ต้นตอปัญหาหลังเสริมคางที่ควรรู้ พร้อมการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี
การศัลยกรรมทุกชนิด ไม่ว่าจะบริเวณไหนก็ตามอาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นตามมาได้ โดยเฉพาะการเสริมคาง ซึ่งปัญหาหลังเสริมคางมีต้นตอได้จากหลายปัจจัยด้วยกันที่ต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้สามารถดูแลตัวเองหลังเสริมคางได้อย่างถูกต้อง ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายตามมาในภายหลัง และยังลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่จะตามมาได้ ซึ่งสาเหตุอะไรบ้างที่ต้องทำความเข้าใจ รวบรวมไว้ในบทความนี้แล้ว
การเสริมคาง คืออะไร
การเสริมคาง คือ การศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหารูปหน้าสำหรับคนที่ต้องการให้ใบหน้าดูเรียว ละมุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกันไม่ว่าจะเป็นวิธีชั่วคราวอย่างการใช้สารเติมเต็ม (Filler) หรือวิธีที่เป็นที่นิยมอย่างการผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน ซึ่งมีซิลิโคนให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหารูปคางที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นคางตัด คางสั้น คางถอย ใบหน้าสั้น ก็สามารถใช้วิธีเสริมคางเพื่อเพิ่มความมั่นใจได้
ปัญหาหลังเสริมคาง เกิดจากอะไร
ปัญหาหลังเสริมคางเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ และเกิดขึ้นได้หากทำการเสริมคางที่ไม่ได้มาตรฐาน เสริมคางกับแพทย์ที่ประสบการณ์น้อย ขาดเทคนิคในการผ่าตัด รวมถึงการดูแลตัวเองที่ผิดวิธีหรือไม่ดีพอ อาจตามมาซึ่งปัญหาหลังเสริมคางได้หลายอย่างด้วยกัน โดยสาเหตุของปัญหาหลังเสริมคางมีดังนี้
1. เกิดการกระทบกระเทือน
ปัญหาหลังเสริมคางเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ และเกิดขึ้นได้หากทำการเสริมคางที่ไม่ได้มาตรฐาน เสริมคางกับแพทย์ที่ประสบการณ์น้อย ขาดเทคนิคในการผ่าตัด รวมถึงการดูแลตัวเองที่ผิดวิธีหรือไม่ดีพอ อาจตามมาซึ่งปัญหาหลังเสริมคางได้หลายอย่างด้วยกัน โดยสาเหตุของปัญหาหลังเสริมคางมีดังนี้
2. แผลติดเชื้อ
การติดเชื้อนั้นก็มีสาเหตุได้จากทั้งภายในและภายนอก ซึ่งภายในคือการที่แผลโดนน้ำ การทำความสะอาดแผลผิดวิธี ส่วนภายในมาได้จากทั้งอาหารการกินในช่วงพักฟื้น รวมไปถึงมาตรฐานการผ่าตัดของแพทย์ด้วย
3. กินอาหารแสลง
การกินอาหารแสลง หรืออาหารหมักดอก อาหารทะเล อาหารที่มีโซเดียมสูง อาหารสุกๆ ดิบๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องที่มีคาเฟอีน อาหารเหล่านี้ส่งผลโดยตรงกับแผลผ่าตัดได้ เพราะอาจทำให้แผลติดเชื้อจากสิ่งปนเปื้อนที่มากับอาหาร ทำให้แผลผ่าตัดหายช้า ตามมาซึ่งปัญหามากมายในภายหลัง
4. นอนท่าตะแคง
ปัญหาหลังเสริมคางอาจมาจากอิริยาบถในการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนได้ โดยเฉพาะการนอนตะแคง อาจทำให้เกิดปัญหาการเบี้ยวเอียงของซิลิโคนเสริมคาง เพราะฉะนั้นแพทย์จึงจะเน้นย้ำเสมอให้นอนหมอนสูง นอนหงายหลังจากศัลยกรรมบนใบหน้าไม่ว่าจะจุดใดก็ตามเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ นั่นเอง
5. เกิดปัญหาจากซิลิโคน
หากเลือกใช้ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน เลือกเสริมคางกับศัลยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ ขาดเทคนิคการผ่าตัดที่ถูกต้อง แม้จะดูแลตัวเองหลังเสริมคางดีแค่ไหนก็มีความเสี่ยงเกิดปัญหาหลังเสริมคางตามมาได้ ซึ่งอาการไหนบ้างที่บ่งบอกว่ามีปัญหาหลังเสริมคาง สามารถเช็กตามได้ดังนี้
- คางเป็นก้อน ลักษณะจะมีก้อนที่คาง เกิดจากการวางซิลิโคนผิดตำแหน่ง และซิลิโคนมีการถ่วงลงไปตามแรงโน้มถ่วงทำให้เกิดเป็นก้อน
- คางยื่นออกมาเป็นก้อน ลักษณะคือคางยื่นออกมามากกว่าปกติร่วมกับมีก้อนที่คางร่วมด้วย
- คางเบี้ยว ลักษณะซิลิโคนที่เสริมคางไม่อยู่ในตำแหน่งกลางของใบหน้า แต่ชี้ไปทางขวาหรือซ้าย ไม่สมดุล
- ซิลิโคนใกล้ทะลุ ลักษณะจะเห็นว่าผิวหนังบริเวณคางจะตึงและบาง มีลักษณะใส ร่วมกับมีอาการปวด
- เห็นรอยต่อของซิลิโคน ลักษณะจะเห็นว่ารอบซิลิโคนไม่เรียบเนียนไปกับผิวหรือโครงสร้างกระดูกกราม แต่เป็นรอยต่อของซิลิโคนชัดเจน
ดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้เกิดปัญหาหลังเสริมคาง
ถึงแม้ว่าปัญหาหลังเสริมคางจะเกิดขึ้นได้แต่หากดูแลตัวเองหลังทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด พร้อมงดข้อห้ามหลังเสริมคาง สามารถช่วยไม่ให้เกิดปัญหาหลังเสริมคางตามมาได้ ซึ่งมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยให้หลังเสริมคาง แผลเข้าที่ไว ไม่เกิดปัญหาตามมา หัวข้อนี้ได้รวบรวมเอาไว้ให้แล้ว
1. เลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ
ช่วยลดปัญหาหลังเสริมคางได้ ไม่ว่าจะเสริมคางแผลนอกหรือแผลในก็ตาม ต้องระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ สำหรับการผ่าตัดเสริมคางแผลนอก คือการเปิดแผลนอกช่องปาก ก็ต้องระวังแผลไม่ให้ติดเชื้อโดยการอย่าให้ถูกน้ำ โดยงดการล้างหน้าด้วยน้ำด้วยตรง แต่ใช้การเช็ดหน้าด้วยสำลีชุบน้ำแทน ส่วนการเสริมคางแผลในยิ่งมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าแผลนอกมาก แต่ก็สามารถดูแลระวังตัวเองให้แผลไม่ติดเชื้อได้โดยการทำความสะอาดช่องปากให้ดีด้วยการบ้วนปาก งดการแปรงฟัน รวมถึงปฏิบัติตามข้อห้ามหลังเสริมคางแผลในอย่างเคร่งครัด เพราะอาจเกิดการกระทบกระเทือนกับแผลได้
2. ประคบเย็น
หลังจากผ่าตัดเสริมคางทันที ควรทำการประคบเย็นรอบแผลผ่าตัด แต่อย่าให้ความเย็นโดนที่แผล และซิลิโคนโดยตรง เน้นประคบบริเวณแก้ม โดยการประคบเย็นต้องทำต่อเนื่องในช่วง 3 วันแรก จะช่วยลดอาการบวมหลังการผ่าตัดได้ และเมื่อวันที่ 4 เป็นต้นไปให้เริ่มประคบอุ่นตาม
3. นอนหมอนสูง
หลังจากผ่าตัดถ้าไม่อยากมีปัญหาหลังเสริมคางควรนอนหมอนสูงใน 2 สัปดาห์แรก โดยอาจใช้หมอนธรรมดา 2 ใบซ้อนกันให้สูงขึ้น ลักษณะการนอนแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน หรือใช้หมอรองคอเสริมตอนนอนกับหมอนหนุน เพื่อล็อกไม่ให้คอเคียงตะแคงขณะหลับ เพื่อป้องกันปัญหาซิลิโคนเบี้ยวเอียง
4. งดกินอาหารแสลง
เพื่อป้องกันปัญหาหลังเสริมคางควรงดกินอาหารแสลงอย่างน้อย 1 เดือน หลังจากผ่าตัดเสริมคาง โดยอาหารแสลงคือ กลุ่มอาหารหมักดอง อาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารทะเล อาหารที่เค็มจัด มีโซเดียมสูง รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนด้วย เน้นทานอาหารอ่อนๆ อาหารปรุงสุกที่เคี้ยวง่าย ไม่แข็ง ไม่กรอบ เพื่อให้ย่อยง่าย ไม่ต้องเคี้ยวเยอะ
5. บ้วนปากทันทีหลังกินอาหาร
เป็นวิธีการที่จะช่วยให้แผลสะอาด ลดโอกาสติดเชื้อได้ โดยใช้น้ำยาบ้วนปากชนิดอ่อนๆ หรือน้ำเกลือทางการแพทย์บ้วนปากทุกครั้งหลังทานอาหาร โดยเฉพาะคนที่เสริมคางแบบแผลใน จะช่วยให้สิ่งสกปรกหลังจากทานอาหารไม่สะสมในช่องปาก
6. งดแปรงฟัน
สำหรับคนที่เสริมคางแผลในแพทย์จะให้งดแปรงฟันหลังจากเสริมคาง 2 สัปดาห์ เพราะป้องกันการกระทบกระเทือนกับแผลผ่าตัด ซึ่งในขณะที่พักฟื้นหลังเสริมคาง สามารถทำความสะอาดช่องปากได้โดยการบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากหรือน้ำเกลือทางการแพทย์ทั้งตอนเช้า ก่อนนอน และเวลาหลังอาหาร
7. ห้ามบีบนวดหน้า
หลังเสริมคางแล้วไม่ควรนวดหน้าโดยเด็ดขาด ทั้งการนวดหน้าที่สถานเสริมความงาม หรือการนวดหน้าด้วยตนเอง หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณคาง งดการเท้าคางหรือดันคาง เพื่อให้แผลเข้าที่ไว ไม่เกิดปัญหาหลังเสริมคางตามมา
8. กินยาตามที่แพทย์สั่ง
ทานยาที่แพทย์สั่งจนครบ หลีกเลี่ยงการทานวิตามินเสริมอื่นๆ เพราะวิตามินมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้เกิดปัญหาหลังเสริมคางตามมา ทางที่ดีควรสอบถามแพทย์อย่างใกล้ชิดว่าวิตามินตัวไหนทานได้หรือไม่ได้ แต่ทางที่ดีควรงด และทานเฉพาะยาที่แพทย์สั่งเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย ลดโอกาสเสี่ยงเกิดปัญหาหลังเสริมคางได้
ทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี หนีปัญหาหลังเสริมคาง
สำหรับอีกวิธีการที่จะช่วยป้องกันปัญหาหลังเสริมคางได้ คือการล้างและทำความสะอาดแผลที่คางอย่างถูกต้อง โดยมีขั้นตอนที่สามารถทำได้ดังนี้
- ค่อยๆ เปิดผ้าดามซิลิโคนออกอย่างเบามือ
- เตรียมสำลีก้านหรือสำลีชุบน้ำเกลือทางการแพทย์
- นำสำลีก้าน หรือสำลีที่เตรียมไว้ค่อยๆ ซับทำความสะอาดคราบเลือดและสิ่งสกปรกรอบแผลอย่างเบามือ
- ใช้สำลีด้าน หรือสำลีชุบเบดาตีนเช็ดทำความสะอาดรอบแผล
- ใช้สำลีด้าน หรือสำลีชุบน้ำเกลือทางการแพทย์เช็กทำความสะอาดคราบเบตาดีนออกอีกครั้ง
- รอให้แผลแห้งสนิท แล้วจึงปิดด้วยปลาสเตอร์ปิดแผล
- ครบ 7 วัน แล้วไปพบแพทย์เพื่อตัดไหม หลังตัดไหมห้ามให้แผลโดนน้ำต่ออีก 2-3 วัน
เสริมคางกับ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร
- คุณหมอมีประสบการณ์ด้านความงามมายาวนาน 8 ปี
- คุณหมอเป็นอาจารย์สอนหลักสูตรการอบรมด้านเวชศาสตร์ความงามจากองค์กร ABAM จากอเมริกา คนเดียวในไทย
- เทคนิคใหม่แบบ Better Me คลินิกเน้นการออกแบบที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้าของคนไข้ด้วยเทคนิคเฉพาะจากประเทศเกาหลี
- เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย คุณหมอทุกท่านให้ความสำคัญกับคนไข้ทุกเคส
- คลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน พร้อมนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- Better Me Club มีการบริการด้วยหัวใจหลังศัลยกรรม หรือทำหัตถการ ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
- เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและสวยที่สุดในราคาที่จับต้องได้
รีวิวการเสริมคาง
เคสรีวิวเสริมคางที่ Better Me Clinic กับคุณหมอมากประสบการณ์ คุณหมอออกแบบทรงซิลิโคนตามดีไซน์รูปหน้าคนไข้ เพื่อให้เข้ากับคนไข้มากที่สุด และให้คนไข้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด
สรุป
ปัญหาหลังเสริมคางมีทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นจากความไม่ได้มาตรฐานตั้งแต่ขั้นตอนของการผ่าตัด ได้แก่ ความสามารถและประสบการณ์ของแพทย์ เทคนิคการผ่าตัดที่ไม่ได้มาตรฐาน และยังรวมถึงปัญหาที่เกิดจากการดูแลตัวเองของคนไข้หลังจากเสริมคางไปแล้ว ถึงแม้ว่าการทำศัลยกรรมจะมีโอกาสเกิดปัญหาหลังเสริมคางตามมาได้ แต่ก็สามารถป้องกัน ดูแลตัวเองให้ดีเพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาส่วนนี้ได้เช่นกัน โดยทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ประคบเย็นทันทีหลังเสริมคาง เลือกทานอาหารที่เคี้ยวง่าย งดอาการแสลง ทานยาตามแพทย์สั่ง และหมั่นทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาหลังเสริมคาง (FAQ)
หลายคนคงพอเข้าใจและรู้จักกับที่มาที่ไปของปัญหาหลังเสริมคางกันแล้ว ซึ่งหลายคนคงจะยังมีข้อสงสัยบางอย่าง ลองมาดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาเสริมคาง พร้อมกับคำตอบที่จะมาบอกให้ทุกคนได้รู้ไปพร้อมกัน