ตัดปีกจมูกคลินิกไหนดี? ให้จมูกดูเรียวสวยแบบเป็นธรรมชาติ
เมื่อพูดถึงเรื่องปัญหาจมูกใหญ่ ทรงไม่ถูกใจ ไม่รับกับใบหน้า จุดที่สะดุดตาอีกจุดคงหนีไม่พ้น ปีกจมูก ที่อาจจะมีความกว้างเกินไป จนทำให้รู้สึกว่าดูไม่เป๊ะ ดูเหมือนรูจมูกบี้ ดูไม่สมมาตร หรือดูย้อย เป็นต้น ซึ่งการตัดปีกจมูกก็นับเป็นอีกทางเลือกในการแก้ไข ให้ได้ทรงจมูกที่พอใจมากขึ้นได้ ทั้งนี้หลายคนอาจยังสงสัยว่าการตัดปีกจมูกคืออะไร จมูกแบบไหนที่ควรทำ และระหว่างการตัดปีกจมูก การเย็บปีกจมูก และการฉีดโบปีกจมูกนั้น แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง บทความนี้จะมาตอบคำถามเหล่านั้นให้ รวมทั้งอธิบายเทคนิคที่ใช้ ขั้นตอน การเตรียมตัว ข้อควรรู้ แถมแนะนำให้ครบไปเลยว่าควรตัดปีกจมูกที่ไหนดีให้ได้ผลลัพธ์สุดปัง!
การตัดปีกจมูกคืออะไร
การตัดปีกจมูก คือ การตัดตกแต่งลดขนาดของเนื้อปีกจมูกที่เกิน ไม่ให้บาน และลดขนาดของรูจมูกไม่ให้กว้างจนเกินไป เพื่อให้จมูกเข้ากับรูปหน้า เข้ากับทรงจมูกเดิม ทั้งสันจมูกและปลายจมูก ซึ่งในการตัดปีกจมูกนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของปลายจมูกเดิม ต้องตัดปีกจมูกให้รับกับทรงปลายจมูกเดิม ถ้าปลายจมูกใหญ่ แล้วตัดปีกเล็ก จะทำให้ดูโดยรวมแล้วไม่สมส่วน ไม่ใช่ว่าปีกจมูกใหญ่ แล้วอยากตัดให้เหลือเล็กๆ ก็สวยงาม ความจริงแล้วไม่ง่ายแบบนั้นเสมอไป การตัดปีกจมูกนั้นต้องวางแผนให้ดีก่อนตัดสินใจ ปรึกษากับคลินิกตัดปีกจมูกให้ดีก่อน เพราะเมื่อตัดไปแล้ว ไม่สามารถเอาปีกเดิมคืนมาได้ อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อวางแผนนั้น คือ ต้องการตัดปีกจมูก ร่วมกับรูปแบบการเสริมจมูกแบบอื่นๆ ด้วยหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วสามารถทำร่วมกันได้ แต่ควรปรึกษากับคุณหมอเจ้าของไข้เสียก่อน เพื่อให้สามารถเลือกทรงจมูกให้สวยตรงใจได้มากที่สุด
ทรงจมูกแบบไหนที่ต้องตัดปีกจมูก
พอจะเห็นภาพกันแล้วว่าการตัดปีกจูกนั้นตัดแล้วตัดเลย ไม่สามารถทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีก และก็ไม่ใช่จมูกทุกทรงที่จะเหมาะกับการตัดปีก มาดูกันว่าทรงจมูกแบบไหนบ้างที่เหมาะ
จมูกชมพู่
ปีกจมูกหนาทรงชมพู่ ทำให้จมูกโดยรวมดูใหญ่ สร้างความไม่มั่นใจให้สาวๆ หลายคน โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูปหน้าตรง ปีกจมูกประเภทนี้ตัดค่อนข้างยาก ไม่ควรตัดเยอะจนเยอะไป ไม่เช่นนั้นจะทำให้รูจมูกเล็กแคบ และทำให้จมูกโดยรวมดูไม่มีทรง
ปีกจมูกกว้างกว่าหัวตา
สำหรับคนที่ลองวัดระยะของปีกจมูกดูแล้วพบว่ากว้างกว่าหัวตา อาจจะทำให้รู้สึกว่าจมูกกว้างเกินไป ดูใหญ่เทอะทะ ใหญ่เกินหน้า หรือดูบาน ไม่สวย กรณีนี้ก็เป็นอีกเคสที่นิยมตัดปีกจมูกค่ะ
เนื้อปีกจมูกตกห้อยย้อยลงข้างล่าง
เมื่อปีก 2 ข้างย้อยลงตกลงมาต่ำกว่าขาจมูกตรงกลาง ทำให้ดูโดยรวมแล้วทรงจมูกจะดูเชิด จมูกรั้นเหมือนจมูกหมู แนะนำให้ตัดปีก เก็บฐานปีกจมูกให้ขึ้นไปใกล้เคียงกับปลายจมูกเดิม
รูจมูกบานกว้าง
รูจมูกบานนั้นมักจะสังเกตได้จากฐานจมูกที่มีขนาดใหญ่ มองเห็นรูจมูกได้ชัด ใครที่รู้สึกว่ารูจมูกบานกว้างไป ไม่สวย ก็เหมาะที่จะใช้วิธีตัดปีกจมูกในการแก้ไขตกแต่งทรงเช่นกัน ซึ่งบอกเลยว่าในกรณีนี้ เทคนิคผสมผสานของหมอเกียร์ที่ชัญญาคลินิก จะช่วยทำให้รูจมูกเล็กลง และใกล้เคียงกันมากขึ้น ซึ่งช่วยให้มีจมูกที่สวยขึ้นได้!
เทคนิคการตัดปีกจมูกมีกี่แบบ
ในการตัดปีกจมูกนั้น คุณหมอจะพิจารณาใช้เทคนิคที่เหมาะกับทรงจมูกที่คนไข้ต้องการ ร่วมกับการพิจารณาทรงจมูกและเนื้อจมูกเดิมของคนไข้ รวมไปถึงอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น เวลาพักฟื้นที่คนไข้ต้องการ ไปดูกันว่าเทคนิคการตัดปีกจมูกในคลินิกตัดปีกจมูกโดยทั่วไปนั้นมีกี่แบบ และแต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียอะไร รวมถึงเหมาะกับใครบ้าง
การตัดปีกจมูกผสมผสานแผลในแผลนอก
การตัดปีกจมูกแบบผสมผสานนั้นมีจุดประสงค์เพื่อปรับทั้งขนาดของปีกจมูกด้านนอก และขนาดของรูจมูกให้เล็กลง ได้รูปทรงจมูกเรียวถูกใจใครหลายคน
ข้อดี
- แผลเป็นน้อย
- ทรงปีกจมูกออกมาสวยแลดูเป็นธรรมชาติ
- ทรงเข้ากับรูปหน้ามากที่สุด
ข้อเสีย
เป็นวิธีที่มีแผลเป็นจะน้อย แต่อาจมีแผลเป็นบ้างเล็กน้อย ตรงฐานจมูกเท่านั้น
เหมาะกับใคร
ถือว่าเหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาทั้งปีกจมูกและรูจมูก นอกจากนั้นยังเหมาะกับคนที่กังวลเรื่องแผลเป็น เพราะวิธีนี้สามารถปกปิดแผลเป็นได้เรียบเนียน
การตัดปีกจมูกแผลในอย่างเดียว
การตัดปีกจมูกแผลในอย่างเดียวสามารถลดปีกจมูกบริเวณฐาน ร่วมกับการลดขนาดของรูจมูกด้วย แต่ในบางรูปแบบก็สามารถลดเพียงแค่ฐานปีกจมูกอย่างเดียวโดยไม่ลดรูจมูกได้
ข้อดี
- แทบจะไม่เห็นแผลด้านนอกเลย (อาจจะเห็นน้อยมากหรือไม่เห็นเลย แล้วแต่กรณี)
- รูจมูกจะเล็กลง
ข้อเสีย
- ไม่สามารถหุบปีกที่กว้างได้ ปีกจะกว้างเท่าเดิม
- ทำแล้วไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก
เหมาะกับใคร
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่เนื้อปีกจมูกค่อนข้างบาง รูจมูกกว้าง รูจมูกมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เป็นทรงกลมหรือทรงรี
การตัดปีกจมูกแผลนอกอย่างเดียว
การตัดปีกจมูกแผลนอกนั้นมีจุดประสงค์เพื่อปรับขนาดปีกจมูกด้านนอก ผลลัพธ์คือปีกจมูกดูแคบลง และโค้งมนขึ้น
ข้อดี
- ลดขนาดเนื้อปีกจมูกได้มาก
ข้อเสีย
- ลดขนาดรูจมูกไม่ได้
- เห็นแผลเป็นด้านนอก
- หากเกิดพังผืดดึงรั้ง อาจทำให้ทรงปีกจมูกด้านนอกดูผิดรูป
เหมาะกับใคร
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่เนื้อปีกจมูกค่อนข้างหนา รูจมูกวางตัวแนวนอนเป็นทรงแบน
การตัดปีกจมูก vs การเย็บปีกจมูก vs ฉีดโบปีกจมูก ต่างกันอย่างไร
ทางเลือกในการแก้ไขปัญหารูปทรงปีกจมูกนั้นมีหลากหลายวิธี หลายคนอาจเคยได้ยินว่าทำได้ทั้งการตัดปีกจมูก การเย็บปีกจมูก และการฉีดโบปีกจมูก ซึ่งทั้งสามวิธีนั้นก็ต่างมีหลักการ ข้อดี ข้อเสีย ระยะเวลาของผลลัพธ์ และความเหมาะสมที่ต่างกันไป ไปดูกันว่าแต่ละแบบมีจุดเด่นและจุดด้อยอะไรบ้าง
ตัดปีกจมูก
การตัดปีกจมูกเป็นการแก้ไขรูปทรงปีกจมูกผ่านการผ่าตัด ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมาก แต่สามารถคงผลลัพธ์ได้ถาวร
ข้อดี
- เนื้อปีกเล็กลง ใกล้เคียงกัน 2 ข้าง
- รูจมูกเล็กลง ใกล้เคียงกัน 2 ข้าง
- อยู่ได้ถาวร
ข้อจำกัด
การตัดปีกจมูกนั้น หากตัดเนื้อปีกจมูกส่วนนั้นออกไปแล้วไม่สามารถเอาคืนได้ ดังนั้นควรปรึกษากับคุณหมอให้มั่นใจก่อนว่าเหมาะสมกับรูปหน้า ทั้งนี้ ในการทำศัลยกรรมต่างๆ หากผลลัพธ์ยังไม่ตรงใจมากนักก็สามารถปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมได้ เพื่อดูว่ามีวิธีแก้ไขผ่านการทำศัลยกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่
เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนทรงปีกจมูก หรือเปลี่ยนทั้งทรงปีกจมูกและรูจมูก ให้เห็นผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติอย่างถาวร
เย็บปีกจมูก
การเย็บปีกจมูก หรือบางครั้งเรียกว่าการเย็บเก็บปีกจมูก ก็เป็นอีกหนึ่งในรูปแบบการศัลยกรรมที่สามารถปรับทรงของปีกจมูกได้เช่นกัน โดยวิธีการเย็บมักไม่ต้องมีการตัดส่วนของปีกจมูกออกไป มีข้อดีและข้อจำกัด ดังนี้
ข้อดี
- ปรับเปลี่ยนแก้ไขรูปทรงได้จริง
- มีทั้งแบบที่มีแผลน้อยมาก ไปจนถึงเห็นแผลทั้งสองด้าน
ข้อจำกัด
- ปีกหุบเข้ามาชั่วคราว พอไหมขาดปีกจมูกก็กลับเป็นรูปร่างเดิม
- อาจอยู่ได้แค่ 1-2 สัปดาห์
- ในบางกรณีที่อยู่ได้นานกว่านั้น ต้องพิจารณารูปทรงจมูกก่อนทำ เพราะหากไม่เหมาะสมกันอาจไปกระทบกับทรงของริมฝีปากได้
เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนทรงปีกจมูกให้เห็นได้ชัดเจน และอยู่ได้นานกว่าการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน หรือผู้ที่ไม่ต้องการที่จะตัดเนื้อปีกจมูกออกไป
ฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก
คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน หรือที่เรียกกันว่า โบท็อกซ์ ลงไปที่บริเวณปีกจมูก ช่วยให้กล้ามเนื้อที่เป็นตัวการทำให้จมูกขยายออกเมื่อยิ้ม หัวเราะ พูด หรือหายใจแรงๆ นั้นคลายตัว จึงทำให้ปีกจมูกดูกว้างน้อยลงได้
ข้อดี
ปีกจมูกไม่บาน ไม่ขยับ เวลายิ้มหรือหัวเราะ
ข้อจำกัด
- เห็นผลอาจไม่ชัดเจนเท่าการตัดปีกจมูกและเย็บปีกจมูก
- มีระยะเวลา ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร จึงต้องมีการฉีดซ้ำเรื่อยๆ
เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่ยังไม่พร้อมตัดปีกหรือเย็บปีก
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดปีกจมูก
- งดวิตามิน อาหารเสริม บุหรี่ แอลกอฮอล์ และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ก่อนทำศัลยกรรม 1 เดือน
- ให้ประวัติการแพ้ยา แพ้อาหาร ยาที่ใช้ประจำ และโรคประจำตัวกับคลินิกตัดปีกจมูกที่จะเข้ารับบริการ
- งด ชา กาแฟ ก่อนมาทำศัลยกรรม 1 วัน
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม
ขั้นตอนการตัดปีกจมูก
- วาดรูปกำหนดปริมาณเนื้อปีกจมูกที่จะตัดออก
- ให้คนไข้ดู และวางแผนร่วมกันว่าเห็นด้วยกับแผนที่แพทย์วางไว้หรือไม่
- บล็อกเส้นประสาทก่อนทุกเคส
- ฉีดยาชาที่ปีกจมูก
- ผ่าตัดศัลยกรรมปีกจมูก เทคนิคผสมผสาน แผลนอกและแผลใน โดยเย็บ 2 ชั้น ทั้งชั้นใน และชั้นนอก เพื่อให้แผลติดแน่น ไม่ปริ ลดการเกิดแผลเป็นได้มากที่สุด
การดูแลตัวเองหลังจากการตัดปีกจมูก
- งด วิตามิน อาหารเสริม อาหารรสเค็มจัด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คัพโจ๊ก หลังทำศัลยกรรม 2 สัปดาห์
- งด บุหรี่ แอลกอฮอล์ ของหมักดอง ของแสลง และอาหารทะเล หลังทำศัลยกรรม 1 เดือน
- ไม่ควรกินอาหารเผ็ดร้อน หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง
- หากต้องการกินไข่ สามารถกินไข่ได้วันละ 1 ฟอง
- กินไก่ หมู เนื้อ และปลาน้ำจืด ได้ตามปกติ
- ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ควรนอนยกหัวสูง
- ห้ามแผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วันแรก
- งดแต่งหน้าจนกว่าจะมีการตัดไหม ซึ่งปกติจะตัดไหมหลังจากผ่าตัด 7 วัน
- ประคบเย็น 5 วันแรกหลังทำศัลยกรรม นับวันพรุ่งนี้หลังทำศัลยกรรมเป็นวันที่ 1
- ประคบอุ่นได้เรื่อยๆ ในวันที่ 6 เป็นต้นไป ประคบได้ถึง3 เดือน จะทำให้ยุบบวมเร็ว
- เช็ดแผลด้วยน้ำเกลือ และซับให้แห้งทุกครั้ง เช้า เย็น ดูแลแผลให้สะอาดตลอด ไม่มีสะเก็ดเกรอะกรัง
- นอกเหนือจากการทำความสะอาด ไม่ควรสัมผัสแผลบ่อยๆ
- ปีกจมูกจะยุบบวมเต็มที่ และรูจมูกจะเข้าที่ ภายใน 3-6 เดือน
- ยาแก้อักเสบและยาลดบวมให้กินให้หมด ส่วนยาแก้ปวดให้กินทุก 4-6 ชั่วโมง ใน 3 วันแรก หลังจากนั้นกินเมื่อมีอาการเท่านั้น
- ห้ามพูดเยอะ ยิ้มเยอะ หรือ ขยับใบหน้าบ่อยๆ เพราะจะทำให้ปีกจมูกขยับเยอะ จนทำให้แผลไม่ติด แผลปริ และเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้
- พยายามหลีกเลี่ยงฝุ่น อย่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะทำให้จาม ไอ หรือคัดจมูก
- พยายามหลีกเลี่ยงแดด
- ไม่ควรออกกำลังกายหนัก เพราะอาจกระทบกระเทือนมาถึงแผล
- รูจมูกหลังทำไปในช่วงแรกจะมีขนาดเล็กว่าปกติ เนื่องจากความบวม รูจมูกจะเข้าที่ ภายใน 3-6 เดือน
- หากพบเส้นไหม ห้ามดึงเด็ดขาด อาจปรึกษาแพทย์ที่คลินิกตัดปีกจมูกที่เข้ารับบริการมา หรือถ้าต้องการจัดการเอง ให้ใช้วิธีตัดแทน
- การตัดปีกจมูกจะเกิดแผลเป็นมากน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองค่อนข้างมาก หากแผลมีสะเก็ดเกรอะกรัง หรือแผลปริ จะทำให้เกิดแผลเป็นได้ชัด
ตัดปีกจมูกปลอดภัยไหม หลังตัดปีกจมูกแล้วมีอาการอะไรบ้าง
- อาการบวม แดง ช้ำ
- ในช่วง 2-6 สัปดาห์แรก รูปทรงอาจยังไม่เข้าที่ ไม่ต้องกังวลหากรู้สึกว่าจมูกยังบวมอยู่ไม่หายในช่วงนั้น เพราะถือเป็นเรื่องปกติ
- ช่วงแรกอาจมีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกมาบ้าง เป็นเรื่องปกติ
- อาจรู้สึกว่าแผลแฉะ สามารถซับหรือทำความสะอาดแผลเบาๆ และปล่อยให้แห้งไปเองตามธรรมชาติ
อาการข้างต้นนั้นถือว่าเป็นอาการปกติ ไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตาม การตัดปีกจมูกนั้น หากทำกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือทำกับคลินิกตัดปีกจมูกที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ก็อาจเสี่ยงติดเชื้อได้ ดังนั้น ควรเลือกคลินิกที่ไว้ใจได้จะดีที่สุด
ข้อควรรู้อื่นๆ เกี่ยวกับการตัดปีกจมูก ใช้เวลารวมทั้งหมดเท่าไหร่
- ระยะเวลาที่ใช้ผ่าตัดขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน แต่เฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์ จะมีการนัดมาตัดไหม ควรไปให้ตรงนัด
- ระยะเวลาพักฟื้นแตกต่างกันไปตามแต่ละเคส แต่ปกติแล้วจะใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 2 สัปดาห์
เลือกคลินิกตัดปีกจมูกที่ไหนดี
รู้ครบเรื่องทรงจมูกและความเหมาะสมแล้ว หากตัดสินใจว่าการตัดปีกจมูกนี่แหละเหมาะกับเรา ก็แน่นอนว่าการเลือกคลินิกเสริมจมูกให้สวยก็สำคัญไม่แพ้กัน เรียกว่าสำคัญที่สุดเลยก็ยังได้! แล้วจะไปตัดปีกจมูกที่ไหนดี ไปดูหลักการเลือกคลินิกให้ปัง ไม่โป๊ะ กันดีกว่า
คลินิกที่มีคุณภาพ และมีอุปกรณ์คุณภาพ
คลินิกศัลยกรรมความงามควรมีใบอนุญาต คลินิกสะอาด ถูกสุขลักษณะ และมีอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยยืนยันว่ากระบวนการทำศัลยกรรมจะเป็นไปได้อย่างเรียบร้อย ไม่กังวลเรื่องสารปนเปื้อน
ประสบการณ์ของคุณหมอผู้ทำการผ่าตัด
การที่คุณหมอมีประสบการณ์ในการตัดปีกจมูกมาเยอะย่อมดีกว่าอยู่แล้ว ภาวะแทรกซ้อนเกิดน้อย ปัญหาตามมาน้อย เพราะคุณหมอรู้ว่าควรจะจัดการไม่ให้เกิดปัญหา หรือถ้าเกิดแล้วจะจัดการกับมันอย่างไร
ผลงานของคุณหมอผู้ทำหัตถการ
การเห็นผลงานจริงของคุณหมอก่อน ก็ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีเช่นกันว่าผลงานดีจริงหรือไม่ และช่วยเราตัดสินใจว่าชอบผลงานของคุณหมอไหม สำหรับการตัดปีกจมูกนั้น แผลเป็นต้องน้อยมาก น้อยที่สุด หรือแทบไม่มีได้ยิ่งดี เพราะแผลปีกจมูกหากเป็นเยอะจะเห็นชัดมาก ยิ่งอยู่กลางใบหน้าด้วย จะทำให้ไม่มั่นใจในตัวเองไปเลย ดังนั้น หากจะดูผลงาน สังเกตแผลเป็นด้วยก็จะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นเลยทีเดียว
ฉีดยาชาไม่เจ็บ ไม่ทรมาน
ที่ชัญญาคลินิกนั้น คุณหมอเกียร์เข้าใจว่าใครๆ ก็ไม่อยากเจ็บไม่ว่าจะขั้นตอนไหน จึงใส่ใจตั้งแต่การฉีดยาชาเลย ซึ่งคุณหมอจะมีเทคนิคฉีดยาชา (Distraction Technique with GCT) เพื่อให้คนไม่เจ็บเลย
มีรีวิว
หากจะเลือกคลินิกศัลยกรรมควรเลือกคลินิกที่มีรีวิวให้เห็นก่อน ไม่ว่าจะเป็นรีวิวในรูปแบบของรูปภาพ วิดิโอ หรือคำบอกเล่าจากผู้ที่เข้ารับบริการ ทั้งในเรื่องของผลลัพธ์เองก็ดี และการให้บริการเองก็ดี รีวิวยังเป็นสิ่งยืนยันด้วยว่าคลินิกนั้นๆ เป็นคลินิกที่มีคนไว้วางใจมาใช้บริการจริง
รีวิวการตัดปีกจมูก
รีวิวการตัดปีกจมูกของชัญญาคลินิก จะเห็นได้ว่าปีกจมูกลดความกว้างลง และเมื่อทรงอยู่ตัว แผลหายแล้ว ก็จะได้รูปทรงจมูกที่แลดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
ตัดปีกจมูก ราคาเท่าไหร่
การตัดปีกจมูกนั้น แต่ละเคสจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ราคาจึงแตกต่างกันไปด้วย ซึ่งที่ชัญญา คลินิกนั้นเริ่มต้นที่ 19,999 สำหรับใครที่สนใจอยากมีจมูกเรียวสวย สามารถแอดไลน์เพื่อสอบถามค่าบริการได้ @chanyaclinic ซึ่งสะดวกสุดๆ