มัดรวมวิธีแก้หน้าบาน หน้าใหญ่ วิธีไหนดี พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย
ใครที่กำลังวิตกกังวลกับปัญหาหน้าบาน ขาดความมั่นใจเพราะหน้าไม่สมส่วน มาหาสาเหตุได้ที่บทความนี้ เมื่อรู้สาเหตุที่ตัวเองหน้าบานแล้ว ก็จะสามารถเลือกวิธีแก้ไขได้อย่างตรงจุด บทความนี้ได้มัดรวมสาเหตุของหน้าบานมาไว้ให้แล้ว พร้อมวิธีแก้หน้าบานกว่า 10 วิธี ทำได้อย่างไรบ้าง แต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อด้อยต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลย
สาเหตุของหน้าบาน เกิดจากอะไรได้บ้าง
ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้หน้าบาน เราควรรู้สาเหตุต่างๆ ที่ทำให้หน้าบาน เพื่อให้สามารถเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกับใบหน้าแต่ละคน โดยหน้าบานเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
1. หน้าบานจากกระดูกโครงหน้า
หน้าบานที่เกิดจากกระดูกโครงหน้านั้น จะเป็นมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งได้มาจากกรรมพันธุ์ในครอบครัว หากลองสังเกตพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องคนอื่นๆ จะพบว่ามีลักษณะโครงหน้าในรูปแบบเดียวกัน โดยจะมีกระดูกโครงหน้าใหญ่ กระดูกขากรรไกรใหญ่ ทำให้หน้าดูบานถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนอ้วนเลยก็ตาม
หน้าบานหน้าใหญ่ที่เกิดจากสาเหตุนี้สามารถแก้ไขได้ยากที่สุด เพราะต้องทำการแก้ไขที่กระดูกโครงหน้า ต้องอาศัยการผ่าตัดใหญ่เพื่อแก้ไข
2. หน้าบานจากกรามใหญ่
เนื่องจากบางคนอาจจะมีกล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่กว่าคนทั่วไป ซึ่งเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณนั้นมาก โดยเฉพาะพฤติกรรมชอบบดเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียว เมื่อทำบ่อย กล้ามเนื้อกรามจึงขยายตัวและแข็งแรงมากขึ้น ส่งผลทำให้หน้าดูใหญ่ขึ้นบานขึ้นได้
3. หน้าบานจากไขมันสะสม
การกินอาหารเป็นอีกสาเหตุที่อาจจะทำให้หน้าบานได้ คนที่ชอบรับประทานอาหารจำพวกของทอด ของมัน น้ำตาล แป้ง โซเดียม หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ อาจทำให้มีน้ำหนักเกินและมีไขมันสะสมเป็นจำนวนมากบนใบหน้า ลำคอ เหนียง คาง แก้ม และกระพุ้งแก้ม ทำให้แก้มย้อย หน้าบาน หน้าใหญ่ จนสูญเสียความมั่นใจ
4. หน้าบานจากใบหน้าไม่กระชับ
เมื่ออายุมากขึ้น เป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังได้น้อยลง ทำให้ใบหน้าไม่เต่งตึง กระชับเหมือนเดิม เกิดผิวหนังหย่อนคล้อย แก้มย้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน ทำให้หน้าดูบานขึ้น ดูใหญ่ขึ้น ไม่เรียวกระชับเหมือนตอนเยาว์วัย
รวม 10 วิธีแก้หน้าบาน หน้าใหญ่อย่างไร ให้เห็นผล
ผู้ที่มีปัญหาหน้าบาน สามารถลองเทียบสาเหตุกับตัวเองในเบื้องต้นได้ ว่าการที่เราหน้าบานนั้นเกิดจากอะไร เพื่อหาทางแก้หน้าบานให้ถูกจุด โดยวิธีแก้หน้าบานสามารถทำได้ตามวิธีต่างๆ ดังนี้
1. วิธีลดแก้มย้อยด้วยเมโสแฟต
แก้แก้มย้อยด้วยเมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาเพื่อช่วยสลายไขมันสะสมบนใบหน้า ให้ไขมันสะสมแตกตัว และค่อยๆ ถูกขับออกไปจากร่างกาย วิธีนี้สามารถฉีดบริเวณแก้ม เหนียง จึงช่วยให้จากหน้าบานกลายเป็นหน้าเรียว ดูมีมิติขึ้นได้
ข้อดี แทบไม่ต้องพักฟื้น สามารถเห็นผลชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์ และผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน
ข้อจำกัด หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน รวมทั้งสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้แบบชัดเจนมาก ควรต้องกลับไปฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมเหมือนเดิม
2. แก้หน้าบานด้วยการร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นวิธีแก้หน้าบาน ผิวหย่อนคล้อย แก้มย้อย โดยการร้อยไหมลงไปที่ใต้ชั้นผิวให้เกาะกับเนื้อเยื่อ จากนั้นเมื่อดึงไหมขึ้นผิวหนังก็จะถูกยกขึ้นตามแนวที่ได้ร้อยไหม ทำให้ใบหน้าดูตึงกระชับ เห็นกรอบหน้าชัดเจนขึ้น หน้าจึงดูบานน้อยลง
ข้อดี เห็นผลได้ทันทีหลังทำ นอกจากแก้หน้าบานแล้วยังช่วยยกกระชับและลดริ้วรอยบนผิวหน้า
ข้อจำกัด สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบนใบหน้าเยอะ คุณหมออาจแนะนำให้ฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันให้มากที่สุดก่อนร้อยไหม
3. Ultraformer III แก้แก้มย้อย
Ultraformer III ตัวช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาหน้าห้อยแก้มย้อยได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือฉีดยาใดๆ แต่จะใช้พลังงาน High Intensity Focus Ultrasound Macrofocus ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน พร้อมยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ข้อดี แก้ปัญหาผิวได้หลายระดับชั้นจนถึงผิวชั้น SMAS ไม่ต้องพักฟื้น สามารถเห็นผลทันทีหลังทำถึง 20% และเห็นผลลัพธ์เต็มที่หลังทำ 3 เดือน ผลลัพธ์ยาวนานถึง 6 เดือน พร้อมป้องกันริ้วรอย ความหย่อนคล้อยที่อาจเกิดในอนาคตได้อีกด้วย
- ข้อจำกัด ต้องเลือกคลินิกที่มีแพทย์ชำนาญการ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำหัตถการ Ultraformer III โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการเกิดรอยไหม้จากการทำ อีกทั้งยังมีผลลัพธ์ไม่ถาวร จำเป็นต้องกลับมาทำซ้ำ
4. Botox ลดกราม
วิธีแก้หน้าบานที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าบานจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ คือการฉีด Botox กราม ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อกรามทำงานได้น้อยลง ขนาดของกรามค่อยๆ เล็กลง ส่งผลทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- ข้อดี เห็นผลได้ภายใน 14 วันหลังฉีด เห็นผลชัดเจนใน 3 เดือน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน
- ข้อจำกัด หลังจากฉีด Botox ควรเปลี่ยนพฤติกรรมใช้กรามให้น้อยลงร่วมด้วย
5. การฉีดฟิลเลอร์คาง
วิธีแก้หน้าบานที่เหมาะกับคนที่มีคางสั้น คางตัด ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียวสวย การฉีดฟิลเลอร์บริเวณคาง จะช่วยเสริมให้คางยาวขึ้น หน้าจึงดูมีทรง เรียวยาวแบบเห็นได้ชัด
- ข้อดี ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
- ข้อจำกัด ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้คุณภาพ
6. แก้แก้มย้อยด้วย Thermage
Thermage เครื่องมือช่วยกระชับผิว ลดหน้าบาน ยกแก้มย้อย โดยการใช้พลังงานความร้อนจากคลื่น RF (Radio Frequency) หรือคลื่นวิทยุ ส่งลงไปใต้ชั้นผิวจนถึงชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สลายไขมันสะสมส่วนเกินบนใบหน้า ให้ผิวแน่นกระชับยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ และกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียนขึ้นด้วย
- ข้อดี ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีดยา สามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ 20% ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
- ข้อจำกัด วิธีนี้จะเห็นผลกับผิวชั้นบนมากกว่า จึงเหมาะกับผู้ที่มีแก้มย้อยไม่มากนัก
7. วิธีแก้หน้าบานด้วย morpheus8
Morpheus8 นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยแก้หน้าบาน ยกกระชับผิว เพิ่มมิติให้กับใบหน้า ด้วยหัวทิปที่มีลักษณะเป็นเข็มเล็กๆ เรียงตัวกัน จำนวน 24 เข็ม เมื่อวางบนผิวจะส่งคลื่นวิทยุ หรือ RF (Radio Frequency) ลงสู่ใต้ชั้นผิวได้ลึกหลายระดับ ตั้งแต่ 1-4 มิลลิเมตร ขึ้นกับปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อลดไขมันใต้ชั้นผิว พร้อมกระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในชั้นหนังแท้
- ข้อดี สามารถปรับระดับความลึกให้เหมาะสมกับผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงสามารถใช้ได้กับผิวบอบบาง
- ข้อจำกัด ไม่แนะนำให้ทำร่วมกับหัตถการอื่นๆ เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพน้อยลง และควรทำต่อเนื่องประมาณ 3 ครั้ง ทุก 3-6 สัปดาห์
8. วิธีแก้หน้าบานด้วย Ulthera
วิธีแก้หน้าบานโดยการใช้คลื่น Ultrasound พลังงานความถี่สูงที่สามารถปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละบุคคล ลงสู่ชั้นผิวหนังได้อย่างแม่นยำ เพื่อสลายไขมันสะสมส่วนเกิน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิวหน้า จากหน้าบานจะดูเรียวขึ้น โครงหน้าชัดขึ้น
- ข้อดี สามารถแก้ปัญหาได้แม่นยำตามบริเวณที่ต้องการ ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี
- ข้อจำกัด มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการยกกระชับด้วยวิธีอื่น
9. การผ่าตัดกราม
ผู้ที่มีหน้าบานอันเนื่องมาจากกระดูกกรามใหญ่ อาจเลือกการศัลยกรรมผ่าตัดกราม หรือเหลากราม เพื่อให้หน้าเรียวขึ้นอย่างชัดเจน โดยหมอจะเปิดแผลแล้วตัดกระดูกกรามออกมา จากนั้นจะกรอกระดูกกรามให้เล็กลง
- ข้อดี เห็นผลลัพธ์ได้ทันที อีกทั้งกระดูกกรามเล็กลงอย่างถาวร
- ข้อจำกัด เหมาะกับผู้ที่ไม่กลัวการผ่าตัด และมีเวลาสำหรับการพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
10. การดูดไขมัน
การดูดไขมัน เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดหน้าบาน หน้าใหญ่ได้สำหรับผู้ที่มีไขมันที่หน้าเยอะ หมอจะทำการเจาะรอยเล็กๆ แล้วสอดท่อยาวเข้าไปในบริเวณที่ต้องการจะดูดไขมันออก ไม่ไขมันส่วนเกินลดลง ก็จะทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้
- ข้อดี เห็นผลลัพธ์ได้ทันที
- ข้อจำกัด ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร ไม่ควรดูดไขมันซ้ำหลายรอบเนื่องจากใบหน้าเป็นบริเวณที่บอบบาง
แก้หน้าบาน กับ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร
- คุณหมอมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมมายาวนาน 8 ปี มากกว่า 10,000 เคส
- คุณหมอเป็นอาจารย์สอนหลักสูตรการอบรมด้านเวชศาสตร์ความงามจากองค์กร ABAM จากอเมริกา คนเดียวในไทย
- เทคนิคใหม่แบบ Better Me คลินิกเน้นการออกแบบที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้าของคนไข้ด้วยเทคนิคเฉพาะจากประเทศเกาหลี
- เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย คุณหมอทุกท่านให้ความสำคัญกับคนไข้ทุกเคส
- คลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน พร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- Better Me Beauty Club มีการบริการด้วยหัวใจหลังศัลยกรรม หรือทำหัตถการ ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
- เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและสวยที่สุดในราคาที่จับต้องได้
สรุป
หน้าบาน เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น หน้าบานจากกระดูกโครงหน้าใหญ่ หน้าบานจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ หน้าบานจากการมีไขมันสะสมบนใบหน้ามาก หรือหน้าบานจากผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ ซึ่งวิธีแก้หน้าบานมีทั้งแบบไม่ศัลยกรรมและศัลยกรรม ควรเลือกวิธีให้เหมาะสมกับสาเหตุ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพที่ดีน่าพึงพอใจ
ใครที่อยากแก้หน้าบาน ที่ Better Me Clinic มีวิธีแก้หน้าบานคือ เมโสแฟต ร้อยไหม HIFU ซึ่งแต่ละวิธี ขึ้นอยู่กับแต่ละปัญหาของคนไข้ สามารถปรึกษาก่อนเข้ารับการแก้ไขได้ เพื่อให้ได้หน้าที่เรียวขึ้น ดูดี มีมิติ ตรงตามความต้องการที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้หน้าบาน (FAQs)
สำหรับใครที่สนใจอยากแก้หน้าบาน แก้มย้อย บทความนี้ยังได้รวบรวมคำถามที่พบได้บ่อย เพื่อช่วยไขข้อสงสัย รวมถึงนำมาประกอบการตัดสินใจก่อนจะเลือกวิธีแก้หน้าบานกัน
