fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

กระแดดคืออะไร? ทำอย่างไรให้ผิวยังกระจ่างใสแม้ต้องเจอแดด

กระแดดคืออะไร? ทำอย่างไรให้ผิวยังกระจ่างใสแม้ต้องเจอแดด
กระแดดคืออะไร? ทำอย่างไรให้ผิวยังกระจ่างใสแม้ต้องเจอแดด

หากเริ่มสังเกตเห็นจุดสีน้ำตาลหรือสีดำบนผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกแดดบ่อย ๆ เช่น ใบหน้าหรือมือ จุดเหล่านี้อาจเป็นปัญหา “กระแดด” ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าผิวของคุณกำลังถูกทำลาย!

แม้ว่ากระแดดจะไม่เป็นอันตรายหรือสามารถพัฒนาไปเป็นมะเร็งผิวหนังได้ แต่การรู้วิธีป้องกันและลดการเกิดกระแดดก็นับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่เพียงแต่เพื่อสุขภาพผิวที่ดีขึ้น แต่ยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและคงความอ่อนเยาว์ของผิวไว้ได้ในระยะยาว

ในบทความนี้ Better Me Clinic by Dr. Chanya จะพาทุกคนมาเจาะลึกเกี่ยวกับปัญหากระแดด ตั้งแต่สาเหตุของปัญหา วิธีรักษากระแดด และเคล็ดลับการป้องกัน ที่จะช่วยให้ผิวคุณปลอดภัยจากปัญหากระแดดได้

กระแดดคืออะไร?

กระแดด (Solar Lentigo) คือ ภาวะที่เกิดจากการถูกแสงแดดหรือรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เป็นเวลานาน จนทำให้ผิวหนังมีการสะสมเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นมีสีเข้มขึ้น เป็นจุดกระสีน้ำตาลหรือสีดำขนาดเล็ก มักพบได้บ่อยในบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดดมาก เช่น ใบหน้า, แขน และมือ

โดยกระแดดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย แต่จะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง และผู้ที่มีผิวขาวมากกว่าผู้ที่มีผิวเข้ม

กระแดดเกิดจากอะไร?

กระแดด เกิดจากการที่ผิวหนังสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดโดยตรงเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินในผิวหนังชั้นนอกผลิตเม็ดสีมากขึ้น เพื่อพยายามปกป้องผิวจากการถูกทำลาย

โดยรังสี UV สามารถแบ่งออกได้เป็นสองชนิดหลัก ๆ ได้แก่ รังสี UVA และรังสี UVB ซึ่งมีผลกระทบต่อผิวที่แตกต่างกัน สำหรับรังสี UVA จะสามารถทะลุเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึก ทำให้เซลล์ผิวในชั้นล่างเสียหายได้ ในขณะที่รังสี UVB จะทำให้ผิวชั้นนอกสุดเกิดอาการไหม้แดด เมื่อผิวได้รับรังสีทั้งสองชนิดนี้ เซลล์เม็ดสีจะตอบสนองโดยการผลิตเมลานินเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวมีสีเข้มขึ้นหรือเกิดจุดกระแดดสีน้ำตาลหรือสีดำที่มองเห็นได้ง่ายบนผิวหนัง

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดกระแดดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนี้

  • พันธุกรรม มีผลต่อความไวของผิวต่อแสง คนที่มีผิวขาวมักจะเกิดกระแดดได้ง่ายกว่าผู้ที่มีผิวคล้ำ เนื่องจากผิวที่ขาวจะมีเม็ดสีเมลานินน้อย ไม่สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้เพียงพอ 
  • อายุที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ผิวหนังบางลง สูญเสียความยืดหยุ่น และมีโอกาสสะสมเม็ดสีได้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้เกิดกระแดดได้ง่าย

กระแดดแตกต่างจากกระทั่วไปอย่างไร?

แม้ว่ากระแดดและกระทั่วไป (Freckles) จะมีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ บนผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินเหมือนกัน แต่ก็มีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เราสามารถแยกปัญหาผิวทั้งสองชนิดนี้ออกจากกันได้อย่างชัดเจน โดยสามารถแยกกระแดดออกจากกระทั่วไปได้ด้วยการสังเกตสิ่งเหล่านี้

1. สาเหตุการเกิด

  • กระทั่วไป มีสาเหตุหลักมาจากพันธุกรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวขาวหรือมีผิวสีอ่อน เมลานินที่ผลิตในชั้นผิวจะรวมตัวกันในบางจุดและปรากฏเป็นกระตั้งแต่อายุน้อย กระทั่วไปมักเกิดขึ้นได้เองโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสแสงแดดโดยตรง แต่เมื่อสัมผัสแดดก็จะทำให้กระชัดเจนขึ้น
  • กระแดด เกิดจากการสัมผัสแสงแดดระยะยาวโดยเฉพาะในผู้ใหญ่ เมื่อผิวหนังสัมผัสรังสี UV อย่างต่อเนื่องจะกระตุ้นให้เซลล์ผลิตเม็ดสีเมลานินสะสมจนทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลขึ้น กระแดดจึงเกิดขึ้นจากผลกระทบสะสมของแสงแดดและมักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป

2. ลักษณะภายนอก

  • กระทั่วไป มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีค่อนข้างอ่อน โดยมักเป็นสีน้ำตาลอ่อน สีแดง หรือน้ำตาลอมเหลือง มีขนาดเล็กและกระจายตัวทั่วบริเวณผิว โดยเฉพาะบริเวณกระแดดที่หน้า แขน และไหล่
  • กระแดด มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเข้มถึงดำ มักมีรูปร่างเป็นวงกลมหรือวงรีที่มีขอบชัดเจน มีขนาดใหญ่กว่ากระทั่วไป กระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณผิวที่สัมผัสแสงแดดเป็นประจำ และสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนด้วย

3. การเปลี่ยนแปลงของอาการ

  • กระทั่วไป สามารถจางลงได้เองเมื่อไม่ได้รับแสงแดด และสามารถเห็นได้ชัดเจนขึ้นในช่วงที่ได้รับแสงแดดมาก เป็นผลมาจากการทำงานของเมลานินที่อยู่ในชั้นผิวหนังกำพร้าที่ตอบสนองต่อแสงแดดโดยตรง
  • กระแดด เนื่องจากอยู่ในชั้นผิวหนังที่ลึกกว่าและเกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินเป็นเวลานาน ทำให้จุดด่างดำจากกระแดดจะยังคงอยู่ชัดเจน แม้ว่าจะหลีกเลี่ยงแสงแดดแล้วก็ตาม

4. อายุที่มักพบปัญหา

  • กระทั่วไป มักพบได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่น แต่จุดด่างดำจะสามารถจางลงได้เองในแต่ละช่วงวัย
  • กระแดด มักพบในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีการสัมผัสแสงแดดเป็นระยะเวลานาน กระแดดจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Age Spots” หรือ “จุดด่างดำแห่งวัย” โดยกระแดดมักจะเพิ่มจำนวนและชัดเจนมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

กระแดดรักษาอย่างไรได้บ้าง?

วิธีรักษากระแดดมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความลึกของกระแดดและลักษณะของผิวแต่ละคน โดยการรักษากระแดดจะเน้นไปที่การผลัดเซลล์ผิวเดิมและฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

1. การใช้ครีมบำรุงผิวและไวท์เทนนิ่ง

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังเผชิญกับปัญหากระแดดอยู่ การเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิว ลดความเข้มของจุดกระแดด และทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้

  • วิตามินซี (Vitamin C) เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอนุภาคเป็นกรด ทำให้มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว รวมถึงช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน ทำให้ดูผิวกระจ่างใสขึ้น
  • วิตามินบี 3 หรือ ไนยาซินนาไมด์ (Niacinamide) วิตามินบี 3 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ที่มีฤทธิ์ในการป้องกันผิวจากมลภาวะและแสงแดดได้ดี สามารถช่วยฟื้นฟูผิว ลดจุดด่างดำ ที่สำคัญยังเป็นส่วนประกอบที่อ่อนโยนต่อผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอีกด้วย
  • กรดโคจิก (Kojic Acid) เป็นกรดที่ได้มาจากการหมักข้าวหรือไวน์ มีคุณสมบัติสำคัญในการขัดขวางกระบวนการผลิตเมลานินและป้องกันผิวจากรังสียูวี ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นและรอยกระดูจางลง
  • กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) หรือ AHA เป็นกรดอ่อน ๆ จากผลไม้ มีคุณสมบัติสำคัญในการเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าบนใบหน้าที่เป็นกระแดด ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
  • กรดเบต้าไฮดรอกซี (Beta Hydroxy Acid) หรือ BHA มีฤทธิ์ในการขจัดน้ำมันและเซลล์โปรตีนบนผิวหนัง ทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกสุดที่ตายแล้วสามารถผลัดออกได้ ผิวจึงดูกระจ่างใสขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ BHA ที่เข้มข้นมากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแสบร้อนเมื่อโดนแดด รวมถึงอาจทำให้เกิดอาการหน้าแห้งเป็นขุยได้

ถึงแม้ว่าการใช้ครีมบำรุงผิวจะเป็นวิธีรักษากระแดดง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณดูแลผิวได้ด้วยตนเอง แต่ทั้งนี้ การเลือกใช้ครีมบำรุงหลายชนิดก็ควรทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางชนิดหากใช้ร่วมกันอาจส่งผลเสียต่อผิวมากกว่าผลดีได้ ตัวอย่างเช่น การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ BHA ควบคู่กับครีมที่มีวิตามินซี ทั้งสองสารนี้มีฤทธิ์เป็นกรด อาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงแดดมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำและเกิดกระแดดได้ง่ายขึ้น

2. เลเซอร์หน้าใส

เลเซอร์หน้าใส เป็นวิธีรักษากระแดด โดยการใช้เทคโนโลยีที่จะใช้พลังงานเลเซอร์ยิงลงไปบนผิว เพื่อกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินในชั้นผิวแตกตัว จากนั้นเม็ดเลือดขาวจะเข้ามากำจัดเม็ดสีที่แตกตัวนี้ออกจากร่างกายผ่านกระบวนการกำจัดของเสียตามธรรมชาติ ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอและใบหน้าดูกระจ่างใสขึ้น

สำหรับเลเซอร์ที่นิยมนำมาเลเซอร์กระแดดใช้มีอยู่หลากหลายนวัตกรรม โดยเลเซอร์แต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะของพลังงาน สามารถเลือกใช้ได้ตามสภาพผิว ดังนี้

  • Q-Switch Laser เป็นการใช้ลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงในการทำลายเม็ดสีอย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับกระทั่วไปและกระแดด โดยผลลัพธ์ที่ได้คือกระจะจางลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
  • Fractional Laser เป็นเลเซอร์ที่ช่วยปรับปรุงโครงสร้างผิวและลดจุดด่างดำ ซึ่งได้ผลดีสำหรับกระแดดที่เกิดในผิวชั้นที่ลึกมาก ๆ
  • Intense Pulsed Light หรือ IPL ไม่ใช่เลเซอร์ แต่เป็นการใช้คลื่นแสงที่มีช่วงคลื่นแตกต่างกันในการรักษากระแดดและจุดด่างดำอื่น ๆ ซึ่งคลื่นแสงนี้จะช่วยทำลายเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว

ทั้งนี้ การเลือกใช้เลเซอร์แต่ละชนิดจะแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน หากไม่มั่นใจว่าตนเองควรใช้เลเซอร์ชนิดไหนเลเซอร์กระแดด สามารถปรึกษาแพทย์ที่ Better Me Clinic ได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

3. ฉีดเมโสหน้าใส

ฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือ การใช้เข็มฉีดวิตามินหรือสารสกัดต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผิวลงไปในผิวชั้นกลางเพื่อเร่งให้เกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและซ่อมแซมผิวจากมลภาวะ รวมถึงช่วยให้ผิวแข็งแรง มีผิวสัมผัสที่เรียบเนียนขึ้นด้วย

หากคุณกำลังมีปัญหากระแดด Better Me Clinic ขอแนะนำ Meso Bright ตัวยาสูตรเฉพาะของทางคลินิกที่นำเข้าจากฝรั่งเศส มีสารสกัด phytoHA ธรรมชาติจากพืชและวิตามินที่จำเป็นต่อผิวอีกหลายชนิด โดยสารสกัดเหล่านี้จะเข้าไปฟื้นฟูผิวที่ไม่แข็งแรงให้กลับมาชุ่มชื้น รวมถึงช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ ดูจางลง

4. ผลัดเซลล์ผิวด้วยเคมี

การผลัดเซลล์ผิวด้วยการใช้สารเคมี (Chemical Peels) เป็นกระบวนการที่ใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ เช่น กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) หรือ AHA และกรดเบต้าไฮดรอกซี (Beta Hydroxy Acid) หรือ BHA เข้าไปทำให้ผิวชั้นนอกของหน้าที่เป็นกระแดดหลุดออกและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่

โดยระดับในการผลัดเซลล์ผิว แพทย์จะเลือกให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล แต่ส่วนมากแล้ว ปัญหากระแดดเป็นปัญหาผิวที่เกิดในผิวชั้นหนังแท้ แพทย์จึงมักจะเลือกรักษาด้วยระดับ Deep Peeling ซึ่งเป็นการผลัดเซลล์แบบลงลึกถึง Reticular Dermis 

การผลัดเซลล์ผิว นอกจากจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากระแดดแล้ว ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยลึกและผิวที่เสื่อมสภาพก่อนวัยอีกด้วย

5. การทำทรีตเมนต์ผิวหน้า

การทำทรีตเมนต์ผิวหน้า เป็นวิธีรักษากระแดด โดยการเติมสารอาหารให้กับหน้าที่เป็นกระแดดโดยตรงผ่านเทคนิคต่าง ๆ ซึ่งการทำทรีตเมนต์หน้าแต่ละครั้งมักประกอบไปด้วยหลายขั้นตอน รวมถึงสามารถเลือกดูแลปัญหาผิวด้านเดียว หรือหลายด้านไปพร้อม ๆ กันได้

หากคุณกำลังประสบปัญหาจุดด่างดำและกระแดด Better Me Clinic ขอแนะนำ Melasma Treatment ทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมของ Alpha Arbutin เข้มข้น ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้กระแดด รอยดำ และฝ้าแลดูจางลง

นอกจากนี้ ในขั้นตอนของการทำทรีตเมนต์ ทางคลินิกยังมีการฉายแสงบำบัด เป็นการใช้แสง LED ที่มีความเข้มข้นสูงมาช่วยกระตุ้นฟื้นฟูผิวอีกด้วย โดยการรักษากระแดดจะนิยมใช้แสงสีแดง (Red Light Therapy) เนื่องจากมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ และเร่งกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ ขณะทำจะช่วยให้ผิวได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และทำให้ผิวผ่อนคลายขึ้น

วิธีป้องกันการเกิดกระแดด

รังสียูวีจากแสงแดดนับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดกระแดด ดังนั้นวิธีป้องกันการเกิดกระแดดที่ดีที่สุด คือการดูแลผิวให้แข็งแรงและปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีดังนี้

  • ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ เพื่อป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB รวมถึงควรทาครีมกันแดดทุกเช้า แม้ในวันที่ไม่มีแดดหรืออยู่ในที่ร่ม ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้งนาน ๆ เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องผิวสูงสุด
  • สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดและสวมอุปกรณ์กันแดด เช่น สวมเสื้อแขนยาว, กางเกงขายาว, หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดดที่ป้องกัน UV ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดน้อยลงและลดโอกาสการเกิดกระแดดได้
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดช่วงเวลาที่รังสี UV สูง โดยเฉพาะช่วงเวลา 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น หากจำเป็นต้องออกแดดในเวลานี้ ควรปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดและสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม
  • ดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรง ควรดูแลผิวด้วยการบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิว รวมถึงควรทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี, วิตามินอี และเบต้าแคโรทีน เนื่องจากสารอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของผิว ทำให้ผิวสามารถต้านทานแสงแดดและการเกิดรอยด่างดำได้ดีขึ้น

สรุปเกี่ยวกับกระแดด

กระแดด คือ รอยคล้ำบนผิวที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดในระยะยาว จนเกิดการสะสมของเม็ดสีเมลานินในผิวหนังชั้นลึก ทำให้ผิวในบริเวณนั้น ๆ เกิดจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ และมีขอบค่อนข้างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม กระแดดสามารถรักษาได้ด้วยตนเองโดยการใช้ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด และไวท์เทนนิ่ง แต่ถ้าหากต้องการให้เห็นผลลัพธ์อย่างเร่งด่วน การเข้าพบแพทย์เพื่อรักษากระแดดที่หน้าด้วยหัตถการต่าง ๆ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ในการรักษากระแดด ให้ Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นหนึ่งในทางเลือก เนื่องจากเรามีบริการแก้ปัญหาผิวและรักษากระแดดให้เลือกอย่างหลากหลาย ทุกบริการดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น

ถ้ายังไม่มั่นใจว่าควรรักษากระแดดด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตถการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคสได้เลย ติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าคุณจะมีผิวสวย ๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน!

  • Dermnetnz, Solar Lentigo (https://dermnetnz.org/topics/solar-lentigo),19 October 2024.
  • Skin Sight, Solar Lentigo (https://skinsight.com/skin-conditions/solar-lentigo/),19 October 2024.
  • The Skin Cancer Doctor, Lentigo (https://www.theskincancerdoctor.com.au/education/skincancerlesions/lentigo/),19 October 2024.

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ