fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

ดอลลี่อาย (Dolly Eye) ตาหวานละมุนนี ตื่นมาสวยเลย ไม่ต้องแต่งหน้า!

ดอลลี่อาย (Dolly Eye) ตาหวานละมุนนี ตื่นมาสวยเลย ไม่ต้องแต่งหน้า!
ดอลลี่อาย (Dolly Eye) ตาหวานละมุนนี ตื่นมาสวยเลย ไม่ต้องแต่งหน้า!

ดอลลี่อาย ตาหวานฉ่ำสะกดสายตาที่กำลังเป็นที่นิยมมากในตอนนี้ นอกจากจะเพิ่มเสน่ห์แล้วยังทำให้ดูเด็กลงด้วยนะ มาดูวิธีทำดอลลี่อายกึ่งถาวร ที่ตื่นมาตาก็สวยได้ทันที โดยไม่ต้องค่อยแต่งใต้ตาให้เสียเวลา เบธเธอร์ มี คลินิก บาย ดร.ชัญญา จะพาไปทำความรู้จักกับดอลลี่อายกันให้มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปตาหวานฉ่ำด้วยกันได้เลยในบทความนี้

ดอลลี่อาย ตาหวานฉ่ำ มีลักษณะอย่างไร

ดอลลี่อาย คือ ลักษณะของกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาชิดกับขอบตาล่างมีความโค้งนูนอวบอิ่ม ดูอ่อนเยาว์ ดวงตาดูมีประกาย ทำให้ภาพรวมใบหน้าหวานฉ่ำราวกับตุ๊กตา โดยดอลลี่อายธรรมชาติจะสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนในช่วงวัยเด็ก แต่เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณนี้จะบางลง หรือมีถุงใต้ตาใหญ่ขึ้นจนทำให้ดอลลี่อายค่อยๆ หายไป แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ หนุ่มๆ สาวๆ สามารถทำให้ขอบตาล่างกลับมาโค้งนูนสวยได้ด้วยการฉีดเสริมชั้นใต้ตา หรือก็คือ การฉีดดอลลี่อาย นั่นเอง

ทำไมดอลลี่อายจึงเป็นที่นิยม

ทำไมดอลลี่อายจึงเป็นที่นิยม

ดอลลี่อายที่เกิดตามธรรมชาติมักจะพบเห็นได้ในช่วงวัยเด็ก จึงเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งเลยที่แสดงให้เห็นถึงความเยาว์วัย อีกทั้งการมีดอลลี่อายยังทำให้ดูน่ารัก สดใส ดวงตากลมโต อิ่มเอิบ หน้าหวานขึ้น รวมถึงเสริมโหงวเฮ้งได้อีกด้วย โดยเป็นกระแสความงามที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ก่อนที่จะเป็นเทรนด์นิยมในประเทศไทย

ถุงใต้ตา VS ดอลลี่อาย ต่างกันอย่างไร

ถุงใต้ตา VS ดอลลี่อาย ต่างกันอย่างไร

หลายๆ คนมักจะเข้าใจผิดว่าดอลลี่อายกับถุงใต้ตานั้นเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้ว ดอลลี่อายเป็นมัดกล้ามเนื้อในส่วน Orbicularis Oculi บริเวณขอบตาล่างที่ทำให้ผิวหนังนูนขึ้นมา เวลายิ้มหรือหัวเราะจะสังเกตเห็นได้ชัดขึ้น ทำให้หน้าดูเด็กลง แตกต่างจากถุงใต้ตา ซึ่งเกิดขึ้นจากถุงไขมันที่ลงมาค้างอยู่บริเวณใต้ดวงตาทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ดูโทรม เหมือนคนอดหลับอดนอน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีขนาดใหญ่ขึ้นตามอายุที่มากขึ้นอีกด้วย

การฉีดดอลลี่อายเหมาะกับใครบ้าง

การฉีดดอลลี่อาย เพื่อเพิ่มเสน่ห์และความมั่นใจให้กับคุณ สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยค่ะ ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการเสริมความโดดเด่นให้กับใบหน้าดังนี้

  • ต้องการให้ดวงตาดูใหญ่ขึ้น โตขึ้น ให้สมส่วนกับส่วนอื่นๆ บนใบหน้า
  • ต้องการให้ดวงตาสดใสเป็นประกาย สวยเกินต้าน
  • หน้าดูดุเกินไป อยากให้หน้าหวานละมุนขึ้น
  • เพิ่มจุดโดดเด่นบนใบหน้า เพิ่มโอกาสสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ
  • ต้องการเพิ่มเสน่ห์เวลายิ้ม เนื่องจากตอนยิ้มดอลลี่อายจะเห็นเด่นชัดขึ้น สามารถดึงดูดสายตาได้มากขึ้น

การฉีดดอลลี่อายไม่เหมาะกับใครบ้าง

ถึงแม้ว่าการฉีดดอลลี่อายจะเหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ก็มีผู้ที่ไม่เหมาะในการฉีดเช่นกัน เช่น

  • ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาเทียม จากการพักผ่อนไม่เพียงพอหรือใช้สายตามากจนเกินไป ควรรักษาให้หายก่อนจึงจะสามารถฉีดดอลลี่อายได้
  • อาจไม่เหมาะกับภาพรวมหน้าตาของบางคน เพราะอาจทำให้มีดวงตาที่ดูใหญ่หรือโดดเด่นจนเกินไป อาจทำให้ดูไม่สมส่วน

การฉีดดอลลี่อายช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

  • ช่วยลดริ้วรอยและร่องตาลึก
  • แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำเสีย ให้ดูสดใสมีชีวิตชีวา
  • ลดความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตาให้กลับมาดูกระชับ
  • ลดปัญหาผิวใต้ตาขาดความชุ่มชื้น
ทำดอลลี่อายด้วยวิธีไหนได้บ้าง

ทำดอลลี่อายด้วยวิธีไหนได้บ้าง

สำหรับใครที่ไม่มีดวงตาแบบดอลลี่อาย สามารถทำขึ้นมาได้ง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด โดยมีวิธีฉีดดอลลี่อาย 2 วิธี ดังนี้

การฉีดฟิลเลอร์

การฉีดดอลลี่อายด้วยฟิลเลอร์ ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด โดยแพทย์จะทำการฉีดสารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ผิวหนัง สำหรับการทำดอลลี่อายมักจะฉีดฟิลเลอร์ครั้งละเพียง 1 ซีซี บริเวณขอบตาล่างชิดขนตา ทำให้ผิวใต้ตาดูนูนกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อดี

  • ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย หรือไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเลย
  • เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนทันทีหลังทำ
  • สามารถแก้ไขผลการรักษาได้ง่ายกว่า

ข้อเสีย

  • มีค่าใช้จ่ายสูง
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานนัก ควรกลับมาเติมฟิลเลอร์ทุก 6 เดือน

การฉีดไขมัน

การฉีดดอลลี่อายด้วยไขมัน จะเป็นการฉีดเซลล์ไขมันที่มีชีวิตจากร่างกายของผู้ที่เข้ารับการฉีดดอลลี่อายเอง ซึ่งถือว่าเป็นการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อแบบหนึ่งเลย ไม่ใช่แค่การฉีดสารเติมเต็มเฉยๆ นะคะ โดยเมื่อฉีดเข้าชั้นผิวหนังแล้ว ผิวหนังจะสร้างเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงเซลล์ไขมันเหล่านั้น จากนั้นเซลล์ไขมันจะยึดเกาะเข้ากับเนื้อเยื่อผิวหนัง แต่อาจมีไขมันบางส่วนที่ไม่สามารถยึดเกาะได้ เนื่องจากสร้างเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงได้ไม่พอ ทำให้เซลล์ไขมันสลายไป ด้วยเหตุนี้การฉีดไขมันจึงต้องฉีดมากกว่า 1 ซีซี เผื่อสำหรับส่วนที่จะสลายหายไปนั่นเอง

ข้อดี

  • มีราคาถูกกว่าการฉีดฟิลเลอร์
  • ผลการรักษาอยู่ได้นานกว่า
  • ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้

ข้อเสีย

  • หลังฉีดผิวอาจจะเป็นคลื่น ไม่สม่ำเสมอ
  • ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า เนื่องจากเกิดการบวมมากกว่า
  • ตาสองข้างอาจจะไม่เท่ากัน เพราะเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปมีการสลายไปไม่เท่ากัน
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

ฟิลเลอร์ VS ไขมัน ฉีดแบบไหนดีกว่ากัน

การทำดอลลี่อายด้วยการฉีดฟิลเลอร์ มีแนวโน้มที่ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกพึงพอใจมากกว่า เนื่องจากคุณสมบัติหลักของฟิลเลอร์นั้น คือ มีความคงตัว สามารถอุ้มน้ำได้ อีกทั้งยังช่วยกระชับผิวหนังได้ดี ซึ่งเซลล์ไขมันที่นำมาฉีดจะไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ แถมไขมันบางส่วนอาจจะสลายยุบตัวไปอีก ทำให้ผิวไม่เรียบหรือเป็นก้อนได้ เมื่อฉีดไขมันแล้วไม่พึ่งพอใจก็ไม่มียาฉีดสลาย ต้องรอยุบหายไปเอง โดยใช้เวลาเท่าไรก็ไม่สามารถระบุได้ เพราะขึ้นกับร่างกายของแต่ละคนค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดดอลลี่อาย

  • เข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาว่าดวงตาของคุณเหมาะจะทำดอลลี่อายดีไหม และผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาเป็นแบบไหน
  • แจ้งประวัติโรคประจำตัว การแพ้ยา การแพ้อาหาร ยาที่ใช้ประจำ และประวัติการผ่าตัด กับแพทย์ให้ครบถ้วน
  • หากผู้สนใจเข้ารับการฉีดดอลลี่อายกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ก็จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ด้วยเช่นกัน
  • ก่อนฉีดดอลลี่อาย 1 สัปดาห์ ให้หยุดยา อาหารเสริม สมุนไพร หรืออื่นๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด รวมถึงงดยาทาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่จะฉีด
  • ก่อนฉีดดอลลี่อาย 24 ชั่วโมง ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และงดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมใดๆ ที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • ผู้ที่กำลังเป็นโรคผิวหนังอักเสบติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด ควรรักษาให้หายก่อนทำดอลลี่อาย
  • ในวันที่จะเข้ารับการฉีด ไม่ควรแต่งหน้า ไม่ใส่คอนแท็กต์เลนส์ แต่ควรสระผมมาก่อน

ขั้นตอนการฉีดดอลลี่อาย

  • ทำความสะอาดผิวรอบดวงตา แปะยาชา จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์
  • เริ่มฉีดดอลลี่อายที่บริเวณใต้ดวงตา โดยแพทย์จะค่อยๆ ฉีดให้โค้งสวยเหมือนดอลลี่อายธรรมชาติ
  • ในระหว่างฉีดอาจจะมีการประคบน้ำแข็งไปด้วย
  • ฉีดเสร็จแพทย์จะทำความสะอาดแผลอีกครั้ง แล้วแปะพลาสเตอร์ให้ หลังจากนั้นรอดูอาการสักครู่หนึ่ง
  • รอรับยาและคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังทำดอลลี่อาย
การดูแลตัวเองหลังฉีดดอลลี่อาย

การดูแลตัวเองหลังฉีดดอลลี่อาย

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำดอลลี่อาย ไม่แกะ เกา หรือนวด
  • งดล้างหน้า ทาครีม บริเวณที่ทำ 1 วัน
  • งดเลเซอร์ ทรีตเมนต์ และซาวน่า เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • พยายามอยู่ในที่เย็นสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงความร้อน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดอาหารดิบ รวมถึงอาหารเผ็ดร้อน
  • แผลรอยแดงจะหายไปหลังจากทำประมาณ 2-3 วัน และอาการบวมจะยุบใน 7-14 วัน

ข้อควรระวังในการฉีดดอลลี่อาย

  • ผิวบริเวณใต้ตานั้นมีความบอบบางมาก และมีเส้นเลือดอยู่เยอะ จึงเกิดรอยช้ำหรือรอยแดงได้ ก่อนที่จะค่อยๆ หายเป็นปกติ
  • ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะทำให้ใต้ตาดูบวมเต่งปูดออกมา จนอาจจะดูเหมือนโดนต่อยมากกว่าฉีดดอลลี่อาย
  • ปริมาณที่ใช้ฉีดควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้ชำนาญการ

สรุป

การทำดอลลี่อาย คือการฉีดฟิลเลอร์หรือเซลล์ไขมันของผู้เข้ารับการฉีดเอง เข้าไปบริเวณขอบตาล่าง เพื่อเสริมให้ใต้ตาดูนูนกระชับขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ตาสวย เป็นธรรมชาติ ใบหน้าแลดูเด็กลง เสริมความมั่นใจเพิ่มขึ้นในอีกระดับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดดอลลี่อาย (FAQ)

ได้รู้จักดอลลี่อายกันไปเรียบร้อยแล้ว บางคนอาจจะยังมีเรื่องที่กำลังสงสัยกันอยู่ ลองไปดูคำถามที่ทางคลินิกเราถูกถามอยู่บ่อยๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

ฉีดดอลลี่อายอันตรายหรือไม่

คำถามพบบ่อยคำถามแรก คือฉีดดอลลี่อายอันตรายไหม จริงๆ แล้วการทำดอลลี่อายมีความปลอดภัยสูงมาก แทบจะไม่มีผลข้างเคียงเลย ถ้าฉีดในคลินิกที่มีมาตรฐาน ดังนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยงอันตราย ต้องระวังการฉีดกับคลินิกเถื่อน ฉีดกับหมอกระเป๋า การใช้ฟิลเลอร์ปลอม และการฉีดโดยแพทย์ผู้ไม่มีประสบการณ์

การฉีดดอลลี่อายอยู่ได้นานกี่เดือน

เนื่องจากการฉีดดอลลี่อายนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะคงอยู่ถาวร และผลการรักษาจะคงอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นกับคุณภาพของฟิลเลอร์ รวมถึงพฤติกรรมการดูแลตัวเองหลังจากทำแล้ว แต่โดยปกติตามมาตรฐาน ฟิลเลอร์แท้จะให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 6-18 เดือนค่ะ

การฉีดดอลลี่อายต้องพักฟื้นไหม

การฉีดดอลลี่อายด้วยฟิลเลอร์ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นค่ะ แต่ถ้าเป็นการฉีดไขมัน จำเป็นจะต้องเผื่อเวลาสำหรับการพักฟื้น เพราะเสี่ยงเกิดอาการบวมช้ำที่มากกว่า

ฉีดดอลลี่อายราคาเท่าไร

การฉีดดอลลี่อาย ราคาจะมีความแตกต่างกันขึ้นกับยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ และบางคนอาจจะใช้ในปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรพบแพทย์ในคลินิกที่เชื่อถือได้เพื่อประเมินราคาให้ค่ะ
ปรึกษาหมอเกียร์โดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ