fbpx

🔥FREE! Schedule a 3D Facial Design consultation with Dr.Chanya only this month 🇺🇸 🇰🇷 🔥

ฉีดหน้าใสคืออะไร? เหมาะกับใคร กี่ครั้งถึงเห็นผล พร้อมวิธีเลือกคลินิกที่มีประสิทธิภาพ

ฉีดหน้าใสคืออะไร? เหมาะกับใคร กี่ครั้งถึงเห็นผล พร้อมวิธีเลือกคลินิกที่มีประสิทธิภาพ
ฉีดหน้าใสคืออะไร? เหมาะกับใคร กี่ครั้งถึงเห็นผล พร้อมวิธีเลือกคลินิกที่มีประสิทธิภาพ

การฉีดหน้าใสได้รับความนิยมอย่างมากในคนที่ต้องการมีผิวหน้าที่ดูกระจ่างใส ดูสุขภาพดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าวิธีนี้ดีจริงหรือไม่ มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง และต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

ในบทความนี้ Better Me Clinic จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดหน้าใส ตั้งแต่ประเภทของสารที่ใช้ฉีด ประโยชน์ ผลข้างเคียง รวมถึงวิธีเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ!

โปรแกรมฉีดหน้าใสคืออะไร?

โปรแกรมการฉีดหน้าใส คือการฉีดสารบางชนิดเข้าสู่ผิวหน้าเพื่อช่วยให้ผิวดูขาว กระจ่างใส และช่วยลดความหมองคล้ำ โดยสารที่ใช้มักมีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน รวมถึงช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและดูสุขภาพดีมากขึ้น ซึ่งสารที่นิยมใช้ในโปรแกรมฉีดหน้าใสมักประกอบไปด้วย 4 ตัวหลัก ๆ ได้แก่ 

  • กลูตาไธโอน (Glutathione) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ผิวดูสุขภาพดีมากขึ้น
  • วิตามินซี (Vitamin C) มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าดูเนียนนุ่มและเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังช่วยเสริมฤทธิ์ของกลูตาไธโอนในการทำให้ผิวกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ และช่วยป้องกันริ้วรอยด้วย
  • คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว การฉีดคอลลาเจนเข้าสู่ผิวหน้าจะช่วยให้ผิวหน้าดูสุขภาพดีขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เช่น อัลฟาไลโปอิกแอซิด (Alpha Lipoic Acid), NAC (N-Acetylcysteine) และวิตามินบีรวม ก็มีบทบาทสำคัญในการบำรุงผิวให้กระจ่างใสขึ้นและช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะได้ โดยสารเหล่านี้จะช่วยลดความหมองคล้ำของผิวและเสริมสร้างสุขภาพผิวจากภายใน

โปรแกรมฉีดหน้าใสเหมาะกับใคร?

การฉีดหน้าใสอาจเป็นทางเลือกสำหรับบางคนที่ต้องการปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการฉีดหน้าใส ดังนั้นควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ โดยกลุ่มคนที่อาจเหมาะกับการฉีดหน้าใส ได้แก่

  • ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำจากปัจจัยภายนอก คนที่ต้องเจอกับแสงแดดจัดเป็นเวลานาน มลภาวะ ฝุ่นละออง และสารเคมีจากเครื่องสำอาง อาจทำให้ผิวหมองคล้ำและเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ โปรแกรมฉีดหน้าใสอาจช่วยให้ผิวกลับมาดูกระจ่างใสขึ้นและช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากสิ่งแวดล้อม
  • ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำจากปัจจัยภายใน บางคนมีปัญหาผิวหมองคล้ำจากภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนไม่สมดุล ขาดสารอาหาร หรือร่างกายสะสมสารพิษ การฉีดสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กลูตาไธโอนและวิตามินซี อาจช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินและช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นจากภายใน
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น หลายคนเลือกฉีดหน้าใสเพื่อบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดีขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ หรือผิวดูโทรมจากความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ

 

ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง
ปรึกษาหมอชัญญาโดยตรง

โปรแกรมฉีดหน้าใสอันตรายไหม?

โดยทั่วไปการฉีดหน้าใสนั้นไม่เป็นอันตราย แต่ก็มีความเสี่ยงและอาจเป็นอันตรายได้ หากใช้สารที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสม 

ถึงแม้สารที่นิยมใช้ในการฉีดหน้าใสอย่างกลูตาไธโอน วิตามินซี คอลลาเจน และสารต้านอนุมูลอิสระจะมีประโยชน์ต่อผิวพรรณมาก แต่ถ้าได้รับมากเกินไปหรือนำเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ผ่านการควบคุมที่เหมาะสมก็อาจส่งผลเสียและเกิดอาการแพ้รุนแรงได้ เช่น ผื่นคัน หรือบวมแดง

อีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงคือ มาตรฐานของสถานพยาบาลและความสะอาดของอุปกรณ์ หากสถานที่ฉีดไม่มีมาตรฐาน หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ ก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดหน้าใส ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน รวมถึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้มั่นใจและเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับตนเองก่อน

ฉีดหน้าใสกี่ครั้งถึงเห็นผล?

ต้องฉีดหน้าใสกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ขึ้นอยู่กับแต่ละโปรแกรมว่าใช้สารตัวไหนในการฉีด ปริมาณที่ใช้ ความถี่ในการฉีด และสภาพผิวของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่มักเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังจากฉีดหน้าใสประมาณ 3-5 ครั้ง ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์

โปรแกรมฉีดหน้าใสมีอะไรบ้าง?

ปัจจุบันโปรแกรมฉีดหน้าใสมีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยโปรแกรมฉีดหน้าใสที่ Better Me Clinic แนะนำ มีดังนี้

  • รีจูรัน (Rejuran Healer) เป็นการฉีดสารโพลีนิวคลีโอไทด์ (PN) ซึ่งสกัดจาก DNA ของปลาแซลมอนเข้าไปในชั้นผิว ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์และฟื้นฟูผิวจากภายใน ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและอ่อนเยาว์ขึ้น ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และช่วยให้ผิวเรียบเนียน ช่วยลดรอยดำ รอยแดง และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย
  • เอ็กโซโซม (Exosome) เป็นการบำรุงผิวในรูปแบบของการฉีดสารสกัดที่พัฒนามาจากเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ โดยใช้สารสื่อกลางขนาดเล็ก (นาโนพาร์ติเคิล) ที่มีชื่อว่า Exosome ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน ชะลอการเสื่อมของเซลล์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส อิ่มฟู ฉ่ำวาว และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว
  • Sculptra เป็นสารเติมเต็มประเภท Biostimulator ที่มีส่วนประกอบหลักอย่าง Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่เป็นตัวผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวได้ ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ดูเต่งตึง อิ่มฟู และยกกระชับ นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและดูสุขภาพดีขึ้นด้วย
  • Belotero Revive เป็นสารเติมเต็มที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวที่แห้ง ขาดน้ำ หมองคล้ำ และมีริ้วรอย โดย Belotero Revive จะช่วยเติมเต็มร่องตื้น เติมความชุ่มชื้น ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และฟื้นฟูผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นได้

ฉีดหน้าใสที่ไหนดี?

หากยังไม่แน่ใจว่าควรฉีดหน้าใสที่ไหนดี? ให้ Better Me Clinic เป็นหนึ่งในทางเลือก เรามีบริการฟื้นฟูผิวให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรีจูรัน เอ็กโซโซม Sculptra และการฉีดสารเติมเต็ม ทุกบริการเราให้คำปรึกษาและดูแลโดยแพทย์

ถ้าหากยังไม่มั่นใจว่าควรดูแลผิวด้วยวิธีใด สามารถติดต่อเข้ามาที่ Better Me Clinic by Dr. Chanya เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตถการที่เหมาะสมแบบเคสบายเคสได้เลย ติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic ปรึกษาคุณหมอฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ฉีดหน้าใส

1. ฉีดหน้าใสครั้งเดียวเห็นผลไหม?

การฉีดหน้าใสสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าเป็นการฉีดสารบำรุงผิวอย่างวิตามินหรือไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความฉ่ำวาวให้ผิว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้มักเป็นเพียงผลลัพธ์ชั่วคราว แต่ถ้าจะให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นควรทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3–5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิม การดูแลผิวหลังทำ และโปรแกรมที่เลือกใช้บริการ

2. ฉีดหน้าใสแล้วจะกลับไปดำได้อีกไหม?

หลังฉีดหน้าใสแล้วผิวสามารถกลับมาหมองคล้ำได้อีกถ้าไม่ดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะการฉีดหน้าใสจะช่วยฟื้นฟูผิวแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้ายังเจอแสงแดด ฝุ่น มลภาวะ นอนดึก หรือไม่ทาครีมกันแดด ผิวก็จะกลับมาหมองได้อีกเช่นกัน ดังนั้นถ้าอยากให้ผิวใสอยู่ได้ยาวนาน ควรดูแลทั้งภายในและภายนอกควบคู่กัน เช่น ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ

3. ฉีดหน้าใสแล้วไม่เห็นผลเป็นเพราะอะไร?

การฉีดหน้าใสแล้วไม่เห็นผลอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น พันธุกรรมที่มีเม็ดสีผิวเข้มทำให้ร่างกายไม่ตอบสนองต่อสารบำรุงได้ดีพอ หรือการฉีดไม่ต่อเนื่องและปริมาณสารออกฤทธิ์ไม่เพียงพอทำให้ไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ไม่ทาครีมกันแดด ไม่ดูแลผิว หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวกลับมาหมองคล้ำได้เร็ว

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ