ดอลลี่อาย (Dolly Eye) ตาหวานละมุนนี ตื่นมาสวยเลย ไม่ต้องแต่งหน้า!
ดอลลี่อาย ตาหวานฉ่ำสะกดสายตาที่กำลังเป็นที่นิยมมากในตอนนี้ นอกจากจะเพิ่มเสน่ห์แล้วยังทำให้ดูเด็กลงด้วยนะ มาดูวิธีทำดอลลี่อายกึ่งถาวร ที่ตื่นมาตาก็สวยได้ทันที โดยไม่ต้องค่อยแต่งใต้ตาให้เสียเวลา เบธเธอร์ มี คลินิก บาย ดร.ชัญญา จะพาไปทำความรู้จักกับดอลลี่อายกันให้มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปตาหวานฉ่ำด้วยกันได้เลยในบทความนี้
ดอลลี่อาย ตาหวานฉ่ำ มีลักษณะอย่างไร
ดอลลี่อาย คือ ลักษณะของกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาชิดกับขอบตาล่างมีความโค้งนูนอวบอิ่ม ดูอ่อนเยาว์ ดวงตาดูมีประกาย ทำให้ภาพรวมใบหน้าหวานฉ่ำราวกับตุ๊กตา โดยดอลลี่อายธรรมชาติจะสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนในช่วงวัยเด็ก แต่เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณนี้จะบางลง หรือมีถุงใต้ตาใหญ่ขึ้นจนทำให้ดอลลี่อายค่อยๆ หายไป แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ หนุ่มๆ สาวๆ สามารถทำให้ขอบตาล่างกลับมาโค้งนูนสวยได้ด้วยการฉีดเสริมชั้นใต้ตา หรือก็คือ การฉีดดอลลี่อาย นั่นเอง
ทำไมดอลลี่อายจึงเป็นที่นิยม
ดอลลี่อายที่เกิดตามธรรมชาติมักจะพบเห็นได้ในช่วงวัยเด็ก จึงเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งเลยที่แสดงให้เห็นถึงความเยาว์วัย อีกทั้งการมีดอลลี่อายยังทำให้ดูน่ารัก สดใส ดวงตากลมโต อิ่มเอิบ หน้าหวานขึ้น รวมถึงเสริมโหงวเฮ้งได้อีกด้วย โดยเป็นกระแสความงามที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ก่อนที่จะเป็นเทรนด์นิยมในประเทศไทย
ถุงใต้ตา VS ดอลลี่อาย ต่างกันอย่างไร
หลายๆ คนมักจะเข้าใจผิดว่าดอลลี่อายกับถุงใต้ตานั้นเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้ว ดอลลี่อายเป็นมัดกล้ามเนื้อในส่วน Orbicularis Oculi บริเวณขอบตาล่างที่ทำให้ผิวหนังนูนขึ้นมา เวลายิ้มหรือหัวเราะจะสังเกตเห็นได้ชัดขึ้น ทำให้หน้าดูเด็กลง แตกต่างจากถุงใต้ตา ซึ่งเกิดขึ้นจากถุงไขมันที่ลงมาค้างอยู่บริเวณใต้ดวงตาทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ดูโทรม เหมือนคนอดหลับอดนอน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีขนาดใหญ่ขึ้นตามอายุที่มากขึ้นอีกด้วย
การฉีดดอลลี่อายเหมาะกับใครบ้าง
การฉีดดอลลี่อาย เพื่อเพิ่มเสน่ห์และความมั่นใจให้กับคุณ สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยค่ะ ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการเสริมความโดดเด่นให้กับใบหน้าดังนี้
- ต้องการให้ดวงตาดูใหญ่ขึ้น โตขึ้น ให้สมส่วนกับส่วนอื่นๆ บนใบหน้า
- ต้องการให้ดวงตาสดใสเป็นประกาย สวยเกินต้าน
- หน้าดูดุเกินไป อยากให้หน้าหวานละมุนขึ้น
- เพิ่มจุดโดดเด่นบนใบหน้า เพิ่มโอกาสสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ
- ต้องการเพิ่มเสน่ห์เวลายิ้ม เนื่องจากตอนยิ้มดอลลี่อายจะเห็นเด่นชัดขึ้น สามารถดึงดูดสายตาได้มากขึ้น
การฉีดดอลลี่อายไม่เหมาะกับใครบ้าง
ถึงแม้ว่าการฉีดดอลลี่อายจะเหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ก็มีผู้ที่ไม่เหมาะในการฉีดเช่นกัน เช่น
- ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาเทียม จากการพักผ่อนไม่เพียงพอหรือใช้สายตามากจนเกินไป ควรรักษาให้หายก่อนจึงจะสามารถฉีดดอลลี่อายได้
- อาจไม่เหมาะกับภาพรวมหน้าตาของบางคน เพราะอาจทำให้มีดวงตาที่ดูใหญ่หรือโดดเด่นจนเกินไป อาจทำให้ดูไม่สมส่วน
การฉีดดอลลี่อายช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
- ช่วยลดริ้วรอยและร่องตาลึก
- แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำเสีย ให้ดูสดใสมีชีวิตชีวา
- ลดความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตาให้กลับมาดูกระชับ
- ลดปัญหาผิวใต้ตาขาดความชุ่มชื้น
ทำดอลลี่อายด้วยวิธีไหนได้บ้าง
สำหรับใครที่ไม่มีดวงตาแบบดอลลี่อาย สามารถทำขึ้นมาได้ง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด โดยมีวิธีฉีดดอลลี่อาย 2 วิธี ดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดดอลลี่อายด้วยฟิลเลอร์ ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด โดยแพทย์จะทำการฉีดสารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ผิวหนัง สำหรับการทำดอลลี่อายมักจะฉีดฟิลเลอร์ครั้งละเพียง 1 ซีซี บริเวณขอบตาล่างชิดขนตา ทำให้ผิวใต้ตาดูนูนกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อดี
- ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย หรือไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเลย
- เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนทันทีหลังทำ
- สามารถแก้ไขผลการรักษาได้ง่ายกว่า
ข้อเสีย
- มีค่าใช้จ่ายสูง
- ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานนัก ควรกลับมาเติมฟิลเลอร์ทุก 6 เดือน
การฉีดไขมัน
การฉีดดอลลี่อายด้วยไขมัน จะเป็นการฉีดเซลล์ไขมันที่มีชีวิตจากร่างกายของผู้ที่เข้ารับการฉีดดอลลี่อายเอง ซึ่งถือว่าเป็นการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อแบบหนึ่งเลย ไม่ใช่แค่การฉีดสารเติมเต็มเฉยๆ นะคะ โดยเมื่อฉีดเข้าชั้นผิวหนังแล้ว ผิวหนังจะสร้างเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงเซลล์ไขมันเหล่านั้น จากนั้นเซลล์ไขมันจะยึดเกาะเข้ากับเนื้อเยื่อผิวหนัง แต่อาจมีไขมันบางส่วนที่ไม่สามารถยึดเกาะได้ เนื่องจากสร้างเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงได้ไม่พอ ทำให้เซลล์ไขมันสลายไป ด้วยเหตุนี้การฉีดไขมันจึงต้องฉีดมากกว่า 1 ซีซี เผื่อสำหรับส่วนที่จะสลายหายไปนั่นเอง
ข้อดี
- มีราคาถูกกว่าการฉีดฟิลเลอร์
- ผลการรักษาอยู่ได้นานกว่า
- ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้
ข้อเสีย
- หลังฉีดผิวอาจจะเป็นคลื่น ไม่สม่ำเสมอ
- ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า เนื่องจากเกิดการบวมมากกว่า
- ตาสองข้างอาจจะไม่เท่ากัน เพราะเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปมีการสลายไปไม่เท่ากัน
ฟิลเลอร์ VS ไขมัน ฉีดแบบไหนดีกว่ากัน
การทำดอลลี่อายด้วยการฉีดฟิลเลอร์ มีแนวโน้มที่ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกพึงพอใจมากกว่า เนื่องจากคุณสมบัติหลักของฟิลเลอร์นั้น คือ มีความคงตัว สามารถอุ้มน้ำได้ อีกทั้งยังช่วยกระชับผิวหนังได้ดี ซึ่งเซลล์ไขมันที่นำมาฉีดจะไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ แถมไขมันบางส่วนอาจจะสลายยุบตัวไปอีก ทำให้ผิวไม่เรียบหรือเป็นก้อนได้ เมื่อฉีดไขมันแล้วไม่พึ่งพอใจก็ไม่มียาฉีดสลาย ต้องรอยุบหายไปเอง โดยใช้เวลาเท่าไรก็ไม่สามารถระบุได้ เพราะขึ้นกับร่างกายของแต่ละคนค่ะ
การเตรียมตัวก่อนฉีดดอลลี่อาย
- เข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาว่าดวงตาของคุณเหมาะจะทำดอลลี่อายดีไหม และผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาเป็นแบบไหน
- แจ้งประวัติโรคประจำตัว การแพ้ยา การแพ้อาหาร ยาที่ใช้ประจำ และประวัติการผ่าตัด กับแพทย์ให้ครบถ้วน
- หากผู้สนใจเข้ารับการฉีดดอลลี่อายกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ก็จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ด้วยเช่นกัน
- ก่อนฉีดดอลลี่อาย 1 สัปดาห์ ให้หยุดยา อาหารเสริม สมุนไพร หรืออื่นๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด รวมถึงงดยาทาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่จะฉีด
- ก่อนฉีดดอลลี่อาย 24 ชั่วโมง ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และงดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมใดๆ ที่ทำให้เลือดสูบฉีด
- ผู้ที่กำลังเป็นโรคผิวหนังอักเสบติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด ควรรักษาให้หายก่อนทำดอลลี่อาย
- ในวันที่จะเข้ารับการฉีด ไม่ควรแต่งหน้า ไม่ใส่คอนแท็กต์เลนส์ แต่ควรสระผมมาก่อน
ขั้นตอนการฉีดดอลลี่อาย
- ทำความสะอาดผิวรอบดวงตา แปะยาชา จากนั้นรอให้ยาชาออกฤทธิ์
- เริ่มฉีดดอลลี่อายที่บริเวณใต้ดวงตา โดยแพทย์จะค่อยๆ ฉีดให้โค้งสวยเหมือนดอลลี่อายธรรมชาติ
- ในระหว่างฉีดอาจจะมีการประคบน้ำแข็งไปด้วย
- ฉีดเสร็จแพทย์จะทำความสะอาดแผลอีกครั้ง แล้วแปะพลาสเตอร์ให้ หลังจากนั้นรอดูอาการสักครู่หนึ่ง
- รอรับยาและคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังทำดอลลี่อาย
การดูแลตัวเองหลังฉีดดอลลี่อาย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำดอลลี่อาย ไม่แกะ เกา หรือนวด
- งดล้างหน้า ทาครีม บริเวณที่ทำ 1 วัน
- งดเลเซอร์ ทรีตเมนต์ และซาวน่า เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- พยายามอยู่ในที่เย็นสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงความร้อน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดอาหารดิบ รวมถึงอาหารเผ็ดร้อน
- แผลรอยแดงจะหายไปหลังจากทำประมาณ 2-3 วัน และอาการบวมจะยุบใน 7-14 วัน
ข้อควรระวังในการฉีดดอลลี่อาย
- ผิวบริเวณใต้ตานั้นมีความบอบบางมาก และมีเส้นเลือดอยู่เยอะ จึงเกิดรอยช้ำหรือรอยแดงได้ ก่อนที่จะค่อยๆ หายเป็นปกติ
- ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะทำให้ใต้ตาดูบวมเต่งปูดออกมา จนอาจจะดูเหมือนโดนต่อยมากกว่าฉีดดอลลี่อาย
- ปริมาณที่ใช้ฉีดควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้ชำนาญการ
สรุป
การทำดอลลี่อาย คือการฉีดฟิลเลอร์หรือเซลล์ไขมันของผู้เข้ารับการฉีดเอง เข้าไปบริเวณขอบตาล่าง เพื่อเสริมให้ใต้ตาดูนูนกระชับขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ตาสวย เป็นธรรมชาติ ใบหน้าแลดูเด็กลง เสริมความมั่นใจเพิ่มขึ้นในอีกระดับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดดอลลี่อาย (FAQ)
ได้รู้จักดอลลี่อายกันไปเรียบร้อยแล้ว บางคนอาจจะยังมีเรื่องที่กำลังสงสัยกันอยู่ ลองไปดูคำถามที่ทางคลินิกเราถูกถามอยู่บ่อยๆ กันเลยดีกว่าค่ะ