ควรเลือกซิลิโคนเสริมคางอย่างไร ให้เหมาะกับรูปหน้า

การเสริมคางนั้น นอกจากการเลือกทรงของคางที่ชอบแล้ว ยังต้องดูสัดส่วนของใบหน้าควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ผ่าตัดคางออกมาแล้วมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งการแบ่งสัดส่วนบนใบหน้าให้มีความสมดุล และลงตัว สามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ ส่วนบน (Upper Face), ส่วนกลาง (Middle Face) และส่วนล่าง (Lower Face) ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ ต้องมีอัตราส่วนที่พอๆ กัน หากส่วนล่างสั้นกว่าส่วนอื่น ก็ควรจะเติมเต็ม 1/3 ของส่วนล่าง ให้พอดี เท่าๆ กับ ส่วนบน และ ส่วนกลาง 

ผู้ที่มีปัญหาคางเหล่านี้สามารถเสริมคางเพื่อให้ใบหน้ามีสัดส่วนที่สมดุลกันได้

• • • คางถอย คางถอยเป็นลักษณะของคางที่ทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยม ซึ่งสามารถเช็กได้โดยการหันข้างแล้วลากเส้นตรงจากปลายจมูกไปที่คาง หากคางอยู่หลังเส้นคือลักษณะของคางถอย ควรเสริมคางเพื่อให้ได้สัดส่วนที่พอเหมาะ

• • • คางบุ๋ม คางบุ๋ม หรือคางเป็นคลื่น คือลักษณะของคางที่ตรงกลางยุบเข้าไป ซึ่งเกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณคาง หรือเกิดจากรูปทรงของฐานกระดูกคาง

• • • คางสั้น สำหรับผู้ที่มีคางสั้นเมื่อวัดสันส่วนของใบหน้าแล้ว ส่วนล่างจะสั้นกว่าสองส่วนที่เหลือ ทำให้รูปหน้าไม่ได้สัดส่วนที่สวยงาม

• • • หน้ากลม ผู้ที่มีใบหน้ากลม จะส่งผลทำให้คางนั้นดูสั้น หรือเหมือนไม่มีคาง ใบหน้าจึงไม่มีความเรียว ซึ่งการเสริมคางสามารถช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้นได้

• • • คางสองชั้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้น ซึ่งเกิดจากมีไขมันบริเวณใต้คางมากเกินไป ทำให้ใบหน้าดูอ้วน แถมยังไม่ดีตามหลักโหวงเฮ้งอีกด้วย ซึ่งการเสริมคางช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวได้

• • • คางตัด เป็นลักษณะของคางที่ตัดเป็นแนวราบ ส่งผลให้ใบหน้าเหลี่ยม แข็งทื่อ ดูไม่มีมิติ ถือเป็นอีกหนึ่งลักษณะที่หากเสริมคางแล้ว ก็จะช่วยให้ใบหน้าดูยาว และเรียวขึ้นได้

สำหรับลักษณะคางที่ได้พูดถึงในข้างต้น ถือเป็นลักษณะคางที่ควรเสริมเพื่อช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนที่พอเหมาะ แถมยังช่วยให้ใบหน้ามีความสวยได้รูปมากขึ้น แต่ในกรณีคางยื่น คางยาว ซึ่งจะทำให้ใบหน้ายื่นออกมามากกว่าปกติ ในกรณีนี้ไม่แนะนำให้เสริมคาง เพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าส่วนล่างยาวกว่าส่วนอื่นๆ จนไม่ได้รูป