วิธีทำให้หน้าเรียว บอกลาหน้าบาน กรามใหญ่ แก้มเยอะ
Key Takeaway
- ปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ แก้มเยอะ เกิดจากปัจจัยที่หลากหลายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม กรามล่างพัฒนามากเป็นพิเศษ กล้ามเนื้อกรามใหญ่ ไขมันสะสมมากเกินไป และโรคบางชนิด เช่น โรคอะโครเมกาลี โรคคุชชิ่งซินโดรม เป็นต้น
- วิธีทำให้หน้าเรียวด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทำได้หลายวิธี เช่น โบท็อกซ์ลดกราม เมโสแฟต ทำ HIFU ทำ Ulthera และการทำ Thermage
- ที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya มีหัตถการวิธีทำให้หน้าเรียวมากมาย คำปรึกษากับคุณหมอมากประสบการณ์ มีเทคโนโลยีการรักษาให้เลือกหลากหลาย แก้ไขทุกปัญหาผิวพร้อมเผยผลลัพธ์ความสวยในแบบฉบับของตัวคุณเองได้ที่นี่
ทำหัตถการหน้าเรียวดีอย่างไร ทำไมต้องที่ Better Me Clinic
หากคุณกำลังมองหาวิธีทำให้หน้าเรียวที่เห็นผลไว เห็นผลนาน ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แนะนำหัตถการหน้าเรียวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ลดกราม เมโสแฟต ทำ HIFU ทำ Ulthera และการทำ Thermage แต่ละวิธีกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยมีรายบละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้
- โบท็อกซ์ลดกราม เป็นวิธีฉีดสารโบท็อกซ์เข้าไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กรามเล็กลง ใบหน้าดูเรียวขึ้น เหมาะกับคนที่มีกรามใหญ่ และกล้ามเนื้อกรามแข็งแรง
- เมโสแฟต เป็นการฉีดสารสลายไขมันเพื่อช่วยลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้าและบริเวณกราม ทำให้หน้าดูเรียว เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า
- การทำ HIFU เป็นการใช้คลื่นเสียงเข้าไปกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ยกผิวให้กระชับ ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- การทำ Ulthera เป็น HIFU ที่มีความแม่นยำสูง ยกกระชับได้ดีและแม่นยำ เหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าเฉพาะจุด
- การทำ Thermage เป็นการใช้คลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เพื่อให้ผิวดูกระชับมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีอายุมาก ร่างกายผลิตคอลลาเจนลดลงจนทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย
มาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya ที่นี่มีหัตถการวิธีทำให้หน้าเรียวที่หลายคนมองหา ดำเนินการให้คำปรึกษากับคุณหมอมากประสบการณ์ มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านความงามเป็นอย่างดี มีเทคโนโลยีการรักษาให้เลือกหลากหลาย มั่นใจได้ว่าสามารถแก้ไขทุกปัญหาผิว พร้อมเผยผลลัพธ์ความสวยในแบบฉบับของตัวคุณเองได้อย่างเต็มรูปแบบ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันใบหน้ามีผลต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตอย่างมาก ซึ่งลักษณะใบหน้าที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะมีคือใบหน้าที่เรียวสวยวีเชฟ (V Shape) ดูมีมิติ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้หน้าดูหวานละมุน ได้รูปน่ามอง อีกทั้งยังช่วยให้ดูบุคลิกดีและมีเสน่ห์มากขึ้นด้วย
ในทางกลับกัน ยังมีอีกหลายคนที่ต้องเผชิญกับปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ แก้มเยอะ ทำให้ใบหน้าดูใหญ่ กรอบหน้าไม่ชัด และดูไม่มีมิติรับกับอวัยต่าง ๆ บนใบหน้า
แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะ Better Me Clinic จะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการมีใบหน้าเรียวสวยให้มากขึ้น ทั้งสาเหตุของการเกิดปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ แก้มเยอะ วิธีทำให้หน้าเรียวด้วยตัวเองและเทคนิคทางการแพทย์ พร้อมแยกความแตกต่างของแต่ละวิธีให้เห็นกันอย่างชัด ๆ ถ้าพร้อมแล้วมาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย!
ปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ แก้มเยอะ เกิดจากอะไร?
ต้องบอกเลยว่าปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ แก้มเยอะ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ๆ ที่ส่งผลต่อความมั่นใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังแก้ไขได้ยากหากแก้ไขไม่ตรงจุด ดังนั้น Better Me Clinic จึงอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจสาเหตุของการเกิดปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ และแก้มเยอะ เพื่อจะได้เป็นตัวช่วยในการเลือกวิธีแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมมากขึ้น ซึ่งจะมีสาเหตุอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันทีละข้อเลย
พันธุกรรม
พันธุกรรมมีบทบาทสำคัญในการกำหนดลักษณะทางกายภาพและโครงสร้างใบหน้าของเรา ดังนั้นการที่มีปัญหากรามใหญ่ หน้าบาน และแก้มเยอะ ก็สามารถสืบทอดมาจากพ่อแม่หรือบรรพบุรุษได้
กรามล่างพัฒนามากเป็นพิเศษ
สำหรับบางคนอาจต้องเผชิญกับปัญหากรามล่างเจริญเติบโตมาเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้กรามใหญ่และมีใบหน้าที่กว้างขึ้น ปัญหานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ความไม่สมดุลของฮอร์โมน หรือความผิดปกติของพัฒนาการ
กล้ามเนื้อกรามใหญ่
กล้ามเนื้อกรามใหญ่อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม การเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ แข็ง ๆ อย่างต่อเนื่อง การนอนกัดฟัน รวมถึงความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร ซึ่งส่งผลให้หน้าดูกว้างและดูบานขึ้นได้
ไขมันสะสมมากเกินไป
เมื่อน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จะทำให้เกิดไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายรวมถึงใบหน้า ซึ่งการมีไขมันส่วนเกินสะสมบนใบหน้ามีผลทำให้รูปทรงของใบหน้าเปลี่ยนไป โดยเฉพาะการทำให้หน้าดูบานและแก้มเยอะขึ้น
โรคบางชนิด
โรคบางชนิดก็มีส่วนทำให้ทำให้กรามใหญ่ หน้าบาน และแก้มเยอะได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น
- โรคอะโครเมกาลี เป็นโรคที่ร่างกายมีการผลิตโกรทฮอร์โมนผิดปกติ ทำให้ร่างกายไม่สมส่วน โดยเฉพาะการมีกระดูกใบหน้าที่ใหญ่ขึ้น ขากันไกรใหญ่ขึ้น และมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
- โรคคุชชิ่งซินโดรม เกิดจากร่างกายมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงกว่าปกติ มีผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีภาวะอ้วนขึ้น รวมถึงมีใบหน้ากลมและใหญ่ผิดปกติ
วิธีทำให้หน้าเรียวด้วยตัวเอง
ปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ แก้มเยอะ เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวิธีที่ต้องใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอจึงจะแก้ปัญหาหน้าบาน แก้มเยอะ ให้กลับมาเรียวสวยได้ โดยวิธีการทำให้หน้าเรียวขึ้นด้วยตัวเองมีทั้งหมด ดังนี้
บริหารใบหน้า
การบริหารใบหน้าเป็นประจำ สามารถช่วยกระชับและทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงได้ โดยมีท่าบริหารใบหน้าที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ท่าอมอากาศ เป็นการอมลมที่ปากค้างไว้ 10 วินาที ท่านี้จะช่วยในการยกกระชับใบหน้า
- ท่าดูดแก้ม เป็นการดูดกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างเข้าหากัน 10 วินาที โดยทำทั้งหมด 5 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระชับใบหน้า ลดแก้ม และลดเหนียงใต้คางได้
- ท่าอมอากาศสลับซ้ายขวา เป็นการอมลมที่ปากค้างไว้ โดยสลับซ้ายขวาเป็นเวลา 20 วินาที สำหรับท่านี้จะช่วยลดไขมันสะสมที่แก้ม
- ท่าจุ๊บ เป็นการทำปากจู๋ขยับไปมาด้านข้าง 10 ครั้ง ท่านี้จะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อแก้มและกราม
- ท่าเป่าลูกโป่ง เป็นท่าอมอากาศเอาไว้แล้วเป่าออกมา 5 ครั้ง ท่านี้จะช่วยให้ไขมันที่แก้มบางลง
แต่งหน้าเรียว
สำหรับผู้ที่ต้องการให้หน้าเรียวสวย สามารถใช้เทคนิคการแต่งหน้าเรียวได้เช่นกัน โดยเน้นการใช้เทคนิคคอนทัวร์และไฮไลต์ ซึ่งจะใช้บรอนเซอร์เนื้อแมตต์หรือแป้งคอนทัวร์สร้างเงาตามแนวโหนกแก้มและแนวกรามให้ดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นจะใช้ไฮไลท์ที่จุดสูง ๆ บนใบหน้า เช่น โหนกแก้มและสันจมูก วิธีนี้จะช่วยพรางปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ และแก้มเยอะได้
การนวดหน้า
การนวดหน้าช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดการสะสมของน้ำ ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงได้ ซึ่งมีเทคนิคง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วนวดใบหน้าเบา ๆ เป็นวงกลม เริ่มจากคางแล้วเคลื่อนไปทางขมับ ทำซ้ำเป็นเวลา 5-10 นาทีทุกวัน
เลือกทรงผมพรางหน้าให้เรียว
การเลือกทรงผมพรางหน้าให้เรียวเป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยอำพรางปัญหาหน้าบาน แก้มเยอะ ให้กลับมาดูเรียวสวยและดูมีมิติขึ้นได้ โดยทรงผมที่มักตัดเพื่อให้หน้าเรียวมี 5 ทรง ดังนี้
- ผมทรงสไลด์เลเยอร์ (Layer Slide Hairstyle) เป็นทรงที่ช่วยจัดกรอบหน้าแบบไล่ระดับจากโหนกแก้มถึงคางคล้ายกับรูปตัวยู ทรงนี้จะช่วยอำพรางให้หน้ากลับมาดูเรียวสวยอย่างมีมิติขึ้น
- ผมทรงล็อบหน้าม้าปัดข้าง (Lob with Face-Framing Bangs) เป็นทรงที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปิดแก้ม โดยทรงนี้จะตัดสไลด์ไปตามกรอบหน้า เปิดหน้าผากตรงกลาง แล้วปัดผมแบ่งออกด้ายซ้ายและขวา เป็นอีกหนึ่งทรงที่ช่วยให้หน้าดูมีมิติ
- ทรงวูฟบ๊อบ (Wolf bob) เป็นทรงที่คนนิยมตัดเพื่อพรางโครงหน้าให้ดูเรียวขึ้น โดยจะตัดชิดใต้คางหรือแนวกรามไล่เลเยอร์ แล้วดัดเป็นลอนยุ่ง ๆ ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น
- ผมทรงฮิเมะคัท (Hime Haircut) เป็นทรงยอดฮิตที่มีเอกลักษณ์และปิดแก้มได้อย่างแนบเนียนโดยจะมีความยาวต่างระดับ ซึ่งจะตัดด้านหน้าให้สั้นตรงเสมอคาง แล้วปล่อยด้านหลังยาวหรือไล่เลเยอร์
- ทรงผมมัดครึ่งหัว (half-ponytail) เป็นอีกหนึ่งทรงที่ทำได้ง่ายและพรางหน้าให้ดูเรียวได้จริง ทำได้โดยการดึงผมครึ่งบนไปมัดด้านหลังและปล่อยผมครึ่งล่างลง ปล่อยปอยผมพรางแก้มเล็กน้อย ช่วยทำให้ใบหน้าเรียวยาวและดูดีมากขึ้น
การเลือกรับประทานอาหาร
การเลือกรับประทานอาหาร มีส่วนช่วยในการลดอาการบวมน้ำและทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น โดยมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลือกรับประทานอาหาร คือ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ลดการบริโภคโซเดียม และลดอาหารรสจัด เนื่องจากทำให้เกิดอาการบวมน้ำจนหน้าบวมใหญ่ขึ้น
วิธีทำให้หน้าเรียวด้วยเทคนิคทางการแพทย์
สำหรับผู้ที่อยากหน้าเรียวแต่ไม่มีเวลาและต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว วิธีทำให้หน้าเรียวด้วยตัวเองอาจไม่เหมาะ ปัจจุบันจึงมีวิธีทำให้หน้าเรียวด้วยเทคนิคทางการแพทย์มากมายให้เลือกใช้บริการ โดยหัตถการที่ Better Me Clinic อยากแนะนำมีทั้งหมด ดังนี้
การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม คือ การฉีดสารโปรตีนที่มีฤทธิ์ช่วยระงับการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกราม เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ไม่ค่อยได้ถูกใช้งาน จะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมีขนาดเล็กลงและมีความตึงกระชับมากขึ้น การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามจึงเป็นเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่อันเนื่องมาจากการนอนกัดฟันและเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ แข็ง ๆ อย่างต่อเนื่อง
การฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต คือ การฉีดตัวยาชนิดหนึ่งเข้าไปเพื่อสลายไขมันส่วนเกินและกระชับสัดส่วนตามร่างกายในจุดต่าง ๆ ที่ต้องการ หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ช่วยให้ไขมันในโครงสร้างผิวบริเวณที่ฉีดลดลงและลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่
การฉีดเมโสแฟตจึงเป็นวิธีที่ช่วยทำให้สัดส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าอย่างช่วงแก้มและเหนียงดูกระชับ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย ราคาจับต้องได้ จึงเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมจากคนที่มีปัญหาหน้าบานและแก้มเยอะจากไขมัน
การทำ HIFU
HIFU คือ การใช้เครื่องมือยกกระชับผิวหน้าและผิวส่วนอื่น ๆ ด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงแทรกลงไปยังชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน ซึ่งในชั้นนี้จะมีคอลลาเจนเกี่ยวกันเป็นเส้นใยทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว เมื่อได้รับการกระตุ้นจากคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงก็จะเกิดการหดตัวแล้วสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบโดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบได้รับอันตราย ส่งผลให้บริเวณที่ทำไฮฟู่เกิดความกระชับ ลดไขมันสะสมที่แก้ม เก็บกรอบหน้าให้ชัดขึ้น และช่วยปรับความเรียววีเชฟให้กับใบหน้า
การทำ Ulthera
Ulthera คือ การใช้เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงในระดับความถี่สูง โดยพลังงานอัลตราซาวด์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเข้าไปกระตุ้นให้เนื้อเยื่อหดตัวแล้วกลับมาเรียงตัวกันใหม่เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิว เมื่อระยะเวลาผ่านไป คอลลาเจนที่สร้างขึ้นมาใหม่จะช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเหนียง กรอบหน้าดูชัดขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีชั้นไขมันและเนื้อแก้มน้อย
Thermage
Thermage คือ นวัตกรรมยกกระชับใบหน้าด้วยการปล่อยพลังงานวิทยุคลื่นความถี่สูงชนิดขั้วเดียว โดยจะปล่อยพลังงานความร้อนกระจายลงใต้ชั้นผิวอย่างอ่อนโยน ซึ่งความร้อนที่ปล่อยไปนั้นจะเข้าไปกระตุ้นการผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ช่วยลดไขมันที่สะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง และลำคอ อีกทั้งยังช่วยยกกระชับใบหน้าให้เรียวเล็กลง ฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับ
โบท็อกซ์ลดกรามกับเมโสแฟต แตกต่างกันอย่างไร?
โบท็อกซ์ลดกรามกับเมโสแฟตสามารถปรับรูปหน้าให้เรียวได้ทั้งสองแบบ แต่จะแตกต่างกันในแง่ของเทคนิคและเป้าหมายที่ต้องการลด โดยโบท็อกซ์ลดกรามจะเป็นการฉีดโปรตีนบริสุทธิ์เข้าไประงับการทำงานของกล้ามเนื้อขากรรไกรเพื่อให้หดตัวและมีขนาดเล็กลง เมื่อกล้ามเนื้อไม่ค่อยได้ทำงานจะทำให้แนวกรามเรียวและโค้งมนมากขึ้น
ส่วนเมโสแฟตจะเป็นการฉีดส่วนผสมของสารละลายไขมันหลายชนิดเข้าไปบริเวณแนวกราม ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยสลายเซลล์ไขมัน ส่งผลให้มีแนวกรามที่ชัดเจนมากขึ้น
สรุปแล้ว โบท็อกซ์ลดกรามกับเมโสแฟต ต่างกันตรงที่โบท็อกซ์มุ่งเป้าไปที่การลดขนาดของกล้ามเนื้อ ในขณะที่การฉีดเมโสแฟตจะช่วยสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณกราม ซึ่งการเลือกระหว่างสองวิธีนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและผลลัพธ์ที่ผู้เข้ารับต้องการ
HIFU ต่างจาก Ulthera และ Thermage อย่างไร?
การทำ HIFU, Ulthera และ Thermage ล้วนแต่ช่วยยกกระชับใบหน้าให้เรียวสวย ซึ่งจะใช้หลักการส่งคลื่นพลังงานลงไปกระตุ้นคอลลาเจนที่ชั้นผิวเหมือนกัน แต่แตกต่างกันในส่วนของความกว้างของพลังงาน ซึ่งมีผลต่อผลลัพธ์ที่ต่างกันไปด้วย
- HIFU เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ที่เน้นความเข้มสูงกระตุ้นเนื้อเยื่อในผิวหนังระดับลึก โดยเฉพาะชั้น SMAS ซึ่งจะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ขนาด 0.5 – 1 มิลลิเมตร วิธีนี้จะเกิดความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 45 – 60 องศาเซลเซียส โดยทั่วไปจะเป็นวิธีที่เจ็บน้อย เห็นผลลัพธ์ประมาณ 20 – 30% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ได้ผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป อาจจำเป็นต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Ulthera เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ขนาด 1 มิลลิเมตร โดยมุ่งเน้นไปที่ผิวหนังชั้นลึก รวมถึงชั้น SMAS วิธีนี้จะเกิดความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 60 – 70 องศาเซลเซียส โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ประมาณ 30% ตั้งแต่ครั้งแรก ใกล้เคียงกับการทำไฮฟู่ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและเจ็บกว่าการทำ HIFU เล็กน้อย
- Thermage เป็นการส่งคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ที่มีความถี่สูง ขนาด 3 – 4 เซนติเมตร เนื่องจากเป็นก้อนพลังงานใหญ่ ทำให้ครอบคลุมพื้นที่ได้ดี มุ่งเป้าไปที่ชั้นผิวลึกประมาณ 4.3 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งก็คือชั้นผิว Dermis โดยจะให้ความร้อนแก่เส้นใยคอลลาเจน ทำให้เกิดการหดตัวและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ มักใช้สำหรับการปรับรูปหน้า เน้นแก้ปัญหาไขมันส่วนเกิน กระชับรูขุมขน และลดเลือนริ้วรอย โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ประมาณ 20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
ทำหัตถการหน้าเรียวที่ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร?
- คุณหมอมีประสบการณ์ด้านความงามมายาวนาน 8 ปี
- คุณหมอเป็นอาจารย์สอนหลักสูตรการอบรมด้านเวชศาสตร์ความงามจากองค์กร ABAM จากอเมริกา คนเดียวในไทย
- เทคนิคใหม่แบบ Better Me คลินิกเน้นการออกแบบที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้าของคนไข้ด้วยเทคนิคเฉพาะจากประเทศเกาหลี
- เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย คุณหมอทุกท่านให้ความสำคัญกับคนไข้ทุกเคส
- คลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน พร้อมนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- Better Me Club มีการบริการด้วยหัวใจหลังศัลยกรรม หรือทำหัตถการ ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
- เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและสวยที่สุดในราคาที่จับต้องได้
รีวิวก่อนและหลังทำทำหัตถการหน้าเรียวที่ Better Me Clinic
สรุป
สำหรับผู้ที่ต้องการบอกลาหน้าบาน กรามใหญ่ แก้มเยอะ อยากมีหน้าเรียวสวยดูมีมิติ เสริมให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์น่ามองมากยิ่งขึ้น แนะนำให้ทำหัตถการช่วยหน้าเรียวที่คลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน คุณหมอมีประสบการณ์ ใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือคุณภาพสูง รวมถึงมีการให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล เพราะการเลือกคลินิกเสริมความงามจะส่งผลต่อผลลัพธ์ที่เกิดกับหน้าของผู้เข้ารับบริการโดยตรง
Better Me Clinic by Dr. Chanya เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่อยากมีหน้าเรียว เนื่องจากคุณหมอของเรามีประสบการณ์มากกว่าหมื่นเคส ให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด ใส่ใจรายละเอียดแบบเคสต่อเคส ที่สำคัญมีโปรแกรมทำหน้าเรียวให้เลือกหลายโปรแกรม ตอบโจทย์ทุกปัญหาและทุกความต้องการ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เครื่องมือครบครัน พร้อมนวัตกรรมที่ทันสมัย
หากสนใจ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่และแก้ปัญหาได้ตรงจุดอย่างแน่นอน
- JAVAHERI, How to get a V-Shaped or V-Line Face Natural (https://sfplasticsurgeon.com/how-to-get-a-v-shaped-face-naturally/), 1 February 2024
- Beautyfoo mall, How To Get V Shape Face Naturally? Try These 18 Simple Hacks At Home! (https://beautyfoomall.com/blogs/news/how-to-get-v-shape-face-naturally), 1 February 2024
- Central, 8 เทคนิค บอกลาปัญหาหน้าอ้วนกลม! ลดใบหน้าให้เรียว มุมไหนก็มั่นใจ (https://www.central.co.th/e-shopping/8-effective-tips-to-lose-fat-in-your-face), 1 กุมภาพันธ์ 2567
- Sistacafe, ฉีดโบท็อกซ์กราม คืออะไร ใครบ้างที่ควรฉีด และใช้เวลากี่วันผลลัพธ์ถึงจะเข้าที่ ?(https://sistacafe.com/summaries/96809), 1 กุมภาพันธ์ 2567
- Sistacafe, อัปเดตหัตถการน่าทำ กระชับผิว อัปหน้าเรียว (https://sistacafe.com/summaries/95821), 1 กุมภาพันธ์ 2567