ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา วิธีแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ เป็นร่องลึกอย่างอยู่หมัด
การมีถุงใต้ตาที่ชัดเจน มีร่องใต้ตาลึก ผิวใต้ตาคล้ำ ปัญหาเหล่านี้เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนมีใบหน้าที่ดูอ่อนเพลีย ไม่สดใส คล้ายกับคนอดนอน นอกจากนี้ยังทำให้หน้าดูไม่อ่อนเยาว์ แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ สารเติมเต็มที่จะมาช่วยให้ใบหน้าดูมิติ ผิวใต้ตาให้ดูสม่ำเสมอ และกลับมามีใบหน้าสดใสอีกครั้ง
สาเหตุของการเกิดปัญหาถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา (Under Eyes Bag) เป็นถุงไขมันที่ยื่นออกมาบริเวณใต้ตา จนทำให้เกิดมิติแสงเงาใต้ตาที่ดูหมองคล้ำ ทำให้บุคลิกใบหน้าดูไม่สดชื่น แบ่งออกได้ 2 ชนิด ได้แก่
- ถุงใต้ตาแท้ เป็นประเภทของถุงใต้ตาที่มักเกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น กรรมพันธุ์ อายุที่มากขึ้นจนผิวหนังใต้ตาเริ่มหย่อนคล้อย หรือความผิดปกติจากต่อมไร้ท่อ ทำให้ไขมันกับของเหลวไหลไปรวมตัวที่กะเปาะถุงใต้ตาจนเห็นมิติที่ชัดขึ้น
2. ถุงใต้ตาเทียม เป็นประเภทของถุงใต้ตาที่มักเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การขยี้ตาบ่อยๆ การร้องไห้บ่อยๆ การนอนหลับพักผ่อนน้อย การใช้สายตามากเกินไป การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกินอาหารรสจัดเป็นปริมาณมาก ทำให้เกิดอาการบวมน้ำที่ถุงใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร? แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eyes Filler) คือ การฉีดสารเลียนแบบสารเติมเต็มผิวชื่อว่า “สารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)” ซึ่งเป็นสารโอบอุ้มความชุ่มชื้นที่มีตามธรรมชาติในผิวหนังของมนุษย์ลงไปที่ผิวใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาผิวใต้ตาที่ดูไม่สวยงาม โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ไขเหล่านี้ได้ เช่น
- ปัญหาผิวใต้ตาหมองคล้ำ สารฟิลเลอร์สามารถเข้าไปเสริมความชุ่มชื้นให้กับเนื้อผิว กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนเสริมความกระจ่างใส นอกจากนี้ยังยกชั้นผิวให้ห่างจากหลอดเลือดใต้ผิว ซึ่งเป็นอีกปัจจัยทำให้ผิวดูคล้ำจากสีของหลอดเลือดที่เข้ม ทำให้เนื้อผิวที่หมองคล้ำตรงใต้ตากลับมาสว่างสดใส ทำให้ภาพรวมดวงตาดูไม่โทรมเหมือนคนอดนอน
- ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย สารฟิลเลอร์สามารถเข้าไปปรับความหย่อนคล้อยของผิวให้เต่งตึง รวมถึงทดแทนชั้นไขมันที่ใต้ตา ทำให้ผิวใต้ตากลับมาตึงกระชับ และทำให้มิติของถุงใต้ตาดูเนียนสม่ำเสมอไปกับเนื้อผิวส่วนอื่นๆ
- ปัญหาผิวใต้ตาลึก สารฟิลเลอร์สามารถเข้าไปเติมเต็มฐานกระดูกและฐานเนื้อผิวที่ยุบเป็บร่องจนทำให้ตาดูโหลให้กลับมามิติเพิ่มขึ้นได้
- ปัญหาริ้วรอยใต้ตา รวมถึงรอยตีนกาที่หางตา สารฟิลเลอร์สามารถปรับความหย่อนคล้อยหรือรอยเหี่ยวย่นให้กลับมาเต่งตึงดูอ่อนกว่าวัย ทำให้ริ้วรอยต่างๆ ที่ปรากฎเวลายิ้ม หรือแสดงสีหน้าดูจางลง
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เป็นวิธีแก้ไขมิติของผิวใต้ตาที่เห็นผลทันที
- แก้ไขปัญหาผิวใต้ตาได้หลากหลาย
- ใช้เวลาทำหัตถการเพียง 20-30 นาที จากนั้นก็สามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังฉีด สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
- ผลลัพธ์มักอยู่ได้ค่อนข้างนานอย่างต่ำอยู่ที่ประมาณ 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี
- หากไม่พึงพอใจผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายออกได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้กี่ซีซี?
ปริมาณฟิลเลอร์สำหรับฉีดบริเวณใต้ตาจะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวใต้ตาในผู้เข้ารับบริการแต่ละท่าน โดยส่วนมากจะใช้ปริมาณอยู่ที่ 1-4 ซีซี ขึ้นอยู่กับการประเมินจากแพทย์ก่อนเริ่มต้นทำหัตถการ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันจึงจะเห็นผล?
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในบางส่วนทันทีหลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนที่สุดหลังฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์ หรือในผู้เข้ารับบริการบางท่านอาจเห็นผลได้ชัดเจนหลังฉีดประมาณ 1 เดือน
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่แพทย์เลือกใช้ ร่วมกับการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ โดยส่วนมากผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 8-12 เดือน ในบางยี่ห้ออาจอยู่ได้นานถึง 18-24 เดือน แล้วสารฟิลเลอร์ก็จะค่อยๆ สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บหรือไม่?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Better Me Clinic By Dr. Chanya ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากทางคลินิกจะมีการฉีดยาชาให้ก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ และยังใช้เทคนิคการฉีดยาชาพิเศษอย่างเทคนิค Distraction Technique with GCT ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดยาที่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บระหว่างลงยาชาที่ใต้ผิว
ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีความปลอดภัย หากรับบริการกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์ มีประสบการณ์ในการแก้ไขมิติของผิวใต้ตา รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ฟิลเลอร์ตัวไหนดี?
ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในการฉีดบริเวณใต้ตาจะแบ่งออกได้ 3 แบรนด์
1. ฟิลเลอร์แบรนด์ Restylane
เป็นฟิลเลอร์นำเข้าจากประเทศสวีเดน ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์และมีความปลอดภัย มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการออกแบบเนื้อฟิลเลอร์เพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวที่หลากหลาย ได้แก่
- NASHA Technology (Non Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology) เป็นฟิลเลอร์ที่เน้นการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยและมีความคงตัวสูง ตัวอย่างรุ่นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดใต้ตาและใช้เทคโนโลยีชนิดนี้ ได้แก่
- Restylane Classic เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลแข็งและอนุภาคใหญ่ เหมาะกับผู้ที่มีผิวใต้ตาบางหรือมีปัญหาริ้วรอยใต้ตาในระดับปานกลางจนถึงมาก
- Restylane Perlance Lyft เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็ง มีความคงรูปสูง เนื้อไม่อิ่มฟู เหมาะกับผู้ที่มีผิวใต้ตาลึกจากฐานกระดูกใต้ตาที่ยุบตัว
- Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่มละเอียด เหมาะต่อการฉีดเก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็กๆ รวมถึงผู้ที่มีผิวบาง
- OBT Technology (Optimal Balance Technology) เป็นฟิลเลอร์ที่เน้นเนื้อผิวอ่อนนุ่ม มีความยืดหยุ่น ช่วยเติมเต็มมิติให้ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ ตัวอย่างรุ่นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยี OBT ได้แก่
- Restylane Volym เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อยืดหยุ่นสูงมาก มีความแข็งปานกลาง เหมาะต่อการฉีดเพื่อเติมเต็มเนื้อผิวที่เป็นร่องหรือมีริ้วรอย
- Restylane Defyne เป็นฟิลเลอร์ที่ทั้งยืดหยุ่น อ่อนนุ่ม โอบอุ้มน้ำได้ดี และมีเนื้อแข็งปานกลาง เหมาะต่อผู้ที่มีผิวใต้ตาบาง และต้องการเติมเต็มมิติใต้ตาที่เป็นร่องลึก
2. ฟิลเลอร์แบรนด์ Juvederm
เป็นฟิลเลอร์นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่นด้านอายุของฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นาน สลายตัวช้า แต่ยังมีความเรียบเนียนและยืดหยุ่นสูง ไม่จับตัวเป็นก้อน โดยรุ่นที่นิยมฉีดบริเวณใต้ตา ได้แก่
- Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งและคงรูปสูง นิยมฉีดเพื่อเติมผิวใต้ตาตั้งแต่ชั้นลึก
- Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งเช่นกัน แต่มีความยืดหยุ่นกว่า ช่วยเติมเต็มผิวใต้ตาให้มีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ
- Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด นิยมฉีดเพื่อเติมเต็มผิวใต้ตาชั้นตื้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต่างจากการฉีดไขมันใต้ตาอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับการฉีดไขมันมีวัตถุประสงค์เพื่อเติมเต็มมิติผิวให้เพิ่มขึ้นเหมือนกัน แต่มีจุดเด่นในการเสริมความสวยงามให้กับผิวใต้ตา รวมถึงกระบวนการทำหัตถการที่ไม่เหมือนกันด้วย โดยสรุปได้ดังต่อไปนี้
- สารที่ใช้ฉีด สารฟิลเลอร์จะใช้สารเลียนแบบสารไฮยาลูรอนิคแอซิด ในขณะที่การฉีดไขมันใต้ตาจะเป็นการใช้สเต็มเซลล์จากเนื้อไขมันที่ดูดมาจากร่างกายผู้เข้ารับบริการเองในการฉีด
- จุดเด่นในการเติมเต็มผิว การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นการฉีดเติมเต็มที่เน้นการปรับโครงรูปหน้า มีการปั้นแต่งเนื้อฟิลเลอร์โดยมือของแพทย์ระหว่างฉีดไปด้วย และยังช่วยการยกกระชับผิว แต่การฉีดไขมันจะเน้นเสริมชั้นเนื้อผิวให้หนาขึ้นและตึงขึ้นเท่านั้น ไม่สามารถปั้นให้ขึ้นรูปตามที่ต้องการได้เหมือนเนื้อฟิลเลอร์
- ระยะเวลาทำหัตถการ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้เวลาทำหัตถการไม่นาน ขั้นตอนไม่ซับซ้อน เจ็บน้อย และไม่ต้องพักฟื้น ส่วนการฉีดไขมันจำเป็นต้องมีการตรวจปริมาณไขมันที่ใช้ก่อน มีการดูดไขมันก่อนนำมาฉีด และต้องนำไขมันไปปั่นแยกสเต็มเซลล์ก่อนเริ่มทำหัตถการอีกด้วย
- ระยะเวลาที่เห็นผลลัพธ์ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และจะเห็นผลเต็มที่ในอีก 2-3 สัปดาห์ ส่วนการฉีดไขมันจะเห็นผลหลังฉีดประมาณ 3-5 สัปดาห์
- ความยาวนานของผลลัพธ์ ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นานที่สุดประมาณ 2 ปี ส่วนผลลัพธ์หลังฉีดไขมันจะอยู่ได้ประมาณ 3-5 ปี หรืออาจนานถึง 10 ปี
- แผลหลังทำหัตถการ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผู้เข้ารับบริการอาจมีรอยเข็มฉีดยาเล็กๆ บริเวณที่ฉีดได้ แต่รอยก็จะค่อยๆ หายไปเองภายในเวลาไม่กี่วัน ส่วนการฉีดไขมันจะทำให้มีแผลบริเวณที่ดูดนำไขมันออกมา
- โอกาสแพ้สารที่ใช้ฉีด ผู้เข้ารับบริการบางท่านอาจมีโอกาสแพ้สารฟิลเลอร์ได้ แต่ส่วนมากพบได้น้อย ส่วนการฉีดไขมันจะมีโอกาสแพ้ได้ต่ำ เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันจากร่างกายผู้เข้ารับบริการเองในการฉีด
- ความเสี่ยงหลังฉีดที่พบได้บ่อย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีโอกาสที่สารฟิลเลอร์จะไหล หรือกระจายไปยังผิวส่วนอื่นได้ จนทำให้มิติของผิวที่แพทย์ปั้นไว้ผิดรูป ส่วนการฉีดไขมันก็มีโอกาสที่ไขมันจะสลายตัวไปเองตามธรรมชาติหลังฉีด ทำให้ไขมันที่เหลืออยู่มีเนื้อไม่สม่ำเสมอกะร และทำให้ผิวมีลักษณะเป็นคลื่นได้
- ประโยชน์ด้านอื่นๆ การฉีดฟิลเลอร์ยังช่วยเสริมความชุ่มชื้นของเนื้อผิว และเสริมการสร้างคอลลาเจนให้กับเนื้อผิว ส่วนการฉีดไขมัน สเต็มเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปนั้นสามารถเข้าไปช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูผิวได้ และยังทำให้หน้าดูเด็กขึ้น
- ราคาค่าใช้จ่าย: ราคาบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะแพงกว่าการฉีดไขมัน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี?
ฉีดฟิลเลอร์แก้ไขใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตาใหญ่ ร่องใต้ตาลึก ใต้ตามีริ้วรอย ทำให้ผิวหน้าแลดูไม่อ่อนเยาว์และสดใส ด้วยฝีมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Better Me Clinic คลินิกศัลยกรรมเสริมความงามนำโดยหมอเกียร์ แพทย์หญิงชัญญา ลีลาสุวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการเสริมความงามด้วยการฉีดฟิลเลอร์มาแล้วกว่าหมื่นเคส
ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ทุกกล่องที่ Better Me Clinic เป็นผลิตภัณฑ์ของแท้ที่ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแล้วอย่างครบถ้วน การันตีได้ถึงความปลอดภัยในการทำหัตถการ
ก่อนขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ในทุกบริเวณของใบหน้า ผู้เข้ารับบริการจะได้เข้าปรึกษาและพูดคุยเกี่ยวกับแผนการฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ก่อน สามารถช่วยกันวางแผนปรับเสริมมิติของผิวหน้า และเลือกรุ่นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่เหมาะต่อการปัญหาความงามอย่างที่ต้องการแก้ไข
และในขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จาก Better Me Clinic จะใช้เทคนิค Distraction Technique with GCT ในการฉีดยาชา โดยเป็นเทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจผู้เข้ารับบริการระหว่างใช้เข็มลงยาชาใต้ผิว สามารถป้องกันไม่ให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกเจ็บจากเข็มฉีดยาได้
ทางคลินิกยังมีเทคนิคลับเฉพาะอย่าง Chanya’s Painless Technique ซึ่งจะทำให้ผู้เข้ารับบริการไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบผิวในระหว่างฉีดเนื้อฟิลเลอร์อีกด้วย
เปลี่ยนดวงตาของคุณให้มีความสุกสกาวแจ่มใส ไม่ดูหม่นหมอง และยังดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับ Better Me Clinic หรือติดต่อสอบถามข้อมูล จองบริการฉีดฟิลเลอร์ได้ผ่านช่องทาง
ปรึกษาคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แก้ไขทุกปัญหาที่กังวลได้แน่นอน!
ที่มาของข้อมูล
- Better Me Clinic By Dr. Chanya, ใต้ตาดำ คล้ำ มีริ้วรอย เป็นร่อง ทำผิวหน้าไม่สดชื่น แก้ปัญหาได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (https://bettermeclinicofficial.com/aesthetic/under-eyes-filler/), 24 ตุลาคม 2566.
- ELITE Medical & Aesthetcs, All about under eye filler (https://www.emacolorado.com/all-about-under-eye-filler/), 24 October 2023.
- SkinX Team, ฟิลเลอร์ VS ฉีดไขมัน ต่างกันหรือไม่? ปัญหาผิวของคุณเหมาะกับอะไร? (https://skinx.app/content/filler/filler-vs-fat), 24 ตุลาคม 2566.
- SkinX Team, ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ไขตาดำ ถุงใต้ตา ปลอดภัยกว่าที่คิด! (https://skinx.app/content/filler/under-eye-filler), 24 ตุลาคม 2566.
