แว็กซ์ขนรักแร้ดีไหม เหมาะกับใครบ้าง พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย
ขนรักแร้เยอะ ต้นตอของใต้วงแขนหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส อีกทั้งยังก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ อันเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่พรากเอาความมั่นใจจากทุกเพศได้เลยทีเดียว หลายคนจึงมองหาวิธีกำจัดขนรักแร้ที่เห็นผลดีกว่าการโกน ในราคาที่ประหยัด จะเป็นวิธีไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก ‘การแว็กซ์ขนรักแร้’ เพราะนอกจากจะกำจัดขนใต้วงแขนให้ดูเรียบเนียนแล้ว ยังมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายอีกด้วยบทความนี้จะพาไปหาคำตอบว่าการแว็กซ์ขนรักแร้ปลอดภัยไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้างก่อนตัดสินใจแว็กซ์ขน และเปรียบเทียบระหว่างการแว็กซ์ขนรักแร้กับการทำเลเซอร์ขนรักแร้ แบบไหนดีกว่ากัน มาหาคำตอบกันได้ที่นี่
การแว็กซ์ขนรักแร้ คืออะไร
การแว็กซ์ขนรักแร้ เป็นอีกหนึ่งวิธีการกำจัดขนใต้วงแขน ทำได้โดยการใช้ตัวแว็กซ์ที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง ที่มีความโดดเด่นในแง่ของความเหนียว เกาะจับขนรักแร้ได้ดี นำมาชโลมให้ทั่วบริเวณที่มีขนรักแร้ ผ่านไปสักพักตัวแว็กซ์จะเริ่มแข็งตัว จึงดึงออกได้อย่างง่ายดาย ทำซ้ำเพียงไม่กี่ครั้งก็เผยผลลัพธ์ใต้วงแขนดูกระจ่างใส ไร้ขนแล้ว วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถกำจัดขนได้ถึงรากขนในราคาที่เข้าถึงได้ แถมยังใช้เวลาไม่นาน จึงเป็นวิธีที่นิยมเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน
แว็กซ์ขนรักแร้ มีกี่แบบ
การแว็กซ์ขนรักแร้ สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ โดยการแว็กซ์ร้อนและการแว็กซ์เย็น เป็นการแว็กซ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมไปทำที่ร้าน หรือจะซื้อมาทำเองที่บ้านก็ได้ โดยทั้งสองแบบนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกัน
1. แว็กซ์ร้อน (Hot Wax)
แว็กซ์ร้อน (Hot Wax) คือแว็กซ์ที่มาในรูปแบบอัดเม็ด มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำผึ้ง ขี้ผึ้ง และน้ำตาล จำเป็นต้องนำมาละลายด้วยความร้อนก่อนใช้งาน เมื่อเม็ดแว็กซ์ละลายแล้วจะสามารถนำมาทาบริเวณขนรักแร้ได้ เมื่อทาแล้วให้รอสักพักจนตัวแว็กซ์เริ่มเย็นและจับตัวกัน ให้นำผ้ามาแปะไว้ด้านบนจนแว็กซ์จับกับตัวผ้า จากนั้นจึงดึงออก ข้อดีของแว็กซ์ประเภทนี้คือสามารถจับขนได้ดี แต่มีข้อจำกัดที่ความร้อน ต้องควบคุมอุณหภูมิให้ดี เพราะหากร้อนเกินไปอาจทำให้ผิวพุพองจากความร้อนได้ โดยสูตรแว็กซ์ร้อนก็ยังแบ่งออกเป็นอีก 2 แบบ ได้แก่
- Hard Wax คือแว็กซ์ชนิดเม็ด ที่เมื่อทาลงไปบนขนแล้วแว็กซ์จะเริ่มจับตัวกัน สามารถดึงออกได้เลยโดยไม่ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษมาช่วยดึง
- Stripe Wax คือแว็กซ์ที่มีทั้งแบบเหลวและแบบเม็ด ต้องนำมาทำความร้อนก่อนใช้งานทั้งคู่ เมื่อทาตัวแว็กซ์ลงบนขนแล้วจะจับตัวกันแต่ไม่ได้แข็งตัวจนสามารถจับแว็กซ์ดึงออกได้ จำเป็นต้องใช้ผ้าหรือกระดาษเพื่อเป็นตัวช่วยในการดึงแว็กซ์ออกมาอีกที
2. แว็กซ์เย็น (Cold Wax)
แว็กซ์เย็น (Cold Wax) คือแว็กซ์ที่ผ่านการละลายมาแล้ว และไม่จับตัวเป็นก้อน มาในรูปแบบกระปุก โดยมีส่วนผสมคล้ายกันกับแว็กซ์ร้อนคือ น้ำผึ้ง ขี้ผึ้ง และน้ำตาล สามารถใช้งานได้ด้วยวิธีการทาแว็กซ์ลงบนขนรักแร้โดยตรงได้เลย ไม่จำเป็นต้องนำไปผ่านความร้อนก่อน เมื่อทาลงไปแล้วก็ใช้ผ้ามาแปะแล้วดึงออกได้ทันที ข้อดีของแว็กซ์เย็นคือใช้งานง่าย ไม่เสี่ยงแผลพุพองจากความร้อน แต่มีข้อจำกัดคือตัวแว็กซ์ไม่สามารถจับขนได้ดี ต้องมีการทำซ้ำหลายๆ ครั้ง ซึ่งการทำซ้ำนี้อาจนำไปสู่การระคายเคืองบริเวณใต้วงแขนได้
แว็กซ์ขนรักแร้ เหมาะกับใคร
การแว็กซ์ขนรักแร้ เหมาะสำหรับใครบ้าง ดังนี้
- เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด เพราะแว็กซ์มีราคาไม่แพง
- เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาไปกำจัดขนที่ร้าน เพราะสามารถแว็กซ์ขนรักแร้ที่บ้านได้เลย
- เหมาะกับคนที่ต้องการกำจัดขนให้หมดในทีเดียว
- เหมาะสำหรับคนที่มีขนเส้นยาวและใหญ่ โดยควรรอให้ขนรักแร้ยาวประมาณ 6 มิลลิเมตรก่อน เพื่อให้แว็กซ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
แว็กซ์ขนรักแร้ ไม่เหมาะกับใคร
การแว็กซ์ขนรักแร้ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ทำให้คนบางกลุ่มไม่สามารถกำจัดขนด้วยวิธีแว็กซ์ขนรักแร้ได้ โดยกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการแว็กซ์ขนรักแร้ มีดังนี้
- คนที่เคยผ่าตัดบริเวณใต้วงแขนมาก่อน ประมาณ 6 เดือน
- คนที่มีแผลบริเวณใต้วงแขนหรือมีรอยแดง รวมถึงรอยผิวไหม้จากแดด
- คนที่มีปัญหาขนดก หรือมีโรคที่ทำให้มีขนมากกว่าปกติ เพราะยิ่งขนเยอะก็จะยิ่งเจ็บมาก ควรพิจารณาใช้วิธีอื่นแทนการแว็กซ์ขนรักแร้ อย่างการทำเลเซอร์จะดีกว่า
- คนที่มีปัญหาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด เลือดออกง่าย แผลหายช้า รวมถึงกลุ่มคนที่มีโรคเบาหวาน
- สตรีมีครรภ์ในช่วง 4 เดือนแรก เพราะการเกร็งตัวขณะแว็กซ์ขนอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้
ข้อดีของการแว็กซ์ขนรักแร้
การแว็กซ์ขนรักแร้มีข้อดีคือสามารถกำจัดขนได้ถึงรากลึก ช่วยให้เส้นขนที่เกิดใหม่ไม่ดูหนาหรือดูมีสีเข้ม ไม่ว่าจะสั่งซื้อแว็กซ์สำเร็จรูปหรือหาส่วนผสมมาทำเองที่บ้าน ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยราคาที่ประหยัด เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด และคนที่ไม่มีเวลาไปกำจัดขนที่คลินิก
ข้อเสียของการแว็กซ์ขนรักแร้
การแว็กซ์ขนรักแร้มีข้อดีอยู่มากมาย แต่ก็มีข้อเสียหรือข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจก่อนแว็กซ์ ดังนี้
- เสี่ยงเกิดขนคุด ตอขน หลังการแว็กซ์ขนรักแร้ได้
- ต้องมีความชำนาญในการแว็กซ์ เพราะขนอาจจะไม่ติดแว็กซ์และไม่หลุดออกมา
- หากใช้แว็กซ์แบบร้อน ต้องระวังเรื่องความร้อนให้ดี เพราะอาจทำให้เกิดแผลพุพองได้
- การดึงขนอาจทำให้เป็นผิวหนังไก่ใต้วงแขนได้
- การแว็กซ์สามารถทำร้ายผิวใต้วงแขนได้
เปรียบเทียบเลเซอร์ขนรักแร้ VS แว็กซ์ขนรักแร้
นอกจากการแว็กซ์ขนรักแร้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกกำจัดขนใต้วงแขนที่เห็นผลดีอย่างการทำเลเซอร์ขนรักแร้ ซึ่งเป็นการยิงเลเซอร์ในความยาวคลื่นที่สามารถทำลายเซลล์เม็ดสีของชั้นรากขนใต้วงแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเลเซอร์จะส่งความร้อนไปที่รากขน เพื่อทำลายเส้นขนและตัดวงจรของเส้นขน ทำให้เส้นขนที่มีอยู่หลุดร่วงไป รวมถึงเส้นขนที่เกิดใหม่บางลง มีสีอ่อน และเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
เพื่อให้เห็นความแตกต่างในแง่ประสิทธิภาพของทั้งสองวิธีการกำจัดขน มาดูข้อเปรียบเพื่อประกอบการตัดสินใจตามหัวข้อ ดังนี้
1. ขนคุดใต้รักแร้
การแว็กซ์ขนรักแร้ เมื่อดึงขนออกไปในทางตรงกันข้ามกับรูขุมขน อาจทำให้ขนที่เกิดใหม่งอกไปในทิศทางที่ไม่เหมือนเดิม จนเกิดเป็นขนคุด ทำให้รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณนั้นๆ ได้
เมื่อเทียบกับการทำเลเซอร์ที่เป็นการกำจัดขนด้วยเทคโนโลยีการยิงเลเซอร์ที่ช่วยกำจัดขนได้โดยไม่ต้องดึงหรือถอน ทำให้เส้นขนที่เกิดใหม่งอกมาในทิศทางเดิม ป้องกันการเกิดขนคุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ตอขน
การกำจัดขนรักแร้ด้วยการแว็กซ์ ไม่ใช่ว่าจะสามารถกำจัดขนได้ถึงรากทุกเส้น บางเส้นขนอาจขาดระหว่างการแว็กซ์ ทำให้เมื่อเส้นขนเหล่านั้นงอกขึ้นมากลายเป็นขนลักษณะแข็งเป็นตอ ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองใต้วงแขน
ส่วนการเลเซอร์สามารถกำจัดเส้นขนถึงรากลึกได้ทุกเส้น เส้นขนที่งอกมาใหม่เองก็จะมีความบางเล็กลงกว่าเส้นขนเดิม ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าการทำเลเซอร์จะก่อให้เกิดตอขน
3. การทำร้ายผิวใต้รักแร้
การแว็กซ์ขนรักแร้ทำร้ายผิวใต้วงแขน เพราะการดึงแว็กซ์ออกอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดรอยแดงได้ และการแว็กซ์ขนรักแร้บ่อยๆ ยังทำให้ส่งผลต่อสุขภาพใต้วงแขนในระยะยาวจนเกิดเป็นผิวหนังไก่ได้อีกด้วย
การเลเซอร์ขนรักแร้ไม่ทำร้ายผิวแต่อย่างใด เพราะไม่ต้องดึงรั้งผิว ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแดง หรือผิวหนังไก่จากการกำจัดขน แต่สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกร้อนใต้วงแขนหลังทำเลเซอร์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ปล่อยไว้ไม่นานก็หายเองตามธรรมชาติ
4. ระยะเวลาของผลลัพธ์
การแว็กซ์ขนรักแร้จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ และผลลัพธ์จะอยู่นานประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย และหากต้องการเห็นผลดี ต้องหมั่นแว็กซ์เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ควรรอให้ขนรักแร้ยาวประมาณ 1/4 นิ้วก่อนแว็กซ์ เพื่อให้เนื้อแว็กซ์จับเส้นขนได้ดี
ส่วนการเลเซอร์ขนรักแร้ ต้องใช้เวลาในการทำงานประมาณ 1-2 วัน และขนจะบางลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่ต้องทำซ้ำอีกประมาณ 5-8 ครั้งตามนัด ขนจึงจะไม่ขึ้นใหม่อีก เมื่อทำครบแล้วจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าการแว็กซ์ สามารถกลับมาทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน
5. ราคา
แน่นอนว่าการแว็กซ์ขนรักแร้ 1 ครั้งย่อมมีราคาถูกกว่าการทำเลเซอร์ 1 ครั้งอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการแว็กซ์ต้องทำไปเรื่อยๆ เพราะไม่สามารถกำจัดวงจรขนและหยุดการเกิดขนเส้นใหม่ได้ แต่หากเทียบกับการทำเลเซอร์ที่เป็นการจ่ายครั้งเดียวจบ ก็ถือเป็นทางเลือกการลงทุนด้านความงามที่คุ้มค่า ไม่ต้องเสียเวลาทำซ้ำบ่อยๆ ในระยะยาว
เลเซอร์ขนรักแร้ ราคาเท่าไร?
เลเซอร์ขนรักแร้ ที่ Beter Me Clinic มีราคาเริ่มต้นที่ 1,099 บาท พร้อมโปรโมชันสุดคุ้ม ดังนี้
- เลเซอร์ขนรักแร้ 1 ครั้ง ราคา 1,099 บาท
- เลเซอร์ขนรักแร้ บุฟเฟ่ต์ 6 เดือน ราคา 5,499 บาท
- เลเซอร์ขนรักแร้ บุฟเฟ่ต์ 1 ปี ราคา 9,899 บาท
*สามารถทำได้ทุก 4 สัปดาห์
เลเซอร์ขนรักแร้กับ Better Me Clinic ดีกว่าอย่างไร
- คุณหมอมีประสบการณ์ด้านความงามมายาวนาน 8 ปี พร้อมประสบการณ์ด้านศัลยกรรมมามากกว่า 10,000 เคส
- คุณหมอเป็นอาจารย์สอนหลักสูตรการอบรมด้านเวชศาสตร์ความงามจากองค์กร ABAM จากอเมริกา คนเดียวในไทย
- เทคนิคใหม่แบบ Better Me คลินิกเน้นการออกแบบที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้าของคนไข้ด้วยเทคนิคเฉพาะจากประเทศเกาหลี
- เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย คุณหมอทุกท่านให้ความสำคัญกับคนไข้ทุกเคส
- คลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน พร้อมนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- Better Me Club มีการบริการด้วยหัวใจหลังศัลยกรรม หรือทำหัตถการ ด้วยบริการให้คำแนะนำโดยแอดมินสายตรง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
- เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและสวยที่สุดในราคาที่จับต้องได้
สรุป
การแว็กซ์ขนรักแร้ คือการกำจัดขนรักแร้ด้วยตัวแว็กซ์ที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง น้ำผึ้ง และน้ำตาล มีทั้งแว็กซ์เย็นและแว็กซ์ร้อน ให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการของแต่ละคน การกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากกำจัดขนรักแร้ในราคาประหยัด ทำได้ง่าย และใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามการแว็กซ์ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น อาจทำให้เกิดขนคุด ขนเป็นตอ ทำร้ายผิว ก่อให้เกิดผิวหนังไก่ใต้วงแขนได้ หลายคนจึงเลือกที่จะกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีการอื่นเช่นการทำเลเซอร์ขนรักแร้ ที่สามารถกำจัดขนได้ถึงต้นตอ เห็นผลดี ขนที่เกิดใหม่เล็กและบางลงอย่างเห็นได้ชัด ทำซ้ำเพียง 5-8 ครั้งก็สามารถตัดวงจรขน หยุดการเกิดขนเส้นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากกำลังมองหาคลินิกเลเซอร์ขนรักแร้ แนะนำให้มาที่ Better Me Clinic ที่นี่มีเครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เพิ่มความมั่นใจและสวยที่สุดในราคาที่จับต้องได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแว็กซ์ขนรักแร้ (FAQs)
นอกจากเนื้อหาที่ได้อ่านไปด้านบนแล้ว บทความนี้ยังได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแว็กซ์ขนรักแร้ พร้อมคำตอบ มาไขข้อข้องใจให้แล้ว ไปดูกัน