fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

PRP (Platelet Rich Plasma) คืออะไร สร้างผิวที่กระชับ อ่อนเยาว์ได้อย่างไร

PRP (Platelet Rich Plasma) คือ สร้างผิวที่กระชับ อ่อนเยาว์ได้อย่างไร
PRP (Platelet Rich Plasma) คืออะไร สร้างผิวที่กระชับ อ่อนเยาว์ได้อย่างไร

หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น PRP หรือ PLATELET RICH PLASMA ที่ทางการแพทย์มักนำมาใช้ลดอาการอักเสบของเอ็นกล้ามเนื้อในหมู่นักกีฬา หรือผู้ป่วยจากโรคเข่าเสื่อม รวมถึงกลุ่มคนที่มีอาการผมร่วงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย 

อย่างไรก็ดีในปัจจุบันมีการใช้ PRP เพื่อเป็นหัตถการกระชับผิว กระชับรูขุมขน และเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผู้ที่มีอาการผิวหมองคล้ำได้ด้วยในเวลาเดียวกัน รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ทำไม PRP ถึงสามารถกู้อาการผิวโทรมให้กลายเป็นผิวเด้ง ดูเด็กได้ ไปติดตามกันต่อได้ในบทความชิ้นนี้

การฉีด PRP คือหัตถการอะไร

การฉีด PRP คือหัตถการอะไร

PRP (Platelet Rich Plasma) คือ เกล็ดเลือดประเภทหนึ่งที่ได้จากการปั่นเลือดด้วยความเร็วสูง เกล็ดเลือดชนิดนี้มีความเข้มข้นมากกว่าเกล็ดเลือดทั่วไปถึง 5 เท่า ทำให้ทางการแพทย์มีการนำ PRP มาใช้เพื่อรักษา และเร่งกระบวนการซ่อมแซมของร่างกายอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจาก PRP มี Growth Factor หลายชนิด พร้อมช่วยทำให้เลือดแข็งตัวได้เป็นอย่างดี

PRP ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ใน PRP อุดมไปด้วยโปรตีน และเซลล์ต้นกำเนิดของเลือดอย่างเข้มข้น ทำให้เกล็ดเลือดชนิดนี้มีความสามารถในการช่วยซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ได้ดี นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว PRP ยังมีข้อดีอื่นๆ อะไรอีกบ้าง ไปติดตามกันต่อได้ ดังนี้ 

  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น 
  • กระชับแนวรูขุมขนให้เล็กลง 
  • ลดริ้วรอยแห่งวัย 
  • ปรับผิวกระจ่างใส ทำให้ผิวมีความสม่ำเสมอกัน 
  • บำรุงผิวอย่างล้ำลึก ทำหน้าที่เติมความชุ่มชื้นอย่างเร่งด่วน

การฉีด PRP ดีกว่าหัตถการยกกระชับผิวหน้าอื่นอย่างไร

การฉีด PRP เป็นการนำเซลล์เลือดของตัวเองมาฟื้นฟูเซลล์ผิวที่มีปัญหา และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้คุณสามารถวางใจได้ว่านี่เป็นหัตถการที่ปลอดภัย อีกทั้งยังครอบคลุมปัญหาผิวบนใบหน้าทั้งหมด แตกต่างจากการทำหัตถการยอดนิยมอย่างฟิลเลอร์ ที่มีการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด และไม่สามารถซ่อมแซมเซลล์ผิวที่มีปัญหาได้ 

จุดนี้ทำให้ PRP มีความเหนือชั้น และตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวขรุขระ หรือแม้แต่ผิวหน้าที่ขาดการบำรุงอย่างหนักก็สามารถฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใครบ้างที่ควรฉีด PRP

ใครบ้างที่ควรฉีด PRP

ก่อนหน้านี้เราได้พาทุกคนไปรู้จักกับภาพรวมและจุดเด่นของ PRP ไปเบื้องต้นแล้ว ในเนื้อหาส่วนนี้จะเจาะลึกว่าใครบ้างที่ควรฉีด PRP หัตถการนี้ได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนที่มีปัญหาผิว ทั้งผู้ที่มีริ้วรอยตามวัย ผู้ที่มีจุดด่างดำบนใบหน้า ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง และผิวหน้าแห้งกร้าน หากต้องการเช็กว่าคุณเองควรฉีด PRP หรือไม่ ลองดูไปด้วยกันว่าใครบ้างที่ควรฉีด PRP 

  • ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดการบำรุง 
  • ผู้ที่มีปัญหารอยสิว อย่างรอยดำและรอยแดง 
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย 
  • ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง 
  • ผู้ที่มีผิวขรุขระ ไม่เรียบเนียน 
  • ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีด PRP

อย่างไรก็ดีการฉีด PRP ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะมีบางกลุ่มคนที่ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้ฉีด PRP เนื่องจากอาจจะเกิดการระคายเคืองหรือเกิดผลกระทบเพิ่มเติมกับร่างกาย โดยกลุ่มคนที่ไม่ควรฉีด PRP  มีดังนี้

  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ 
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับผิวหนัง 
  • ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ 
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ภูมิตัวเอง หรือติดเชื้อรุนแรง 
  • ผู้ที่มีประวัติเลือดแข็งตัว 
  • ผู้ที่กำลังรับประทานยาต้านภาวะเลือดแข็งตัว 

สามารถฉีด PRP ในบริเวณใดได้บ้าง

โดยปกติแล้ว ทางการแพทย์มีการนำ PRP มาใช้ในการรักษาส่วนต่างๆ ของร่างกายให้กับอวัยวะที่ต้องการฟื้นฟู หรือซ่อมแซมเป็นพิเศษ เมื่อมีการพัฒนามาเป็นรูปแบบของหัตถการ PRP จึงมีการนำไปฉีดหลากหลายบริเวณบนใบหน้า เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และแก้ไขปัญหาผิวที่จัดการได้ยาก ซึ่ง PRP สามารถฉีดได้ที่บริเวณต่างๆ ดังนี้ 

  • หน้าผาก 
  • หว่างคิ้ว 
  • หางตา 
  • ทั่วผิวหน้า
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ข้อควรรู้ก่อนฉีด PRP มีอะไรบ้าง

ข้อควรรู้ก่อนฉีด PRP มีอะไรบ้าง

เพื่อให้ PRP สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ คุณควรรู้เกี่ยวกับข้อควรรู้ก่อนฉีด PRP เสียก่อน มีอะไรบ้างที่จัดเป็นสิ่งที่ผู้สนใจฉีด PRP ไม่ควรพลาด เพื่อใช้สำหรับการเตรียมตัว และตัดสินใจเลือกใช้บริการหัตถการประเภทนี้ 

  • พักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย 
  • 1-2 วันก่อนฉีด PRP ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2 ลิตร 
  • แจ้งโรคประจำตัวก่อนเข้ารับบริการเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เลือดแข็งตัว 
  • งดดื่มแอลกอฮอลล์ และสบูบุหรี่ ก่อนฉีด PRP 
  • งดทานอาหารที่มีไขมันสูง

การเตรียมตัวก่อนฉีด PRP มีอะไรบ้าง

หากตัดสินใจได้แล้วว่าจะฉีด PRP แน่นอน เรื่องของการเตรียมตัวก็เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่สามารถทำให้การฉีด PRP ได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดย 4 สิ่งที่ควรรู้สำหรับการเตรียมตัวก่อนฉีด PRP มีดังนี้

  • งดแต่งหน้าในวันที่จะทำการฉีด PRP 
  • งดดื่มแอลกอฮอลล์ และสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 วันก่อนฉีด PRP
  • งดการรับประทานยาประเภทแอสไพริน หรือยากลุ่มละลายลิ่มเลือด NSAID อย่างน้อย 2 วัน 
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง

ขั้นตอนในการฉีด PRP

ขั้นตอนในการฉีด PRP ในแต่ละคลินิกจะแตกต่างกันออกไปตามความถนัดของแพทย์ผู้ดูแล แต่ในภาพรวมแล้ว จะมีขั้นตอนที่เหมือนกัน ดังนี้ 

  1. วิเคราะห์ปัญหาผิวของคนไข้ และประเมินวิธีการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 
  2. ทำความสะอาดผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการฉีด PRP 
  3. เจาะเลือดจากข้อพับประมาณ 15-20 cc.
  4. นำเลือดไปปั่นที่เครื่อง Centrifuge เพื่อให้ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้น และสมบูรณ์สูงสุด 
  5. แพทย์จะใช้เครื่องเดอร์มาเพนทำหัตถการบนใบหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาผิวตามที่แพทย์วางแผนไว้
การดูแลตัวเองหลังฉีด PRP มีอะไรบ้าง

การดูแลตัวเองหลังฉีด PRP มีอะไรบ้าง

หลังจากที่ฉีด PRP ไปแล้วนั้น หากต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาได้อย่างเต็มที่ การดูแลรักษาตัวหลังจากที่ทำหัตถการประเภทนี้ไป ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้ ยิ่งคุณดูแลร่างกายดี ผลลัพธ์ของการทำหัตถการก็จะยิ่งทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • หลังฉีด PRP ห้ามล้างหน้าในช่วง 6-8 ชั่วโมงหลังจากนั้น เพื่อให้สเต็มเซลล์เคลือบชั้นผิว และบำรุงผิวให้เต็มที่เสียก่อน 
  • ควรทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว พร้อมกับทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ 
  • อย่าแกะ หรือเกาบริเวณที่ฉีด PRP ผิวจะมีการผลัดเซลล์เอง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ 
  • งดการทาครีมประเภทผลัดเซลล์ผิว หรือบำรุงผิวขาวกระจ่างใสในช่วง 7 วันหลังจากทำหัตถการ 
  • งดแต่งหน้า 7 วันหลังฉีด PRP

เลือกคลินิกฉีด PRP ที่ไหนดี?

ประเด็นสำคัญสำหรับการฉีด PRP คือ การเลือกคลินิกเพื่อฉีด PRP จำเป็นต้องเลือกคลินิกให้ดี มีมาตรฐาน และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการ โดยวิธีในการคัดเลือกคลินิกสำหรับฉีด PRP มีดังนี้

  • เลือกคลินิกที่มีแพทย์เฉพาะด้าน 

เนื่องจากหัตถการการฉีด PRP เป็นการเลือกใช้เกล็ดเลือดจากร่างกายคุณภาพสูง มาใช้ในการบำบัดฟื้นฟู และรักษาปัญหาผิว คุณจำเป็นต้องมั่นใจว่าแพทย์ผู้ดูแลเป็นผู้ชำนาญ และมีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้แล้ว ยังจำเป็นต้องตรวจสอบว่าสถานเสริมความงามนั้นมีเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน และสะอาด ปลอดภัยดีหรือไม่ เพื่อให้การฉีด PRP นั้นเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

  • เลือกคลินิกที่มีบริการทรีทเมนต์เสริม

แน่นอนว่าการทำหัตถการ PRP เป็นการบำรุง และฟื้นฟูเซลล์ผิวทั่วหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้คือ เกล็ดเลือดที่นำมาใช้ในการฉีดเข้าสู่ใบหน้าของคุณนั้น มาจากร่างกายของคุณเอง ทำให้ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเกล็ดเลือดที่แข็งแรง และสมบูรณ์ หากต้องการแก้ไขปัญหาผิวที่มีปัญหาหนัก คุณควรที่จะมองหาคลินิกที่มีบริการทรีทเมนต์อื่นคอยเสริมเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้ปัญหาผิวของคุณถูกแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฉีด PRP ที่ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร

ฉีด PRP ที่ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร

  • คุณหมอมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมมายาวนาน มากกว่า 8 ปี
  • เทคนิคใหม่แบบ Better Me คลินิกเน้นการออกแบบที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้าของคนไข้ด้วยเทคนิคเฉพาะจากประเทศเกาหลี
  • คลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน พร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
  • Better Me Beauty Club มีการบริการด้วยหัวใจหลังศัลยกรรม หรือทำหัตถการ ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง 24 ชั่วโมง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
  • เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและสวยที่สุดในราคาที่จับต้องได้

สรุป

การฉีด PRP หรือ Platelet Rich Plasma คือการนำเลือดที่ได้จากร่างกายของคุณ มาปั่นด้วยความเร็วสูง เพื่อสกัดเกล็ดเลือดที่แข็งแรง มีประสิทธิภาพ และมีความเข้มข้นสูง มาใช้ฉีดในบริเวณต่างๆ บนใบหน้า เพื่อกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจน และเร่งการฟื้นฟูของเซลล์ผิวได้อย่างดีเยี่ยม แตกต่างจากการหัตถการอื่นๆ ที่เป็นการแก้ไขเฉพาะจุด และไม่สามารถเสริมความแข็งแรงของเซลล์ผิวได้ 

อย่างไรก็ดีการทำหัตถการประเภทนี้ต้องอาศัยความแข็งแรงของเกล็ดเลือดจากร่างกายของคุณเอง การดูแลและเตรียมตัวร่างกายให้พร้อมจึงเป็นปัจจัยที่คุณไม่ควรมองข้าม หากสนใจในการฉีด PRP ทาง Better Me Clinic มีให้บริการ สามารถเข้าสอบถามและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงจุด ตอบโจทย์กับแต่ละเคส

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด PRP (FAQ)

เชื่อว่าหลายคนในตอนนี้กำลังมีคำถามในใจเกี่ยวกับการฉีด PRP ในส่วนนี้ Better Me Clinic ได้มัดรวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีด PRP มาไว้ให้ทุกคนคลายข้อสงสัยไว้แล้ว จะมีคำถามอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ไปติดตามกันต่อได้ที่นี่เลย

PRP อันตรายหรือไม่?

การฉีด PRP นั้นเป็นการสกัดเกล็ดเลือดจากร่างกายของคุณ มาฉีดเพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวหนังบนใบหน้า ทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้ได้น้อย อย่างไรก็ดีในช่วง 2-3 วันแรกจะมีอาการคล้ายรอยฟกช้ำ แต่สามารถลดเลือนและหายไปเองได้ในที่สุด

การฉีด PRP ราคาเท่าไร

ราคาสำหรับการฉีด PRP จะเริ่มต้นอยู่ที่ 2,990 บาทเป็นต้นไป ผู้ที่สนใจในหัตถการประเถทนี้สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ หรือสอบถามกับพนักงานได้ที่คลินิกทุกสาขา

ฉีด PRP เห็นผลได้ตอนไหน

ผลลัพธ์จะเริ่มสัมผัสได้ทันทีหลังจากที่ฉีด PRP เข้าสู่ผิวหนัง และจะยิ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผ่านไป 3 เดือน ควรฉีดอย่างต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หลังจากที่ฉีดครั้งแรกไป 4-6 เดือน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลได้ชัด และ PRP ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การฉีด PRP อยู่ได้นานแค่ไหน

หากทำตามคำแนะนำการฉีดของแพทย์ ผลลัพธ์ของ PRP จะอยู่ได้ยาวนานมากถึง 1-2 ปี กันเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีระยะเวลาของผลลัพธ์จากการฉีด PRP จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคลด้วย
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ