เสริมจมูกแบบรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียมคืออะไร?
หลายคนที่สนใจอยากเสริมจมูกให้ดูโด่งสวย และปลายพุ่ง แต่ติดที่ว่ามีเนื้อจมูกน้อย หรือผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาปลายจมูกบางหลังศัลยกรรม อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการใช้เนื้อเยื่อเทียมรองปลายเสริมจมูก ในบทความนี้ จะพาไปทำความรู้จักว่า เนื้อเยื่อเทียมคืออะไร และมีข้อดีอย่างไร ทำไมถึงได้รับความนิยมในการเสริมปลายจมูก และควรเลือกเสริมรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมที่ไหนดี
การเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียม คืออะไร?
เนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix) คือ โครงสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน มีลักษณะเป็นแผ่นที่มีรูพรุนเล็กๆ คล้ายกับฟองน้ำ ที่บริษัทยาของประเทศเกาหลีผลิต และสังเคราะห์ขึ้นมา โดยได้รับการรับรองจาก อย. ไทย หรือจริงๆ แล้วสามารถนำเนื้อเยื่อเทียมมาเสริมที่สันจมูกแทนซิลิโคนได้
การเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียม คือ การที่เพิ่มความหนาของเนื้อปลายจมูกด้วยตัวช่วยเนื้อเยื่อเทียม เพื่อลดความหนาของซิลิโคนบริเวณปลายจมูก และเพิ่มความโด่งของปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม เมื่อเนื้อปลายจมูกมีความหนามากขึ้น ก็จะสามารถลดแรงที่ซิลิโคนจะดันให้เนื้อปลายจมูกบางได้ ชะลอไม่ให้เนื้อบางเร็ว ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการทะลุได้ ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อเยื่อเทียมช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนังปลายจมูก เพื่อให้เกิดทรงที่โด่งพุ่งสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อดี-ข้อเสีย ของการเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม
ก่อนที่จะตัดสินใจเสริมจมูกโดยใช้เนื้อเยื่อเทียมรองปลาย การพิจารณาข้อดีและข้อเสียเหล่านี้ จะช่วยในการตัดสินใจได้
ข้อดี
- ลดโอกาสที่ปลายจมูกจะบางใส หรือมีอาการแดงตลอดเวลาจากเนื้อที่บางลง
- ลดโอกาสที่จะเห็นขอบมุมของซิลิโคนบริเวณปลายจมูก ทำให้ปลายจมูกกลมสวยเสมือนเนื้อจมูกจริง
- ลดโอกาสเสี่ยงที่ซิลิโคนจะดันเนื้อปลายจมูกจนทะลุ
- ไม่มีแผลผ่าตัดเพิ่มบริเวณอื่นๆ ไม่เจ็บตัวเพิ่ม
- เพิ่มความโด่งของทรงจมูกมากกว่าการเสริมด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียว
- ปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย
ข้อเสีย
- มีโอกาสที่จะแพ้เนื้อเยื่อเทียมได้ เนื่องจากเป็นโครงสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินที่สังเคราะห์ขึ้นมา ไม่ใช่โครงสร้างของเราเอง
- รูปทรงจมูกในตอนแรกจะสวยไม่เท่าการใช้เทคนิคหลังหู แต่เมื่อหลังทำ 3 เดือน เนื้อเยื่อเทียมรวมกับเนื้อปลายจมูก ก็จะเข้าที่สวยเหมือนกันค่ะ
- ความโด่งของปลายจมูกที่ใช้เนื้อเยื่อเทียมมารองจะโด่งน้อยกว่าเทคนิคหลังหู
การใช้เนื้อเยื่อเทียมเสริมจมูกปลอดภัยหรือไม่?
การใช้เนื้อเยื่อเทียมเป็นตัวเสริมในการเสริมจมูกหรือแก้จมูก เป็นที่นิยมมากรองจากการใช้กระดูกอ่อนหลังหู เนื่องจากเราไม่ต้องเจ็บตัวมีแผลอีกที่หนึ่งเพิ่มขึ้นมาที่หลังหู และวิวัฒนาการของการสังเคราะห์เนื้อเยื่อเทียมในสมัยนี้ค่อนข้างทันสมัยและปลอดภัย แทบจะไม่มีปัญหา แต่อย่างไรก็ตามโอกาสที่เราจะแพ้เนื้อเยื่อเทียมก็มีมากกว่าหลังหู เนื่องจากหลังหู เป็นกระดูกของร่างกายเราเอง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมที่สังเคราะห์ขึ้นมา
เนื้อเยื่อเทียมสามารถใช้เสริมบริเวณไหนของจมูกได้บ้าง?
เนื้อเยื่อเทียมถือเป็นหนึ่งในวัสดุสังเคราะห์ที่มีความสำคัญในวงการศัลยกรรมเพื่อความงาม โดยสามารถใช้เสริมบริเวณต่างๆ ของจมูกได้ ดังนี้
รองปลายจมูก
เนื้อเยื่อเทียมสามารถใช้เสริมเพื่อรองบริเวณปลายจมูกร่วมกับการใส่ซิลิโคนได้ โดยคุณหมอจะตัดตกแต่งชิ้นเนื้อเยื่อเทียมให้มีรูปทรงและความหนา ที่เหมาะสมที่สุดกับโครงสร้างจมูกของคนไข้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ออกมาตามที่ต้องการ โดยไม่ควรใส่เยอะเกินที่เนื้อจมูกจะรับไหว เนื่องจากจะทำให้แผลไม่ติด ปลายจมูกแดง จมูกอักเสบและติดเชื้อเป็นหนองตามมา หากเกิดปัญหาดังกล่าวแล้ว ต้องถอดซิลิโคนและเนื้อเยื่อเทียมออก เพื่อพักจมูกให้หายดีก่อนอย่างน้อย 3 เดือนถึงจะเสริมใหม่ได้
สันจมูก
สามารถเพิ่มความโด่งของสันจมูกด้วยการเสริมเนื้อเยื่อเทียมได้เช่นกัน แต่ไม่แนะนำ เนื่องจากโอกาสที่แกนจะลอย ขยับได้ไปมา และเบี้ยวเอียงสูงมาก เพราะเนื้อเยื่อเทียมมีความหนาแน่นเหมือนฟองน้ำแข็งๆ ซึ่งค่อนข้างนิ่มและไม่สามารถกำหนดทิศทางได้เหมือนซิลิโคน และสันจมูกจากการเสริมเนื้อเยื่อจะดูหนาๆ ใหญ่ๆ สันไม่คม เพราะเหมือนเราเข้าไปเพิ่มเนื้อให้มีปริมาณมากขึ้นในบริเวณนี้ แต่ไม่ได้เพิ่มโครงเพื่อเลียนแบบกระดูกจมูกเหมือนที่ซิลิโคนทำได้ หากเสริมซิลิโคนที่สันจมูก คุณหมอสามารถเสริมเข้าไปใต้เยื่อหุ้มกระดูกได้ จะทำให้สันไม่เอียง ไม่ลอย ดูคมสวยเป็นธรรมชาติ เหมือนกระดูกจมูกจริงมากที่สุด สันจมูกตรง โอกาสที่จะเอียงน้อยมาก ซึ่งแนะนำการเสริมสันจมูกด้วยซิลิโคนจะดีที่สุดค่ะ
การเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียมเหมาะกับใคร และจมูกรูปทรงแบบไหน
การเสริมจมูกรองปลายโดยใช้เนื้อเยื่อเทียม จะเหมาะกับกลุ่มต่างๆ ดังนี้
- ผู้ที่เสริมจมูกใหม่ สามารถใช้เนื้อเยื่อเทียมรองปลายจมูกได้ เช่น คนที่จมูกเดิมสั้น หรือต้องการให้ปลายจมูกดูพุ่งหลังเสริม โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีเนื้อจมูกน้อยมากๆ หรือมีปลายจมูกบางมากๆ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของซิลิโคนที่จะดันและกดเนื้อปลายจมูกให้บางใสจนทะลุได้
- ผู้ที่ไม่ได้อยากมีบาดแผลในจุดอื่นๆ เพิ่มเติม เนื่องจากในการรองปลายจมูกก่อนเสริม สามารถใช้เนื้อเยื่อหรือกระดูกส่วนอื่นๆ ภายในร่างกายได้ เช่น เนื้อเยื่อก้นกบ กระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกซี่โครง ทำให้จำเป็นต้องผ่าตัดในจุดอื่นๆ ร่วมด้วย
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขจมูกที่เสริม หลังจากเสริมจมูกไปแล้ว บางคนอาจมีปัญหาปลายบาง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุได้ในอนาคต หรือผู้ที่ต้องการเสริมให้ปลายจมูกดูพุ่งมากยิ่งขึ้น สามารถใช้เนื้อเยื่อเทียมรองปลายเสริมจมูกได้ ทั้งนี้ ในการพิจารณาการแก้ไขจมูกด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศัลยแพทย์ร่วมด้วย
ก่อนเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียมต้องเตรียมตัวอย่างไร
ในการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียม จะมีแนวทางในการเตรียมตัวที่คล้ายคลึงกับการศัลยกรรมจมูกอื่นๆ ดังนี้
- แจ้งข้อมูลด้านสุขภาพของตัวเองให้ครบถ้วน เช่น โรคประจำตัว รายชื่อยาที่ใช้เป็นประจำ ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ต่างๆ ทั้งยาและอาหาร เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มคนที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทั้งนี้ ควรแจ้งหรือนำเอกสารประวัติการรักษาจากทางโรงพยาบาลมาด้วยในวันที่ปรึกษากับศัลยแพทย์ หรือก่อนการจองคิวผ่าตัด
- งดวิตามินหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิด เช่น วิตามินอี เมล็ดองุ่นสกัด หรือน้ำมันปลา เป็นต้น โดยควรหยุดการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากวิตามินหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดอาจมีสารที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งอาจทำให้เลือดไหลมากในเวลาผ่าตัด และอาจเพิ่มอาการบวมช้ำหลังผ่าตัดได้
- งดแต่งหน้า ใส่เครื่องประดับ และใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด เพื่อป้องกันเครื่องสำอาง เครื่องประดับ หรือคอนแทคเลนส์หลุดเข้าไปในร่างกายระหว่างการผ่าตัด สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตา ควรสวมแว่นสายตาแทน ทั้งนี้ หากเครื่องประดับต่างๆ บนร่างกายไม่สามารถถอดออกได้ จำเป็นต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบด้วย
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนและหลังผ่าตัด โดยควรงดสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน และงดดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันปัญหาแผลสมานช้า หรือเสี่ยงติดเชื้อ
- ควรสระผมให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัด เนื่องจากหลังจากศัลยกรรมแล้ว คนไข้จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณบาดแผล โดยจะสามารถสระผมได้อีกครั้งหลังการตัดไหม ซึ่งอาจมีระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
ขั้นตอนการเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียม
- บล็อกเส้นประสาท และฉีดยาชาบริเวณจมูก
- ตัดตกแต่งเนื้อเยื่อเทียมให้พอดีกับเนื้อจมูก และโครงสร้างกระดูกอ่อนปลายจมูก
- แช่เนื้อเยื่อเทียมในยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อมากที่สุด
- ผ่าตัดศัลยกรรมจมูกพร้อมทั้งรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม
- เย็บปิดแผลศัลยกรรมจมูก
การดูแลหลังจากการเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียม
หลังจากการเสริมจมูกรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียมแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลสมานเร็ว และป้องกันผลข้างเคียงไม่พึ่งประสงค์ โดยมีแนวทางในการปฏิบัติตัว ดังนี้
- งดวิตามิน และอาหารเสริมหลังทำศัลยกรรม 1 เดือน
- งดอาหารกึ่งสำเร็จรูป และอาหารที่มีรสเค็มจัด เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือ โจ๊กสำเร็จรูป หลังทำศัลยกรรม 1 เดือน
- งดอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง ปลาร้า และอาหารทะเล หลังทำศัลยกรรม 1 เดือน
- งดบุหรี่ และแอลกอฮอล์ หลังทำศัลยกรรม 1 เดือน
- ประคบเย็น 5 วันแรกหลังทำศัลยกรรม นับหลังวันผ่าตัดเป็นวันที่ 1 ประคบบริเวณ หน้าผาก ตา และ แก้ม 2 ข้าง ไม่ให้โดนจมูก อาการบวมเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นหลังทำศัลยกรรม ไม่ต้องกังวล ยุบบวมแน่นอน หากปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยใน 3 วันแรกจะบวมที่สุดหากหมั่นประคบเย็น จะยุบบวมเร็วมาก
- ประคบอุ่น 5 วัน หลังประคบเย็น สามารถประคบได้ถึง 3 เดือน จะทำให้จมูกยุบบวมเร็ว
- ซับแผลด้วยคัตตอนบัตสเตอร์ไรด์ เลือดไหลออกจากแผล ใน 3 วันแรก ถือเป็นเรื่องปกติ ความบวมจะไม่ได้บวมและคั่งด้านบน ให้ซับแผลด้วยคัตตอนบัตสเตอร์ไรด์ให้สะอาด ห้ามมีสะเก็ดเกรอะกรังที่แผล หากมีให้ใช้คัตตอนบัตสเตอร์ไรด์ชุบน้ำเกลือวางบนแผลไว้ให้สะเก็ดนิ่มลง และค่อยๆ เช็ดออกให้แผลสะอาดตลอด
- เช็ดแผลด้วยน้ำเกลือสเตอร์ไรด์ แผลบริเวณจมูก ให้เช็ดแผลด้วยน้ำเกลือสเตอร์ไรด์ และซับให้แห้งทุกครั้ง เช้า เย็น หรือบ่อยตามต้องการหากมีสะเก็ด
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผล ห้ามโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหมที่จมูก ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์หลังทำ
- นอนหน้าตรงหัวสูง หนุนหมอน 2-3 ใบ และใช้หมอนโดนัทล็อกคอให้ตรง ไม่นอนตะแคง 1 เดือน ป้องกันการเบี้ยวเอียงของจมูก
- กินยาแก้อักเสบและยาลดบวมให้หมด ยาแก้ปวดให้ทานทุก 4-6 ชม. ใน 3 วันแรก หลังจากนั้นทานเมื่อมีอาการ
- ห้ามออกกำลังกาย และใส่แว่น เป็นเวลา 1 เดือนหลังทำศัลยกรรม
- ทานยาลดน้ำมูก หากมีน้ำมูกให้กินยาลดน้ำมูก ห้ามให้น้ำมูกโดนแผลเด็ดขาด
- ไม่ควรเม้มปากหรือขมวดคิ้ว จะทำซิลิโคนไหลลง
- กินไข่ได้วันละ 1 ฟอง นอกจากนี้ ยังสามารถกินอาหารกลุ่มโปรตีนอื่นๆ ได้ตามปกติ เช่น ไก่ หมู เนื้อ และปลาน้ำจืด ได้ตามปกติ
- แกะเทปเฝือกอ่อนในวันที่ 6 โดยหลังจากที่ผ่าตัด แพทย์จะติดเทปที่เฝือกอ่อน ให้แกะออกวันที่ 6 เริ่มนับวันที่ 1 หลังจากวันที่ผ่าตัด โดยแกะซ้ายขวาพร้อมกันค่อยๆ ดึงออกมาตรงกลาง
อาการแพ้เนื้อเยื่อเทียมสังเกตได้อย่างไร
เนื่องจากเนื้อเยื่อเทียมเป็นวัสดุเสริมจมูกสังเคราะห์ที่ได้รับการรับรองจากทาง อย. ไทย และผ่านการทดสอบกับระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เหตุผลที่ผู้ที่เสริมจมูกแบบรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียมสังเกตเห็นรอยแดงบริเวณที่เสริม เกิดจากการที่เซลล์ใหม่ของร่างกายและเส้นเลือดได้เติบโตเข้าไปในรูตาข่ายของเนื้อเยื่อเทียม โดยอาการนี้มักจะเกิดขึ้นหลังการเสริมจมูกเป็นเวลาไม่เกิน 1 เดือน และรอยต่างๆ จะจางลงไปเอง
ทั้งนี้ หากมีอาการแดงติดต่อกันนานเกินกว่านั้น หรือมีความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น รอยแดงกระจายตัวจากบริเวณที่เสริมเนื้อเยื่อเทียม ความรู้สึกเจ็บ หรือมีไข้ อาจเป็นข้อบ่งชี้ถึงอาการติดเชื้อได้ โดยควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยในขั้นต่อไป เช่น การเจาะเลือดดูจำนวนเม็ดเลือดขาวว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ เป็นต้น
นอกจาการการใช้เนื้อเยื่อเทียมแล้ว การรองปลายจมูกสามารถทำได้กี่วิธี
การรองปลายจมูกมีส่วนช่วยป้องกันปัญหาปลายบาง หรือลดโอกาสเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทะลุตามมาได้ นอกจากการใช้เนื้อเยื่อเทียมแล้ว ยังสามารถใช้เนื้อเยื่อ หรือกระดูกของผู้เสริมเองได้ ดังนี้
- เนื้อเยื่อเทียม นิยมใช้ค่อนข้างแพร่หลาย ไม่ต้องเจ็บตัวหรือมีแผลผ่าตัดเพิ่มที่หลังหู
- กระดูกอ่อนหลังหู นิยมใช้มากที่สุด และเทคนิคของคุณหมอเกียร์จะใช้กระดูกอ่อนหลังหูร่วมกับเนื้อเยื่อหลังหูด้วย และทำให้ปลายจมูกมีความละมุน สวย ปลอดภัย มากที่สุด และที่สำคัญคือคุณหมอเกียร์ฉีดยาชาที่หลังหูแทบไม่เจ็บเลย แผลผ่าตัดเล็กมากๆ ด้วยค่ะ
- เนื้อเยื่อหลังหู สามารถใช้รองปลายได้ แต่แนะนำให้ใช้ร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหูจะดีที่สุด ทำให้การรองปลายจมูกอยู่นานที่สุด ไม่สลายหายไปเร็ว หากใส่เนื้อเยื่อเพียงอย่างเดียว เมื่อเวลาผ่านไป เนื้อบริเวณนี้จะสลายหายไปค่อนข้างเร็วเนื่องจากมีแรงกดจากซิลิโคน
- กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นวิธีที่ไม่แนะนำ เนื่องจากเจ็บตัวมาก รุนแรงเกินความจำเป็น ต้องดมยาสลบ และต้องยอมรับความเสี่ยงเพิ่มในการเกิดภาวะที่มีลมในช่องเยื่อหุ้มปอดจากถุงลมปอดแตก จากการผ่าตัด
- เนื้อเยื่อก้นกบ เป็นบริเวณที่สามารถนำเนื้อเยื่อออกมาได้มาก บางสถานพยาบาลนิยมนำมาเสริมบริเวณสันจมูกด้วย แต่อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ไม่แนะนำให้เสริมสันจมูกด้วยเนื้อเยื่อ ไม่ว่าจะมาจากที่ใดก็ตาม เพราะจะทำให้สันดูใหญ่ เนื้อหนา สันไม่คมชัดเหมือนจมูกจริง ไม่ค่อยแนะนำให้ทำ หากสามารถนำบริเวณหลังหูมารองปลายได้ อาจใช้ในกรณีที่เคยใช้หลังหูทั้งสองข้างแล้ว
เสริมจมูกแบบรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียมที่ไหนดี? รีวิวจากชัญญาคลินิก
หลังจากที่ได้รู้ถึงข้อดีของการเสริมจมูกแบบรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียมกันไปแล้ว หลายคนอาจกำลังมองหาคลินิกเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ เพื่อรับบริการ โดยชัญญา คลินิก เป็นคลินิกศัลยกรรมความงาม และปรับรูปหน้า ที่มีบริการเสริมจมูก มาพร้อมกับหมอเกียร์ ศัลยแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมรีวิวอีกมากมาย สำหรับราคาในการเสริมจมูกเนื้อเยื่อเทียมนั้นเริ่มต้นที่ 27,999 บาท สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามราคาเพิ่มเติมได้ที่คลินิกค่ะ
รีวิว 1 จากเคสจะเห็นว่า บริเวณของจมูกจะดูโด่งสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น
รีวิว 2 จากเคสจะเห็นว่า หลังจากปรับแก้ไขแล้ว ปลายจมูกดูพุ่ง และเพิ่มลุคให้ดูโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม
รีวิว 3 จากเคสจะเห็นว่า หลังจากปรับแก้โดยการรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียม จะทำให้ช่วงปลายจมูกดูเต็มและได้รูปมากยิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
สำหรับใครที่มีคำถาม หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสริมจมูกแบบรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียม ชัญญา คลินิกจะมาช่วยตอบคำถามให้หายสงสัยกันค่ะ
การเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียม คืออะไร?
การใช้เนื้อเยื่อเทียมปลอดภัยไหม?
การเสริมจมูกรองปลายเนื้อเยื่อเทียมเหมาะกับใคร?
การรองปลายจมูกสามารถทำได้กี่วิธี?
ข้อดี-ข้อเสีย ของการเสริมจมูกด้วยกระดูกหลังหู
รวมบทความทั้งหมด
