฮอร์โมนไซโตคินส์ (Cytokines)

ปัจจุบันพบว่าความเครียดมีผลต่อการเกิดสิวอย่างมาก รวมทั้งหลายคนมักมีอาการสิวกำเริบหลังเจอกับเหตุการณ์ตึงเครียดราวๆ 1-2 วันอีกด้วย

3. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

การดูแลผิวนับเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวก็อาจนำไปสู่ปัญหาผิวได้ เช่น ผู้ที่มีปัญหาผิวมันแต่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เช่นนี้จะยิ่งทำให้ใบหน้ามีน้ำมันส่วนเกินมากขึ้น ซึ่งง่ายต่อการอุดตันของรูขุมขนและทำให้เกิดสิว

นอกจากนี้แล้วในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายยังควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง อาการแพ้ และกระตุ้นการอักเสบได้

4. การใช้ยาบางชนิด

การใช้ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดสิวลุกลามได้ เช่น วิตามินบี 12 ยาที่มีคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ลิเธียม (Lithium) และยาเคมีบำบัดบางชนิด

บริเวณที่มักเกิดสิวไม่มีหัว

สิวไม่มีหัวสามารถเกิดขึ้นได้หลายบริเวณ โดยในแต่ละบริเวณมักมีสาเหตุการเกิดสิวที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่พบว่าเมื่อเกิดสิวไม่มีหัวที่บริเวณใดแล้วก็ตามมักจะเกิดสิวขึ้นซ้ำอีกในบริเวณนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • สิวไม่มีหัวบริเวณหน้าผาก สิวที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานผิดปกติของฮอร์โมน ที่ทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ผนวกกับการเป็นบริเวณ T-zone ที่มักจะมีน้ำมักออกมามากอยู่แล้ว รวมทั้งยังเป็นบริเวณที่มีการสัมผัสกับผลิตภัณฑ์บำรุงผมได้ง่าย ซึ่งบางครั้งอาจมีสารตกค้างและนำไปสู่การเกิดสิวได้
  • สิวไม่มีหัวบริเวณจมูก สิวที่เกิดในบริเวณนี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากการจับตัวของน้ำมันส่วนเกินที่สะสมบนใบหน้ากับเซลล์ที่ผิวตายแล้วแต่ไม่มีการผลัดตัว จนทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
  • สิวไม่มีหัวบริเวณแก้ม สิวที่เกิดในบริเวณนี้สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะเป็นบริเวณที่เราสัมผัสกับสิ่งสกปรกได้โดยไม่รู้ตัว เช่น ความมันสะสมบนเส้นผม ฝุ่นละอองต่างๆ ที่สะสมบนปลอกหมอน และการติดนิสัยนั่งเท้าคาง เป็นต้น
  • สิวไม่มีหัวบริเวณคาง สิวบริเวณนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่โดยมากแล้วมักมีผลมาจากการทำงานที่ผิดปกติของฮอร์โมน เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงการล้างหน้าไม่สะอาดจนทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียก็สามารถทำให้เกิดสิวขึ้นในบริเวณนี้ได้เช่นกัน

การหมั่นสังเกตตำแหน่งที่เกิดสิวก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้เราสามารถทราบสาเหตุของการเกิดสิวได้แน่ชัดมากขึ้น นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการรักษาสิวอย่างตรงจุด

ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

สิวมีหัว กับ สิวไม่มีหัว แตกต่างกันอย่างไร?

หากอธิบายง่ายๆ สิวมีหัวและสิวไม่มีหัว แตกต่างกันที่ลักษณะของหัวสิว ตุ่มสิว และชั้นผิวที่เกิดการอุดตัน 

โดยลักษณะของสิวที่มีหัวจะสามารถสังเกตเห็นหัวสิวได้ง่าย เนื่องจากสิวชนิดนี้เกิดจากการสะสมของน้ำมันส่วนเกินและสิ่งตกค้างต่างๆ จนเกิดการอุดตันในบริเวณผิวชั้นตื้น 

ซึ่งสิวมีหัวจะมีด้วยกันอยู่หลากหลายรูปแบบ ดังนี้

  • สิวอุดตันหัวดำ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก มีหัวสีดำอยู่ตรงกลาง เกิดจากสารเมลานินของเซลล์ผิวหนังที่ตกค้างทำปฏิกิริยากับอากาศ
  • สิวอุดตันหัวขาว มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีขาวขนาดเล็ก อาจสังเกตเห็นได้ยาก แต่หากสัมผัสแล้วจะรู้สึกถึงปุ่มนูนใต้ผิว
  • สิวอักเสบหัวหนอง มีลักษณะคล้ายตุ่มนูนแดงแต่บริเวณตรงกลางของสิวจะมีสีขาวเหลืองของหนองที่เกิดจากการอักเสบ

ส่วนลักษณะของสิวไม่มีหัวจะสังเกตเห็นหัวสิวได้ยาก เพราะการสะสมของน้ำมันส่วนเกินและสิ่งตกค้างต่างๆ ที่ปกติมักจะอุดตันอยู่บนผิวชั้นตื้น มีการรั่วไหลลงไปยังผิวชั้นลึก ทำให้หัวสิวที่ควรจะโผล่พ้นผิว ดันเติบโตอยู่ด้านล่างของชั้นผิว

ในระยะแรก สิวไม่มีหัวจะเป็นเพียงตุ่มนูนขนาดเล็กและไม่สามารถสังเกตเห็นหัวสิวได้จากภายนอก แต่หากสัมผัสแล้วก็จะรู้สึกถึงปุ่มนูนใต้ผิว ก่อนจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงและมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเกิดการอักเสบ

สิวไม่มีหัวรักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

การรักษาสิวไม่มีหัวสามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับจำนวนของสิว ระดับความรุนแรง รวมถึงอาการอักเสบที่เกิดขึ้น โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 วิธีหลักๆ ดังนี้

1. การรักษาสิวไม่มีหัวด้วยการใช้ยา

ในผู้ที่มีสิวไม่มีหัวชนิดรุนแรงน้อยหรือมีอาการอักเสบของผิวไม่มากนัก แพทย์มักจะเลือกการใช้ยาทาเป็นวิธีเริ่มต้น โดยเน้นไปที่การลดการอุดตัน ลดการอักเสบ และลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียลง เช่น

  • ยากลุ่มเบนโซลอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) เป็นยาละลายหัวสิวชนิดหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติในกาลดจำนวนแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว รวมทั้งช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ แต่ในผู้ที่แพ้ง่ายอาจเกิดอาการแสบ ระคายเคืองได้
  • ยาที่มีส่วนผสมของกรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) สามารถลดการอุดตันของรูขุมขน รวมทั้งในผู้ที่เป็นสิวอักเสบก็สามารถใช้ยาชนิดนี้ในการลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย

ซึ่งพบว่าการใช้ยาทาหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ต่างกันร่วมกันให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้ยาเพียงตัวใดตัวหนึ่ง

นอกจากนี้ยังพบว่าสิวชนิดไม่มีหัวเป็นสิวที่ง่ายต่อการดื้อยา นอกจากการใช้ยาทาภายนอกแล้ว แพทย์มักจะแนะนำให้รับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อสิวจากภายในร่วมด้วย โดยตัวยาที่นิยมใช้ ได้แก่ ด็อกซีไซคลีน (Doxycycline) และเซฟาเลกซิน (Cephalexin)

ในผู้ที่มีการอักเสบมาก แพทย์อาจมีการแนะนำให้ฉีดสิว (Acne Injection) โดยจะใช้คอร์ติโซนหรือสารลดการอักเสบฉีดลงไปที่ตุ่มสิวเพื่อทำให้สิวยุบตัวลง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 2-3 วัน แต่อาจเกิดเป็นหลุมสิวขนาดเล็กได้

2. การรักษาสิวด้วยการบำบัด (Acne Therapies)

เนื่องจากการรักษาด้วยยาทาหรือการรับประทานยาจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเห็นผลชัดเจน รวมถึงในบางรายร่างกายอาจไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา แพทย์จึงอาจพิจารณาการใช้วิธีรักษาอื่นๆ แทน เช่น

  • การบำบัดด้วยแสง (Light therapy) เป็นการฉายแสง LED ความเข้มสูงลงไปใต้ผิว วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นกลไกการฟื้นฟูของเซลล์ผิว รวมทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวและลดการอักเสบของต่อมไขมันได้อีกด้วย
  • เลเซอร์หน้าใส เป็นการใช้แสงเลเซอร์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว รวมทั้งช่วยกำจัดไขมันและสิ่งสกปรกภายในรูขุมขน โดยมากหากต้องการรักษาสิวไม่มีหัว แพทย์จะนิยมใช้เลเซอร์ CO2 ในการรักษา เนื่องจากเลเซอร์ชนิดนี้สามารถลงสู่ผิวได้ในระดับล้ำลึก ทำให้สามารถเปิดต่อมไขมันเพื่อระบายสิ่งอุดตันในนั้นได้ดี
  • การฉีดมาเด้คอลลาเจน คือ โปรแกรมเมโสชนิดหนึ่งที่ฉีดเข้าไปในชั้นผิว โดยตัวยาจะมีส่วนผสมที่สำคัญ คือ วิตามิน แร่ธาตุ คอลลาเจน ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญในการขับสารพิษและของเสียออก ทำให้หลังฉีดอาจมีอาการคล้ายสิวเห่อได้ เพราะมีการดันของเสียเดิมที่อยู่ใต้ผิวออกมา นอกจากนี้ มาเด้คอลลาเจนยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วย

เนื่องจากผิวของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน ทำให้การเลือกใช้หัตถการในการรักษาสิวของแต่ละคนจึงแตกต่างกันออกไปด้วย หากไม่มั่นใจว่าควรเลือกรักษาสิวอักเสบด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาปรึกษาและประเมินผิวที่ Better Me Clinic ได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

สิวไม่มีหัวยุบเองได้ไหม? กี่วันหาย?

สิวไม่มีหัวสามารถยุบเองได้ หากไม่มีการอักเสบอาจหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการอักเสบร่วมด้วยอาจใช้เวลาราว 3-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของการอักเสบและการดูแลตัวเองด้วย

แต่หากสิวไม่มีหัวเกิดอักเสบจนมีอาการบวมขึ้นอย่างชัดเจนร่วมกับการมีอาการปวดมาก แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อทำการฉีดสารคอร์ติโซนลดการอักเสบ หรือเลือกวิธีการรักษาอื่นๆ ที่เหมาะสมต่อไป

วิธีป้องกันการเกิดสิวไม่มีหัว

วิธีป้องกันการเกิดสิวไม่มีหัวสามารถทำได้ง่าย โดยเน้นที่การรักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์หรือทำพฤติกรรมที่นำไปสู่การอุดตันของรูขุมขน และอาจป้องกันได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

รวมวิธีรักษาสิวอุดตัน

การใช้สกินแคร์ให้เหมาะกับปัญหาผิวเป็นการปรับสมดุลผิวอย่างช้าๆ หากต้องการให้เห็นผลลัพธ์ได้ไวขึ้น อาจรักษาสิวอุดตันด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

1. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ

ผู้ที่มีปัญหาสิวไม่มีหัวจะต้องล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีเนื้อสัมผัสแบบเจลและมีคุณสมบัติในการปรับสมดุลผิว ลดความมันส่วนเกิน และช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้า 

หากใครที่แต่งหน้าเป็นประจำ ก็ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางก่อนการล้างหน้าทุกครั้ง เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว

2. เลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว

คนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้มักจะมีเนื้อสัมผัสที่ไม่สบายผิว รวมถึงยังทำให้ผิวหน้ามัน ซึ่งง่ายต่อการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเบาสบายและอ่อนโยนต่อผิว

3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า

มือของเรานับว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดีของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเราใช้มือในการหยิบจับสิ่งของอยู่ตลอดเวลา หากมือที่สกปรกนั้นมาสัมผัสกับใบหน้าที่มีน้ำมันส่วนเกินของเราก็จะนำไปสู่การเกิดสิวได้ ดังนั้นจึงไม่ควรสัมผัสใบหน้าหากไม่จำเป็น หรือหากติดนิสัยจนหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรหมั่นล้างมือและรักษาความสะอาดอยู่เสมอ

4. การผลัดเซลล์ผิว

การผลัดเซลล์ผิว (Peeling) เป็นกระบวนการเร่งให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่โดยใช้สารเคมี 

วิธีนี้จะช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตันทำให้โอกาสในการเกิดสิวลดลง รวมทั้งหากมีสิวอักเสบอยู่ การผลัดเซลล์ผิวก็จะช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้นด้วย 

รักษาสิวไม่มีหัว ที่ไหนดี?

จะเห็นได้ว่าการรักษาสิวไม่มีหัวนั้นมีวิธีการรักษาที่ซ้ำซ้อนกว่าการรักษาสิวแบบอื่นๆ เนื่องจากเป็นปัญหาสิวที่เกิดในผิวชั้นลึก รวมทั้งยังง่ายต่อการดื้อยาอีกด้วย การรักษาสิวไม่มีหัวจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น 

และหากคุณกำลังสนใจที่จะรักษาสิวไม่มีหัว ให้ Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นหนึ่งในทางเลือก เพราะเรามีบริการรักษาสิวให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเชิงป้องกัน อย่างการผลัดเซลล์ผิว หรือการรักษาเชิงรุก อย่างการฉายแสง LED การฉีดมาเด้คอลลาเจน หรือการทำเลเซอร์หน้าใส ทุกบริการเราให้บริการโดยแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น

หากยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกรักษาสิวไม่มีหัวด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคสได้เลย สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าคุณจะมีผิวสวยๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน!

  • Bioderma, สิวไม่มีหัว หรือ สิวอักเสบไม่มีหัว เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไร (https://www.bioderma.co.th/your-skin/combination-oily-acne-prone-skin/inflammatory-acne-pustul), 12 ธันวาคม 2566.
  • Eucerin, สิวเครียด จากความเครียดมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร (https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/acne-prone-skin/acne_and_stress_320), 12 ธันวาคม 2566.
  • Eucerin, สิวไม่มีหัว นูนๆ และสิวอักเสบไม่มีหัว เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรักษาสิวไม่มีหัวแบบง่ายๆ
  • (https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/acne-prone-skin/blind-pimple), 12 ธันวาคม 2566.
  • Eucerin, สาเหตุการเกิดสิวไม่มีหัว และวิธีดูแลรักษาสิวอุดตันไม่มีหัว
  • (https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/acne-prone-skin/papule-acne), 12 ธันวาคม 2566.
  • Hellokhunmor, สิวไม่มีหัว เป็นไต เกิดจากอะไร ควรรักษาอย่างไร (https://hellokhunmor.com/สุขภาพผิว/สิว/สิวไม่มีหัว-เป็นไต-เกิดจากอะไร-ควรรักษาอย่างไร/), 12 ธันวาคม 2566.
  • SkinX, สิวไม่มีหัว ปัญหาสิวสุดวุ่นวาย บีบก็ไม่ได้ ปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่มั่นใจ ทำไงดี? (https://skinx.app/content/acne/blind-pimples), 12 ธันวาคม 2566.

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ