fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

สครับหน้า เคล็ดลับดูแลผิวให้กระจ่างใส พร้อมวิธีเลือกใช้ที่เหมาะกับคุณ

สครับหน้า เคล็ดลับดูแลผิวให้กระจ่างใส พร้อมวิธีเลือกใช้ที่เหมาะกับคุณ
สครับหน้า เคล็ดลับดูแลผิวให้กระจ่างใส พร้อมวิธีเลือกใช้ที่เหมาะกับคุณ

เคยสงสัยไหมว่าทำไมผิวหน้าของบางคนถึงดูเรียบเนียนและกระจ่างใส? การสครับหน้าอาจเป็นคำตอบ! เพราะการผลัดเซลล์ผิวเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าและฟื้นฟูความกระจ่างใสของผิว 

ในบทความนี้ Better Me Clinic จะมาอธิบายทุกแง่มุมของการสครับหน้า ตั้งแต่การสครับหน้าคืออะไร? การสครับหน้ามีประโยชน์อย่างไร? การสครับหน้ามีกี่ประเภท? ไปจนถึงวิธีเลือกสครับให้เหมาะกับผิวและทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยให้คุณดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การสครับหน้าคืออะไร?

การสครับหน้า (Facial Scrub) คือ กระบวนการทำความสะอาดผิวหน้าโดยการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวชั้นบน (Exfoliation) ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอนุภาคขนาดเล็ก เช่น สครับที่มีเม็ดบีดส์ หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น เกลือ, น้ำตาล หรือสมุนไพร

โดยการสครับหน้าสามารถทำได้โดยการลูบหรือวนผลิตภัณฑ์สครับลงบนผิวหน้าที่สะอาดเป็นระยะเวลาสั้น ๆ และล้างออกด้วยน้ำ แต่ต้องระวังไม่ขัดแรงเกินไปเพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองผิว หรือเกิดบาดแผลบนผิวหน้า

ถ้าต้องการให้การสครับหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมทางเคมี เช่น กรด AHA หรือ BHA เพื่อกระตุ้นให้การผลัดเซลล์ผิวก่อน

การสครับใบหน้าเป็นประจำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกและไขมันส่วนเกินที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนให้หลุดออก ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น

สครับหน้ามีประโยชน์อย่างไร?

การสครับหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวที่ช่วยให้ผิวให้กระจ่างใส เปล่งปลั่ง และมีสุขภาพดี โดยการสครับหน้ามีประโยชน์ดังนี้

  • สครับหน้าช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว (Exfoliation) เพราะการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายอาจทำให้ผิวดูหมองคล้ำและหยาบกร้าน การสครับหน้าจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งสะสมอยู่บนผิวชั้นนอกออก ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและเนียนนุ่มมากขึ้น
  • สครับหน้าช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ (Skin Renewal) เมื่อเซลล์ผิวเก่าถูกขจัดออก ร่างกายจะกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยออกไปได้
  • สครับหน้าช่วยเปิดรูขุมขนและลดการอุดตัน (Unclogging Pores) โดยการอุดตันของรูขุมขน เกิดจากการรวมตัวของน้ำมันส่วนเกิน คราบเหงื่อ สิ่งสกปรก และเซลล์ผิวที่ตายแล้วภายในรูขุมขน การสครับผิวจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดรูขุมขนอุดตัน รวมทั้งลดความเสี่ยงในการเกิดสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ
  • สครับหน้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบำรุงผิว (Enhances Product Absorption) เมื่อเซลล์ผิวที่ตายถูกกำจัดออกไป ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น เซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์ จะซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • สครับหน้าช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ (Even Skin Tone) การสครับจะช่วยลดรอยดำ รอยแดง หรือจุดด่างดำที่เกิดจากสิวหรือแสงแดดบริเวณผิวชั้นบนออก ทำให้ผิวมีสีที่สม่ำเสมอและเรียบเนียน
  • สครับหน้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด (Improves Blood Circulation) โดยการนวดขณะสครับช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง ซึ่งส่งผลให้ผิวดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
  • สครับหน้าช่วยลดความหยาบกร้านของผิว (Smoother Skin Texture) เพราะการสครับจะทำให้ผิวที่เคยหยาบกร้านเนียนนุ่มและให้ความรู้สึกเรียบลื่นมากขึ้น เหมาะสำหรับการเตรียมผิวก่อนการแต่งหน้า
  • สครับหน้าช่วยลดการเกิดขนคุด (Prevents Ingrown Hairs) การสครับผิวหน้าสามารถช่วยลดการเกิดขนคุด โดยการขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายที่อาจไปรบกวนการงอกของเส้นขนใหม่
  • สครับหน้าช่วยลดความมันส่วนเกิน (Controls Excess Oil) สำหรับคนที่มีผิวมัน การสครับช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกิน ทำให้ผิวสมดุลมากขึ้น ลดโอกาสที่เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้อีกด้วย

ถึงแม้การสครับผิวหน้าจะมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ก็ไม่ควรสครับหน้าบ่อยเกินไป รวมทั้งควรเลือกวิธี​​และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือทำให้ผิวหน้าบางลง

สครับหน้ามีกี่ประเภท?

การสครับหน้ามีหลายประเภท ขึ้นอยู่ส่วนผสม ประเภทของเม็ดขัด และสารบำรุงต่าง ๆ ในตัวสครับ โดยประเภทของสครับสำหรับผิวหน้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. สครับจากธรรมชาติ

สครับจากธรรมชาติ (Natural Scrub) เป็นสครับประเภทที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อผลัดเซลล์ผิว เช่น น้ำตาล, เกลือ, ข้าวโอ๊ต, กากกาแฟ หรือสมุนไพร สครับประเภทนี้มักมีเม็ดขัดที่ค่อนข้างใหญ่และให้ความรู้สึกถึงเนื้อสัมผัสจากธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม สครับจากธรรมชาติในแต่ละสูตรอาจมีการเพิ่มส่วนประกอบอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไป เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการดูแลผิว เช่น การใส่น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอาร์แกน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว 

โดยข้อดีของสครับจากธรรมชาติ คือ ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี อ่อนโยนต่อผิวมากกว่าสครับชนิดอื่น ๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย 

อย่างไรก็ตามการใช้สครับจากธรรมชาติควรใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากเม็ดขัดที่หยาบอาจทำให้ผิวระคายเคืองถ้าใช้งานไม่เหมาะสม และก่อนใช้ควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ทุกครั้ง เพราะสครับจากธรรมชาติอาจมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าสครับจากสารสังเคราะห์

2. สครับจากสารสังเคราะห์

สครับจากสารสังเคราะห์ (Synthetic Scrub) เป็นสครับประเภทที่มีเม็ดขัดที่ผลิตจากพลาสติก หรือไมโครบีดส์ (Microbeads) ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ (Polymer) ที่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กและเรียบเพื่อลดการระคายเคืองต่อผิว

สครับประเภทนี้มักเน้นการผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนและควบคุมการเสียดสีได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังสามารถผสมสารเคมีที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เช่น กรด AHA หรือ BHA เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว

ปัจจุบันสครับจากสารสังเคราะห์ไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะมีกฎหมายในการห้ามผลิตในหลายประเทศ เนื่องจากเม็ดบีดส์อาจไปทำระบบนิเวศน์และสร้างมลภาวะทางท้องทะเล จึงมีการใช้โจโจบาบีดส์ที่เป็นเม็ดสครับที่ทำมาจากไขของพืชโจโจบา ที่มีลักษณะคล้ายไมโครบีดส์มาก แต่มีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า รวมทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้แทน

3. สครับผสมสารบำรุงผิว

สครับผสมสารบำรุงผิว (Scrub with Skin-Nourishing Ingredients) เป็นสครับประเภทที่ผสมผสานระหว่างเม็ดขัดผิวและสารบำรุงผิว เช่น วิตามินอี, คอลลาเจน, สารสกัดจากพืช หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวในขณะผลัดเซลล์ผิว

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลัดเซลล์ผิวและบำรุงผิวในขั้นตอนเดียว โดยสครับประเภทนี้มักมีเนื้อสัมผัสที่อ่อนโยน ช่วยลดความเสี่ยงในการระคายเคืองและทำให้ผิวชุ่มชื้นหลังใช้งาน

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

วิธีเลือกสครับให้เหมาะกับผิว

การสครับผิวหน้าเป็นวิธีดูแลผิวที่ง่ายและสะดวก แต่การเลือกสครับให้เหมาะกับผิวหน้าอาจมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าที่คิด อย่างไรก็ตาม การเลือกสครับให้เหมาะกับผิวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวและลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองได้

1. ทำความเข้าใจสภาพผิวของตัวเอง

สภาพผิวของคนเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ลักษณะ ได้แก่ ผิวปกติ ผิวแห้ง ผิวมัน และผิวผสม ซึ่งการเลือกใช้สครับให้เหมาะกับสภาพผิว จะช่วยสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังใช้ได้รวดเร็วมากขึ้น

  • ผิวแห้ง (Dry Skin) คนที่มีผิวประเภทนี้ ผิวจะตึง ลอกเป็นขุย ควรเลือกสครับที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น เช่น น้ำมันธรรมชาติ, วิตามินอี หรือสารสกัดจากอโวคาโด หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมทั้งช่วยผลัดเซลล์ผิวโดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น
  • ผิวมัน (Oily Skin) สังเกตได้จากความวาวบนผิว รวมทั้งคนที่มีผิวประเภทนี้มักมีปัญหาสิวหัวดำร่วมด้วย จึงควรเลือกสครับที่ช่วยลดความมันและทำความสะอาดรูขุมขนได้ล้ำลึก เช่น ถ่านชาร์โคล (Charcoal) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
  • ผิวผสม (Combination Skin) สังเกตได้จากการมีผิวมันบริเวณทีโซน แต่หน้าแก้มมีผิวแห้ง ลอกเป็นขุย คนที่มีผิวแบบนี้ควรเลือกสครับที่อ่อนโยนและมีส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลของน้ำมัน หรืออาจเลือกการใช้สครับสองตัวให้เหมาะกับบริเวณที่มีสภาพผิวที่ต่างกัน

ส่วนคนที่มีผิวปกติสามารถเลือกใช้สครับได้ทุกแบบ แต่ควรหลีกเลี่ยงสครับที่มีน้ำหอม ใส่สารกันเสีย และมีขนาดเม็ดขัดที่หยาบเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้

2. วิตามินบำรุงผิวพรรณแบบใช้ภายนอก

วิตามินบำรุงผิวพรรณแบบใช้ภายนอกหรือครีมบำรุงผิว เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูและดูแลสุขภาพผิวโดยตรง 

ส่วนมากมักจะมาในรูปแบบเซรั่ม ครีม หรือโลชั่น ซึ่งเน้นการบำรุงเฉพาะจุด เช่น การเพิ่มความชุ่มชื้น, ลดเลือนริ้วรอย, ลดจุดด่างดำ และช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น 

โดยวิตามินที่นิยมนำมาใช้ครีมบำรุงผิว ได้แก่ วิตามินซี ที่ช่วยลดจุดด่างดำและเสริมความกระจ่างใส วิตามินอี ที่ให้ความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว และวิตามินเอ (เรตินอล) ที่ช่วยลดริ้วรอยและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวเฉพาะตัวเลยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

2. พิจารณาขนาดและลักษณะของเม็ดขัด

  • การเลือกเม็ดสครับ ควรเลือกเม็ดสครับที่มีขนาดพอดี ไม่ใหญ่มากเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง เม็ดสครับจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาล, เกลือ หรือโจโจบาบีดส์
  • การเลือกสารบำรุงผิว เพราะสครับที่ดีควรมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวที่แก้ปัญหาผิวอยู่ด้วย เช่น กรด AHA หรือวิตามินซี
  • ตรวจเช็กสารกันเสีย โดยเราควรเลือกสครับที่ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย หรือเลือกใช้สารกันเสียที่อ่อนโยนต่อผิว

3. เลือกสูตรที่เหมาะสมกับปัญหาผิว

เพื่อให้การสครับผิวหน้ามีประสิทธิภาพ เราควรเลือกสูตรสครับที่มีคุณสมบัติในการแก้ปัญหาผิวที่กำลังเผชิญอยู่ด้วย โดยอาจเลือกจากส่วนผสมเหล่านี้ เช่น

  • วิตามินซี (Vitamin C) มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และต้องการให้ผิวแข็งแรง
  • นิอาซินาไมด์ (Niacinamide) คือ วิตามินบี 3 รูปแบบหนึ่ง มีคุณสมบัติในการกระตุ้นกระบวนการสร้างเซราไมด์ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนรอยแดงให้จางลง
  • กรดผลไม้ (AHA) คือ สารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด มีคุณสมบัติในการลดเลือนจุดด่างดำ ริ้วรอยเหี่ยวย่น รวมถึงติ่งเนื้อเล็ก ๆ บริเวณใบหน้าและลำคอ

การเลือกสครับให้เหมาะกับผิวต้องพิจารณาตามความต้องการเฉพาะของผิวแต่ละคน รวมทั้งควรเลือกซื้อสครับจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

ข้อควรระวังในการสครับหน้า

การสครับหน้าเป็นวิธีการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพ แต่การสครับหน้าอย่างผิดวิธีอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการสครับมีประสิทธิภาพควรระวังการทำพฤติกรรมเหล่านี้

  • ไม่ควรสครับหน้ามากเกินไป อาจทำให้ผิวหน้าถูกทำลายและสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวระคายเคือง แห้ง หรือไวต่อแสงแดด โดยการสครับหน้าที่ดีควรทำเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
  • ไม่ควรขัดผิวหน้าแรงเกินไป เพราะในสครับจะมีเม็ดขัดขนาดเล็กอยู่ การขัดผิวแรงเกินไปอาจทำให้เกิดรอยแผล หรือทำให้ผิวอักเสบ และแสบเมื่อโดนน้ำได้ โดยเฉพาะในคนที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย ควรใช้มือขัดเบา ๆ หมุนวนเป็นวงกลม เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง
  • ไม่ควรสครับหน้าขณะผิวมีปัญหา เช่น สิวอักเสบ, แผลเปิด หรือผื่นแดง เพราะตอนที่มีปัญหาผิวเหล่านี้ ผิวมักจะมีความบอบบางและบาดเจ็บอยู่แล้ว การสครับหน้าในช่วงนี้อาจทำให้ปัญหาผิวลุกลามและเพิ่มโอกาสในการเกิดการติดเชื้อได้
  • ไม่ควรสครับผิวในบริเวณที่บอบบาง โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา เนื่องจากผิวบริเวณนี้บางและบอบบางที่สุด การสครับอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอาจกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยได้
  • ไม่ควรใช้สครับร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์แรง โดยหลังการสครับ ผิวอาจไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดแรง เช่น กรด AHA, BHA หรือเรตินอลในทันที เพราะอาจทำให้ผิวแสบแดง

นอกจากนี้แล้วเรายังควรดูแลความสะอาดของมือและอุปกรณ์ที่ใช้สครับอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือสิว รวมทั้งหลังการสครับ ผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น จึงควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปทุกครั้งที่ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อลดโอกาสในการเกิดจุดด่างดำหรือผิวไหม้

นอกจากสครับหน้า มีวิธีผลัดเซลล์ผิวอย่างไรบ้าง?

นอกจากสครับหน้าแล้ว ยังมีวิธีผลัดเซลล์ผิวอีกหลากหลายวิธีค่ะ ซึ่งแต่ละวิธีต่างมีข้อดี ข้อจำกัด และเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันไป เช่น

1. ผลัดเซลล์ผิวด้วยทรีตเมนต์ผิว

ทรีตเมนต์ผิว (Treatment)  คือ การเติมสารอาหารต่าง ๆ ให้กับผิวหน้าโดยตรงผ่านเทคนิคต่าง ๆ ซึ่งการทำทรีตเมนต์แต่ละครั้งอาจประกอบไปด้วยการดูแลผิวเพียงปัญหาเดียวหรือหลาย ๆ ปัญหารวมกัน

สำหรับคนที่อยากผลัดเซลล์ผิว การทำทรีตเมนต์ผิวที่ Better Me Clinic นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะที่นี่มีทรีตเมนต์สูตร Golden Treatment ซึ่งเป็นทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมของทองคำบริสุทธิ์ มีคุณสมบัติในการเพิ่มกระบวนการเมแทบอลิซึมของเซลล์ผิว กระตุ้นการผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพออก

หลังทำช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน แน่นกระชับ เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลทุกปัญหาผิว และให้ความสำคัญในเรื่องการฟื้นฟูให้ผิวสว่างกระจ่างใสโดยเฉพาะ

2. ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี

การผลัดเซลล์ผิวด้วยการใช้สารเคมี (Chemical Peels) เป็นกระบวนการที่ใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ เช่น กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) หรือ AHA และกรดเบต้าไฮดรอกซี (Beta Hydroxy Acid) หรือ BHA เข้าไปทำให้ผิวชั้นนอกของหน้าที่เป็นกระแดดหลุดออกและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ 

อย่างไรก็ตาม การที่ไม่มีอะไรมาขัดที่ผิวทำให้การผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วยสารเคมี มีโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองน้อยกว่าแบบสครับ โดยที่ Better Me Clinic มี 4 สูตร Magic Peeling ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เลือกดังนี้

  • Baby Peeling เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ
  • Acne Peeling เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวผด โดยสารเคมีจะเข้าไปช่วยลดอาการสิวอักเสบ ฆ่าเชื้อสิว และยังทำให้สิวแห้งไวยิ่งขึ้น
  • Scar Peeling เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหารอยแดง รอยดำ แผลเป็นจากสิว โดยสารเคมีจะช่วยให้รอยเหล่านี้จางไวขึ้น และยังช่วยลดรอยแตกลายหรือรอยแผลเป็นได้อีกด้วย
  • Poreless Peeling เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง มีริ้วรอยร่องตื้น โดยการผลัดเซลล์ผิวด้วยสูตรนี้จะช่วยกระชับรูขุมขน และลดความมันของผิวหน้าได้ในคราวเดียว

การผลัดเซลล์ผิวด้วยการใช้สารเคมีจำเป็นที่จะต้องมีการประเมินสภาพและปัญหาผิวเหมือนกับหัตถการอื่นๆ โดยแพทย์จะแนะนำสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวและตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการให้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยก่อนการทำ Peeling ควรงดการมาสก์หน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการ Peeling หรือการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี

สรุปเกี่ยวกับการสครับหน้า

การสครับผิวหน้าเป็นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวชั้นบน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใส และลดการอุดตันของรูขุมขน โดยสครับมีหลากหลายประเภท เช่น สครับจากธรรมชาติ, สครับจากสารสังเคราะห์ และสครับผสมสารบำรุงผิว 

อย่างไรก็ตาม การเลือกสครับควรคำนึงถึงสภาพผิวและปัญหาผิวเฉพาะตัว ควรระวังการขัดสครับที่แรงเกินไป หลีกเลี่ยงการสครับบ่อย ๆ และปกป้องผิวจากแสงแดดหลังการสครับ เพื่อป้องกันการระคายเคืองและผลเสียต่อผิว

ถ้ายังไม่มั่นใจว่าควรเลือกผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตถการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคส หากสนใจ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับรองว่าคุณจะมีผิวสวย ๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน

  • Shree, T. Your ultimate face scrub guide: How to find the perfect one for your skin type. (2024, September 10). Health Shots. https://www.healthshots.com/recommends/how-to-choose-the-best-face-scrub/
  • 4 สูตร Magic Peeling ผลัดเซลล์ผิว ลดสิวด้วยกรดผลไม้จากธรรมชาติ. Better Me Clinic. https://bettermeclinicofficial.com/aesthetic/skin-brightening/peeling/
  • ทรีตเมนต์นวดหน้าใส สวยได้ ไม่ต้องง้อเข็ม. Better Me Clinic. https://bettermeclinicofficial.com/aesthetic/skin-brightening/treatment/
  • การผลัดเซลล์ผิวหน้า คืออะไร?. Eucerin. https://www.eucerin.co.th/about-skin/derms-articles/exfoliate
  • การผลัดเซลล์ผิวหน้า คืออะไร?. TNP. https://www.eucerin.co.th/about-skin/derms-articles/exfoliate
  • Scrub มีกี่ประเภท? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวคุณ, (2567, มิถุนายน 24). TNP
  • https://www.tnpoem.com/blog/7897/scrub-มีกี่ประเภท-เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวคุณ

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ